ไลน์หลุด ด่ายับ “มนัญญา” ปรี๊ด สั่งสอบกรรมการสหกรณ์กระทรวงเกษตรทุกคน

ไลน์หลุด ด่ายับ “มนัญญา” ปรี๊ด สั่งสอบกรรมการสหกรณ์กระทรวงเกษตรทุกคน

‘มนัญญา’สั่งสอบเส้นทางการเงินกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตร. หลังไลน์กลุ่มหลุดด่าคำหยาบคาย สกัดนักการเมืองยุ่ง ประธานกรรมฯปัดร่วมวงประชุมอ้างวันเกิดสามี ชี้แน่จริงออกจากระบบสหกรณ์เปิดรับฝากเงินเอง

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการดำเนินกิจกรรมสหกรณ์เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อมวลสมาชิก แก่ประธานและผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ของหน่วยงานราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 15 แห่ง ว่า 

จากการทุจริตที่เกิดขึ้นในสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด โดยมีเงินของสมาชิกสูญหายจากบัญชีในขณะนี้กว่า 644 ล้านบาท นั้น ได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของกระทรวงเกษตรฯมาก  จึงให้สหกรณ์ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ กลับไปตรวจสอบระบบบัญชีให้ถูกต้อง และฝากสมาชิกทุกคนเป็นหูเป็นตาช่วยกันตรวจสอบการทำงานของกรรมการและเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

 

ไลน์หลุด ด่ายับ “มนัญญา” ปรี๊ด สั่งสอบกรรมการสหกรณ์กระทรวงเกษตรทุกคน

โดยขอให้ดูสหกรณ์นี้เป็นตัวอย่าง ดังนั้นกระทรวงเกษตรฯ และทุกหน่วยงานจะต้องร่วมกันแก้ไขสะสางคดีนี้ให้แล้วเร็จโดยเร็ว เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กลับคืนมา รวมถึงป้องกันความเสียหายในอนาคตที่จะเกิดขึ้นกับสหกรณ์อื่นๆ

            “ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วานนี้( 19 เม.ย.) นายกรัฐมนตรี กำชับให้แก้ไขการทุจริตในระบบสหกรณ์โดยเร็ว  แม้ว่าสหกรณ์จะอยู่ในรูปของนิติบุคคล แต่ยังใช้คำว่าสหกรณ์ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงเกษตรฯ  เมื่อสหกรณ์เกิดความเสียหายจากการทำหน้าที่ที่บกพร่องก็ต้องมีการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด  หากไม่อยากให้เกิดการตรวจสอบก็ให้ออกจากระบบสหกรณ์ ไปเปิดเป็นสถาบันการเงินในรูปแบบอื่น ก็อยากจะดูเหมือนกันว่าจะได้รับความเชื่อมั่นและมีคนเอาเงินไปฝากหรือไม่

“ในกรณีสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตร นี้ได้ทำหนังสือผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อนำเรียนต่อท่านนายรัฐมนตรีสั่งการให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษ ซึ่งกรณีนี้ดิฉันจะขอให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยายผลการตรวจสอบเส้นทางการเงินไปยังกรรมการสหกรณ์ทุกคนในชุดนี้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการทุจริตยักยอกทรัพย์ของผู้จัดการสหกรณ์และเจ้าหน้าที่การเงินหรือไม่อย่างไร “ 

           

            นางสาวมนัญญา กล่าวว่า  ตลอดทั้งคืนวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา มีบุคคลบางกลุ่มพยายามขัดขวางไม่ให้เกิดการประชุมในวันนี้ รวมถึงมีการส่งไลน์ต่อว่าดิฉันด้วยถ้อยคำหยาบคาย  ซึ่งยอมไม่ได้ ดิฉันกำกับดูแลกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ต้องทำตามหน้าที่และยอมรับว่าเมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น ตัวดิฉันเองก็อาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและปลัด ท่านก็อาย เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันทำงานสะสางเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ไม่ยืดเยื้อ

และขอฝากไปยังประธานสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ว่าทำไมไม่ให้ความร่วมมือในการสะสางเรื่องนี้ เพื่อให้สอบข้อเท็จจริงได้เร็วที่สุด แต่กลับไม่เข้าร่วมประชุมเป็นครั้งที่ 2 ที่ประชุมเรื่องนี้ แต่ส่งกรรมการท่านอื่นมาเข้าร่วมแทน  เงินหายไปกว่า 600 ล้านบาท แต่ไม่มาประชุมเพราะเป็นวันเกิดสามี ขอให้เจริญ 

 

และขอฝากถามว่าคุณสุภาพรนั้นคือใคร คุณออดนั้นคือใคร มีสิทธิ์ อะไรมาด่าดิฉัน เป็นเพียงนักการเมืองที่อยากเอาหน้า ที่ผ่านมานักการเมืองไม่ได้ทำอะไร การแก้ปัญหาทั้งหมดฝ่ายสหกรณ์เป็นผู้ดำเนินการ อยากให้คิดใหม่ และที่ผ่านมาดิฉันไม่เคยด่าใครลงลึกเป็นตัวบุคคล มีแต่บอกว่าระบบสหกรณ์เสียหาย   อยากบอกวง่าอย่ามาล้อเล่นกับดิฉันเพราะดิฉันไม่เคยล้อเล่นกับใคร พูดจริงทำจริงทุกเรื่อง  

