พาณิชย์กระตุ้นการค้าชายแดนใต้ เปิดประตูเมืองเบตง สร้างรายได้เข้าประเทศ

พาณิชย์กระตุ้นการค้าชายแดนใต้ เปิดประตูเมืองเบตง สร้างรายได้เข้าประเทศ

พาณิชย์เดินหน้า “มหกรรมการค้าชายแดน” พาเหรดสู่จังหวัดยะลา เปิดประตูเมืองเบตง 7-8 พ.ค.นี้ มั่นใจหนุนผู้ประกอบการต่อยอดจับคู่ธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ดันมูลค่าส่งออกโตต่อเนื่อง

นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานเปิดงานมหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดยะลา ว่า มหกรรมการค้าชายแดนจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 8 พ.ค. 2565 ณ บริเวณสวนน้ำเทศบาลเมืองเบตง อำเภอเบตง ซึ่งต้องขอบคุณกระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศเป็นอย่างยิ่ง ที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมเศรษฐกิจและการค้าชายแดนของจังหวัดยะลา โดยเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  พร้อมด้วยคณะผู้บริหารได้เดินทางมาประชุม และติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน ณ ด่านพรมแดนเบตง ตามมาด้วยการจัดงานมหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดยะลา ที่จัดโดยกรมการค้าต่างประเทศ

จังหวัดยะลา เป็นจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับรัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในการเชื่อมโยงการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยวกับประเทศมาเลเซีย โดยมีด่านพรมแดนเพียง   1 ด่าน คือ ด่านพรมแดนเบตง ตั้งอยู่ในอ.เบตง ซึ่งเป็น 1 ใน 9 ด่านพรมแดนที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจในภาคใต้ ในปี 2564 มีมูลค่าการค้า 3,644 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าการส่งออก 3,532 ล้านบาท การนำเข้า 112  ล้านบาท มีมูลค่าการค้ารวมสูงเป็นอันดับ 3 ของด่านพรมแดนไทยที่ติดกับประเทศมาเลเซีย รองจากด่านพรมแดนสะเดา และด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา มีสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น ยางพารา ผลไม้สด   แช่เย็น แช่แข็ง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไม้อัด และเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น

พาณิชย์กระตุ้นการค้าชายแดนใต้ เปิดประตูเมืองเบตง สร้างรายได้เข้าประเทศ

นายธีรุตม์ กล่าวว่า  อ.เบตง นอกจากจะมีความสำคัญด้านการค้าและการลงทุนแล้ว ยังมีความสำคัญทางด้านการท่องเที่ยวด้วย โดยมีคำขวัญที่ว่า “เมืองในหมอก ดอกไม้งาม ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน” มีจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงาม สามารถชมทะเลหมอกได้ตลอดทั้งปี ทำให้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่จะมาสัมผัสความสวยงามอย่างไม่ขาดสาย ถือเป็นเพชรเม็ดเอกในด้านการท่องเที่ยวและการพัฒนาของจังหวัดชายแดนภาคใต้

นายธัชชญาน์พล อภิมนต์เตชบุตร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า มหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดยะลา เป็น 1 ใน 8 กิจกรรมภายใต้แผนการจัดงานมหกรรมการค้าชายแดน ปี 2565 ของกรมการค้าต่างประเทศ โดยการจัดงานในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานพันธมิตร หลายหน่วยงาน ประกอบด้วยหน่วยงานภายในกระทรวงพาณิชย์ คือ  กรมการค้าต่างประเทศ    กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล)  และหน่วยงานภายนอกกระทรวงพาณิชย์ คือ  ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย 

สำหรับกิจกรรมหลักภายในงานจะประกอบด้วย 2 กิจกรรม คือ การแสดงและจำหน่ายสินค้าส่งออกชั้นนำมากกว่า 80 รายการ โดยเป็นสินค้าเด่นจาก 5 จังหวัดชายแดนใต้ อาทิ สินค้าเกษตร อาหาร และสินค้าชุมชนที่มีชื่อเสียงของจังหวัดแต่ละจังหวัด เช่น ผลิตภัณฑ์จากยางพารา ผลิตภัณฑ์กระเป๋าใยตาลโตนด ผ้าบาติก ผลิตภัณฑ์จากกระจูด ข้าวเกรียบปลา ปลากุเลาตากใบ โรตีสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์จากกล้วย นมถั่วเหลือง และน้ำพริก เป็นต้น   การเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการการค้าชายแดนกับผู้นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ มาเลเซีย เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา สิงคโปร์ และเวียดนาม

“ขอเชิญชวนประชาชนจังหวัดยะลาและจังหวัดใกล้เคียง   เข้าเยี่ยมชมงานแสดงและจำหน่ายสินค้าที่จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 7 – 8 พ.ค. 2565 ณ บริเวณสวนน้ำเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จังหวัดยะลา ซึ่งมีสินค้าหลากหลายให้จับจ่ายใช้สอย และเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าชายแดนของไทย”นายธัชชญาน์พล กล่าว