“บิ๊กป้อม"ลุยแก้แล้งซ้ำซากลุ่มน้ำสะแกกรัง

“บิ๊กป้อม"ลุยแก้แล้งซ้ำซากลุ่มน้ำสะแกกรัง

“ประวิตร"ระดมทุกหน่วยงานขับเคลื่อนแผนการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำและน้ำท่วมของลุ่มน้ำสะแกกรัง จี้กรมชลประทานก่อสร้างฝายชั่วคราวเร่งผลศึกษาSEAโครงการก่อสร้างประตูระบาย

นายสมเกียรติ  ประจำวงษ์ ประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายภาคในพื้นที่ภาคกลางเป็นประธานการประชุมติดตามแผนงานโครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี ตามข้อสั่งการของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี   โดยมีนายขจรเกียรติ   รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี​ ดร.ทวีศักดิ์​ ธนเดโชพล​  รองอธิบดีกรมชลประทาน​ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.จังหวัดอุทัยธานีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม​   จากนั้นได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้างานวางท่อขยายเขตจำหน่ายน้ำ  ตำบลหนองกลางตง อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี

 

“บิ๊กป้อม\"ลุยแก้แล้งซ้ำซากลุ่มน้ำสะแกกรัง

      นายสมเกียรติ กล่าวว่า​  ตามที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และประธานกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ลงพื้นที่ตรวจราชการการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จ.อุทัยธานีเมื่อวันที่  21 มีนาคม2565   และจ.อุทัยธานี ได้ชี้แจงปัญหาเรื่องน้ำและความต้องการของจังหวัด 3 เรื่อง ได้แก่

ขอให้เร่งรัดการพัฒนาอ่างเก็บน้ำมอโค้ อ.บ้านไร่  ขอให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายระบบส่งน้ำจากโครงการผันน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ที่อยู่ระหว่างการศึกษาของสทนช.มายังพื้นที่จ.อุทัยธานีและขอให้เร่งพัฒนาการใช้น้ำบาดาลในพื้นที่แล้งซ้ำซาก “

อุทัยธานี มีลักษณะเป็นพื้นที่ราบเชิงเขาจากทิศตะวันตกไปตะวันออก จึงมักประสบปัญหาน้ำป่าไหลหลากในช่วงฤดูฝนและน้ำแล้งในช่วงฤดูแล้ง เนื่องจากมีแหล่งน้ำต้นทุนไม่เพียงพอ การบริหารจัดการน้ำจึงต้องอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก ทำให้เป็นจังหวัดที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค “

  รัฐบาลมีความห่วงใยความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาภัยแล้งเป็นอย่างมากและได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งไปดำเนินการใน 4 ด้านดังนี้  

     1.ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเร่งสำรวจความเดือดร้อนและเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงประสบปัญหาภัยแล้งอย่างรวดเร็วและทั่วถึง

2.ให้จังหวัดอุทัยธานีเสนอแผนงานโครงการสำคัญที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำให้ครอบคลุมในพื้นที่ทั้งระยะสั้นและระยะยาวโดยใช้กลไกของคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด พร้อมสร้างการรับรู้และส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้ามาส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในพื้นที่

 

3.ให้สทนช.รับข้อเสนอในความต้องการของจังหวัดทั้ง๓เรื่องไปบูรณาการร่วมกับกรมชลประทานและกรมทรัพยากรน้ำบาดาลพิจารณาจัดหาน้ำทั้งน้ำบนดินและใต้ดินร่วมกับทุกหน่วยงานและท้องถิ่นและการประปาส่วนภูมิภาคเพื่อก่อสร้างและขยายระบบประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคโดยให้มีแหล่งเก็บน้ำสำรอง ใช้แก้ไขปัญหาในเชิงพื้นที่ในระยะเร่งด่วนและระยะยาว

4.ให้สทนช.เร่งบูรณาการขับเคลื่อนแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือในระยะยาวให้เป็นรูปธรรมอย่างเร็วที่สุด

ด้านดร.ทวีศักดิ์  ธนเดโชพล  รองอธิบดีกรมชลประทาน  กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดแผนการพัฒนาและบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำสะแกกรังว่า ขณะนี้กรมชลประทานได้เร่งรัดจัดทำแผนแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่อุทัยธานีอย่างเป็นระบบทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาวให้เรียบร้อยแล้ว  