นอกจากนั้นนางสาวมนัญญา ยังได้สั่งการให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ลงพื้นที่ไปพบสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจสอบบัญชีถึงบ้าน เนื่องจากบางคนอายุมากอาจไม่สะดวกเดินทางมาตรวจสอบบัญชีเอง หรืออาจยังไม่ทราบข่าว โดยมีทั้งหมด 1,293 บัญชี แต่เบื้องต้นพบผู้เสียหาย 115 ราย คาดว่าหากลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วจะดำเนินการได้เสร็จก่อนก่อนเดือน พ.ค. นี้

            นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ รายงานถึงตัวเลขสินทรัพย์ของสหกรณ์ออมทรัพย์ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งหมด 15 สหกรณ์ ได้แก่ 1. สหกรณ์ข้าราชการสหกรณ์ จำกัด สินทรัพย์ 6,500 ล้านบาท 2. สหกรณ์ออมทรัพย์กรมชลประทาน จำกัด สินทรัพย์ 21,000 ล้านบาท 3. สหกรณ์ออมทรัพย์กรมปศุสัตว์ จำกัด สินทรัพย์ 6,900 ล้านบาท 4. สหกรณ์ออมทรัพย์กรมวิชาการเกษตร จำกัด สินทรัพย์ 8,900 ล้านบาท

5. สหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการเกษตรจำกัด สินทรัพย์ 12,500 ล้านบาท 6. สหกรณ์ออมทรัพย์กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จำกัด สินทรัพย์ 1,800 ล้านบาท 7. สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด สินทรัพย์ 2,866 ล้านบาท 8. สหกรณ์ออมทรัพย์กรมประมง จำกัด สินทรัพย์ 3,500 ล้านบาท 9. สหกรณ์ออมทรัพย์กรมพัฒนาที่ดิน จำกัด  สินทรัพย์ 2,200 ล้านบาท

10. สหกรณ์ออมทรัพย์สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม จำกัด สินทรัพย์ 2,200 ล้านบาท 11. สหกรณ์ออมทรัพย์การยางแห่งประเทศไทย จำกัด สินทรัพย์   3,200 ล้านบาท 12. สหกรณ์ออมทรัพย์การยางแห่งประเทศไทย 1 จำกัด สินทรัพย์ 350 ล้านบาท

13. สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานองค์การสะพานปลา จำกัด สินทรัพย์ 34 ล้านบาท 14. สหกรณ์ออมทรัพย์องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร จำกัด 70 ล้านบาท และ 15. สหกรณ์ออมทรัพย์ผู้ปฏิบัติงานองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย จำกัด สินทรัพย์ 750 ล้านบาท สำหรับสินทรัพย์รวมสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วประเทศ จำนวน 2.8 ล้านล้านบาท

            นายประกอบ เผ่าพงศ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ รายงานความคืบหน้าการดำเนินงาน ว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ร่วมกับกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ดำเนินการตรวจสอบติดตามแก้ไขปัญหาและวางแนวทางป้องกันการทุจริต ล่าสุดจากการตรวจสอบรายงานความเสียหาย ณ วันที่ 19 เมษายน 2565 พบยอดความเสียหายจำนวน 644 ล้านบาท สมาชิกที่เสียหาย 115 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบทานตัวเลขให้ได้ยอดสุทธิ และทางตำรวจกำลังรอตัวเลขความเสียหายจริงดังกล่าวจากสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด เนื่องจากสมาชิกบางท่านยังไม่สามารถเดินทางมาตรวจสอบบัญชีเองได้

            นายประภากร อินทโสภา กรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สหกรณ์ได้ดำเนินการไปแล้วใน 3 ประเด็น คือ 1. แจ้งความเสียหายต่อสน.นางเลิ้งให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ทั้งสองราย 2. อยู่ระหว่างการสอบทานตัวเลขความเสียหาย ซึ่งล่าสุด ณ วันที่ 19 เม.ย.65 มีผู้มาแจ้ง 115 ราย สินทรัพย์ 644 ล้านบาท ซึ่งต้องสอบให้ได้ข้อยุติ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ค.นี้ ต้องสอบทานเนื่องจากบางรายเมื่อมายืนยันข้อเท็จจริงพบการเบิกจ่ายในบัญชี 10 รายการ แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเจ้าตัวดำเนินการด้วยตัวเอง 8 ราย เป็นต้น

ไลน์หลุด ด่ายับ “มนัญญา” ปรี๊ด สั่งสอบกรรมการสหกรณ์กระทรวงเกษตรทุกคน

และ 3. อยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะนำเงินของสหกรณ์มาจ่ายให้กับสมาชิกที่เสียหายว่าจะนำมาจากที่ไหน เบื้องต้นพบว่าสหกรณ์มีเงินลงทุนในสหกรณ์อื่นๆ 3 - 4 แห่ง สามารถนำมาชดเชยได้ ภายหลังคดีแล้วเสร็จ