“WHAUP” ปิดดีลติดตั้ง Solar Farm “ซุปเปอร์แนป” ส่งท้าย ไตรมาส 1/65

“WHAUP” ปิดดีลติดตั้ง Solar Farm “ซุปเปอร์แนป” ส่งท้าย ไตรมาส 1/65

WHAUP ปิดดีลไตรมาส 1/65 คว้าดีลติดตั้ง Solar Farm ให้ “ซุปเปอร์แนป” บนพื้นที่รวม 10,000 ตารางเมตร มูลค่าการลงทุนราว 30 ล้านบาท ช่วยลดต้นทุนด้านการใช้พลังงานไฟฟ้าให้กับซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) และลูกค้าตลอดอายุการใช้งาน พร้อมช่วยลด CO2 Offset สู่ชั้นบรรยากาศ 18,250 ตัน   

ดร.นิพนธ์ บุญเดชานันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัท คว้างานติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (Solar Farm) ของ บริษัท ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลที่มีผู้เช่าหลายรายที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับ เทียร์ 4 รองรับการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการโครงข่ายโดยไม่จำกัดค่าย และทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และอาเซียน บนขนาดพื้นที่ติดตั้ง 10,000 ตารางเมตร โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก  (EEC) ปลอดภัยจากน้ำท่วม ใกล้กับเครือข่ายเคเบิลที่สามารถเชื่อมต่อทั่วประเทศไทย

ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) เป็นผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับ เทียร์   4 ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ที่มีการขับเคลื่อนโดยความต้องการในเอเชีย แปซิฟิก สำหรับศูนย์ข้อมูลที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์ซึ่งรับประกันประสิทธิภาพ ความพร้อมใช้งาน และการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า การเติบโตของข้อมูล และแอปพลิเคชันในระดับภูมิภาคมาจากความต้องการที่จะใกล้ชิดกับธุรกิจและผู้บริโภค เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าที่ใช้ คลาวด์ AI IOT และ BIG Data

ดังนั้น “ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย)” จึงเป็นศูนย์ข้อมูลที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และถือเป็นผู้นำในเอเชีย ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความสามารถในการให้บริการที่สูงกว่าศูนย์ข้อมูลทุกแห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ดังนั้นการที่บริษัทชั้นนำ มอบความไว้วางใจ “WHAUP” ติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ให้ยิ่งเป็นการการันตีศักยภาพ และมาตรฐานการติดตั้งของ “WHAUP” มากยิ่งขึ้น 

จากการเป็นดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกที่มีการใช้พลังงานหมุนเวียนของซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในภูมิภาค รวมถึงช่วยสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้กับลูกค้าของซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) ได้อีกด้วย

นางสุนิตา บ๊อตเซ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) เป็นศูนย์ข้อมูลที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค และรับประกันการให้บริการได้เต็มประสิทธิภาพ 100% โดยให้กำลังไฟฟ้าสูงสุด 33 กิโลวัตต์ต่อตู้  เรามีระดับ PUE ที่ต่ำกว่าศูนย์ข้อมูลทั่วไปในประเทศไทย และเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีความยั่งยืนที่สุด เพื่อเป็นการลดการใช้พลังงานตามเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเรา ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) ยึดมั่นในการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รวมถึงการมีระบบพลังงานแสงอาทิตย์ของเราเองเพื่อรองรับการใช้งานไฟฟ้าภายในดาต้าเซ็นเตอร์ของเรา 


บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและความปลอดภัย รวมถึงประสบการณ์ในการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์เรามั่นใจในศักยภาพ และความเป็นมืออาชีพของ ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ 


โครงการนี้จะเริ่มการก่อสร้างในเดือนเมษายน และจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ และพร้อมให้บริการในเดือนตุลาคม ปี 2565 โดยหน่วยไฟฟ้าที่คาดว่าจะผลิตได้ตลอดอายุการใช้งานคาดว่าจะอยู่ที่  37,725 ล้านหน่วย ซึ่งบริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) จะสามารถสร้างรายได้จากโครงการนี้ทันทีที่เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในเดือนตุลาคม

 ดังนั้น WHAUP มั่นใจว่าเป้ายอดเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สะสมในปีนี้ จะเพิ่มเป็น 150 เมกะวัตต์ จากปีก่อนที่มียอดเซ็นสัญญาสะสม 92 เมกะวัตต์ ตามแผนที่วางไว้อย่างแน่นอน


ทั้งนี้ จากความมุ่งมั่นในการเป็นผู้ให้บริการด้านติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งในนิคมอุตสาหกรรม และนอกอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ “WHAUP” เป็นที่ยอมรับกับกลุ่มบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศ และต่างประเทศ กอปรกับความเป็นมืออาชีพและเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม รวมถึงประสบการณ์ในการให้บริการสาธารณูปโภค ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงการสร้างโอกาสในการต่อยอดธุรกิจในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ โดยการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ครั้งนี้ จะช่วยให้ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) สามารถลดค่าไฟฟ้า และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Offset) ที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศได้ถึง 18,250 ตัน 

 

 

พิสูจน์อักษร  โดย....สุรีย์   ศิลาวงษ์