“จุรินทร์” โชว์วิชั่น ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ด้วยนโยบาย”รุก-ลึก”

“จุรินทร์”  โชว์วิชั่น ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ด้วยนโยบาย”รุก-ลึก”

“จุรินทร์”ย้ำ บนเวทีสภาหอการค้าทั่วประเทศ ไทยเจอวิกฤตซ้ำซ้อน ทำจีดีพีหดเหลือ 3.5 % พาณิชย์เดินหน้าส่งออก ดูแลราคาพืชผลทางเกษตร และดูแลราคาสินค้า

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “การสนับสนุนการค้าของไทยกับนานาชาติ” ในงานสัมมนาสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย “Enhance the Dots” ว่า  ประเทศไทยของเรากำลังเผชิญวิกฤติซ้อนวิกฤต ทั้งเศรษฐกิจ โควิดและมาเจอวิกฤติสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซ้อนมาอีก แต่เจอกันทั้งโลก ประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้น ตัวเลข IMF ก่อนเกิดวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน คาดว่า GDP ปี 2565 จะโตได้ 4.4% แต่เมื่อมาเจอวิกฤตลดจาก 4.4 % เหลือ 3.6%

สำหรับประเทศไทยคาดการณ์ว่าปี 2565 GDP จะโตประมาณ 3.5-4.5% ล่าสุดประเมินเหลือ 3.5% การส่งออกยังจะคงเป็นพระเอกต่อไปในปี 2565 ปีที่แล้วการส่งออกคิดเป็น 58% ของGDP ซึ่งเป็นสินค้า 53% บริการ 5% เดิมเหมือนเราตั้งเป้าส่งออกปี 2565 น่าจะโตได้ 3-4%  แต่ตัวเลขส่งออกของไทยกลับกันกับ GDP โลก จะบวกเพิ่มขึ้น 6-8%  แบงค์ชาติประมาณว่าส่งออกน่าจะโตได้ถึง 6% ซึ่งไตรมาสที่หนึ่งโตไป 15% แล้ว เดือน ม.ค.-มี.ค.นำเงินเข้าประเทศแล้ว 2.4 ล้านล้านบาท เฉพาะเดือน มี.ค.เดือนเดียวเป็น +20% ทำเงินเข้าประเทศ 9.2 แสนล้านบาท และปีนี้ตั้งเป้าว่าจะนำเงินเข้าประเทศจากเดิม  8.5 ล้านล้านบาท ปีนี้จะทำให้ได้ 9 ล้านล้านบาทเป็นอย่างต่ำ

 

การท่องเที่ยวก็สำคัญวันนี้เราเริ่มนับหนึ่งแล้วจะเป็นตัวช่วยในการส่งออกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ก่อนโควิดท่องเที่ยวของไทยปี 62 คิดเป็น 11% ของ GDP ปี 63 เหลือ 2.7% และปี 64  เหลือเพียง 0.9% จากนี้เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนช่วยกัน ตั้งเป้าว่าปีนี้ จะนำนักท่องเที่ยวให้ได้ 20,000,000 คน คือความหวังที่จะนำการท่องเที่ยวมาเป็นตัวช่วยการส่งออกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย นอกจากการลงทุนภาครัฐ-เอกชน การบริโภคและอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ปีนี้กระทรวงพาณิชย์มีการบ้าน 3 ข้อ1.ต้องผลักดันการส่งออกต่อไปให้เข้มข้นขึ้น  โดยใช้กลไกกรอ.พาณิชย์ในการเดินหน้าสู่การส่งออก ซึ่งต่อไปจะต้องมีกรอ.พาณิชย์ภูมิภาคเพื่อแก้ปัญหาในแต่ละภาค  การเร่งทำข้อตกลงทางการค้าหรือเอฟทีเอ  และตนได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลก ทำแผนใหม่รุกและลึกขึ้น ปี 2565 พื้นที่ตลาดเป้าหมายจะเป็นเมืองไหนรัฐไหนหรือโซนไหนของประเทศคู่ค้าของไทย และการเร่งเปิดการค้าชายแดนพร้อมทั้งสร้างคนรุ่นใหม่ ผ่าน โครงการปั้น Gen Z โดยปีนี้จะปั้นให้ได้ 1,000 คนเป็นแม่พักบุกตลาดฮาลาลในอนาคต

 

 

 

 2.ดูแลราคาพืชผลการเกษตร โดยปีนี้ราคาพืชเกษตรดีเกือบทุกตัว และ3. 3.ดูแลค่าครองชีพของผู้บริโภคคนไทยทั้งประเทศ ที่ตนยึดหลัก 3 ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราคาสินค้า 1.ต้นน้ำเกษตรกร 2.กลางน้ำผู้ประกอบการกับผู้ส่งออก 3.ปลายน้ำผู้บริโภค ซึ่งผลประโยชน์ย้อนแย้งกันอยู่ ตนจะใช้ วิน-วินโมเดล ทำอย่างไรให้ทั้ง 3 ฝ่ายอยู่กันได้ด้วยดี

จากนี้เราต้องเดินหน้าด้วยนโยบาย 2 ข้อผสมผสาน คือ1.นโยบายเชิงรุก Proactive Trade Policyและ2.ต้องลึก ln-Depth Policy ทั้งเชิงรุกและเชิงลึกจะต้องไปด้วยกัน