รวมทั้งได้ขานรับตามข้อสั่งการของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี    สำหรับสถานการณ์ปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำสะแกกรัง   ปัจจุบันมีความต้องการใช้น้ำในช่วงฤดูฝน 250.60 ล้านลบ.ม. ฤดูแล้ง 236.74 ล้านลบ.ม. ซึ่งขณะนี้กรมชลประทานมีโครงการพัฒนาแหล่งน้ำจำนวน 268 โครงการ ความจุรวม 225 ล้านลบ.ม.แบ่งเป็นพื้นที่ชลประทาน 243,200 ไร่และร้อยละ 14 เป็นพื้นที่เกษตร 

“บิ๊กป้อม\"ลุยแก้แล้งซ้ำซากลุ่มน้ำสะแกกรัง

ส่วนความคืบหน้าในการพัฒนาลุ่มน้ำสะแกกรังสู่โครงการเขื่อนแม่วงก์ขณะนี้มีความก้าวหน้าเป็นลำดับ  ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถยกระดับรายได้ของเกษตรกรให้มีความมั่นคงในชีวิตมากขึ้นจากรายได้เฉลี่ย162.180 บาท/ครัวเรือน/ปีเป็น 258,85บาท/ครัวเรือน/ปี   เพิ่มผลผลิตข้าวจาก 700-740 กก.ไร่เป็น 860-870ไร่  ผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานน้ำได้ 11 ล้านกิโลวัตต์/ชม.คิดเป็นมูลค่า 47ล้านบาท/ปี เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตน้ำประปาและน้ำอุปโภคบริโภคคิดเป็นมูลค่า 122 ล้านบาท/ปีและยังช่วยส่งน้ำรักษาระบบนิเวศน์ท้ายน้ำ 7.0 ล้านลบ.ม./เดือนในช่วงหน้าแล้งอีกด้วย

                สำหรับแผนบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งพื้นที่ลุ่มน้ำสะแกกรังตอนล่างระยะเร่งด่วนมีแผนงานก่อสร้างโครงการปตร.พร้อมอาคารประกอบการพัฒนาบึงน้ำทรง งบประมาณ 120 ล้านเพื่อเพิ่มการระบายน้ำและส่งน้ำให้พื้นที่เกษตร 5,000-7,000 ไร่ช่วยเหลือพื้นที่ต.น้ำทรง อ.พยุหะครี จ.นครสวรรค์และเติมน้ำแม่น้ำสะแกกรัง โครงการพัฒนาบึงขุมทรัพย์  งบประมาณ 200 ล้านช่วยเพื่อการอุปโภคบริโภค 200 ครัวเรือน  การเกษตร 3,000 ไร่ในพื้นที่ต.เกาะเทโพ อ.เมือง จ.อุทัยธานี 

 การปรับปรุงคลองหอมจันทร์ งบประมาณ 60 ล้านบาทเตรียมเสนองานปี  2566  เพื่ออุปโภคบริโภค 70 ครัวเรือน การเกษตร 2,000ไร่ในพื้นที่ต.น้ำทรงอ.พยุหะคีรีจ.นครสวรรค์และงานฝายหัวงานและอาคารประกอบโครงการฝายยางบ้านวังสาธิต  งบประมาณ 135 ล้านบาทช่วยเหลือพื้นที่เกษตร 2,500 ไร่ในพื้นที่บ้านวังสาธิต ต.หนองไผ่แบน อ.เมืองจ.อุทัยธานี  

นอกจากนี้กรมชลประทานยังได้วางแนวทางการดำเนินการในระยะต่อไปอีกด้วย โดยเตรียมเสนอแผนงานโครงการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมการพัฒนาแม่น้ำสะแกกรังจังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์และกำแพงเพชรให้แล้วเสร็จภายในปี 2565 นี้   พร้อมเชื่อมั่นว่าการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำและน้ำท่วมของลุ่มน้ำสะแกกรังอย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องมีแหล่งกักเก็บน้ำที่เพียงพอรองรับสถานการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

             “กรมชลประทานจะเร่งรัดการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและการเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำกั้นปากแม่น้ำสะแกกรังให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อให้สามารถดำเนินโครงการฯได้ตามแผนที่กำหนด พร้อมทั้งเร่งรัดงานก่อสร้างฝายชั่วคราวกั้นแม่สะแกกรังต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานีให้แล้วเสร็จโดยเร็วตามข้อสั่งการของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

โดยฝายดังกล่าวมีระดับน้ำเก็บกักที่สันฝายอยู่ที่ระดับ+14.50 ม.รทภ.อัตราการระบายน้ำผ่านฝายสูงสุดประมาณ 850ลบ.ม./วินาที หากแล้วจะช่วยกักเก็บน้ำสำหรับการเกษตรได้2,000ไร่และช่วยเหลือการอุปโภคของประชาชนได้ 1,270 ครัวเรือน” รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าว