จีนและความสำเร็จ

ความเป็นจีนนี่แหละที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของประเทศจีนนั้นถูกมองว่าเป็นเพราะรัฐบาลจีนที่ใช้การปกครอง แบบสังคมนิยม แต่เปิดให้มีการแข่งขันเสรีทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างต่อเนี่องเพราะภาครัฐสามารถดำเนินนโยบายและวางโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจได้ยาวนานนับสิบปี จนทำให้มีสนามบิน รถไฟความเร็วสูง และระบบสาธารณูปโภคทันสมัยมากมาย
จริงอยู่ว่าโครงสร้างพื้นฐานเหล่านั้นมีส่วนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจของจีนเติบโตอย่างมั่นคง แต่ผมคิดว่าองค์ประกอบสำคัญที่สุดที่ผลักดันให้จีนเติบโตและสร้างความสำเร็จจนถึงวันนี้ได้นั้นเป็นเพราะคุณภาพของ “คน” มากกว่า
ประสบการณ์ในการเยือนจีนที่ไปในฐานะแขกขององค์กร ซึ่งอาจทำให้เห็นจีนในแง่มุมเดียวที่เขานำเสนอเท่านั้น แต่จากการเดินทางไปเป็นการส่วนตัวจึงได้เห็นความเป็นอยู่และการทำงานของคนจีนที่เป็นธรรมชาติซึ่งทำให้ได้สัมผัสกับคนจีนและวัฒนธรรมจีนอย่างลึกซึ้ง
และนั่นทำให้ได้เห็นเลยว่า “ความเป็นจีน” นี่แหละที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนจนกลายเป็นยักษ์ใหญ่ของโลกในทุกวันนี้ ซึ่งผู้อ่านหลายท่านอาจได้ยินเรื่องของคนจีนในองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีการแข่งขันสูง จึงทำงานกันอย่างหามรุ่งหามค่ำเพื่อสร้างผลงานที่ดีที่สุดให้กับบริษัท
และที่ผมได้พบอีกแง่มุมหนึ่งก็คือ พนักงานขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือห้างสรรพสินค้านั้นก็มีจิตใจที่ทุ่มเทให้กับงานอย่างเกินร้อยเช่นกัน ผมเดินสำรวจตลาดในจีนและพบว่าพนักงานขายทุกคนกระตือรือร้นที่จะบริการลูกค้าธรรมดาๆ อย่างผมอย่างเต็มที่ ทั้งที่สินค้าที่ซื้อไม่ได้มีราคาค่างวดสูงแต่อย่างใดเพราะเป็นเพียงเครื่องใช้ไฟฟ้า
แต่เขาให้ข้อมูลและเต็มใจสาธิตให้ดู รวมถึงคำแนะนำต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะได้ของที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด หนำซ้ำพนักงานหลายๆคนยังช่วยกันถือสินค้าลงบันไดหลายชั้นเพราะลิฟท์ไม่ว่างไปส่งถึงรถ ทำผมให้รู้สึกประทับใจอย่างมาก เมื่อจะให้ทิปเป็นสินน้ำใจก็ปฏิเสธพร้อมบอกว่าเต็มใจที่ได้ให้บริการ
ช่วงเวลาที่ผมไปสำรวจตลาดและซื้อสินค้านั้นเพิ่งผ่านพ้นเทศกาลตรุษจีนไปหมาดๆ ซึ่งนั่นเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนเพิ่งผ่านพ้นการกลับไปเยี่ยมเยียนครอบครัวในมณฑลต่างๆ ทั่วประเทศจีนไม่ต่างอะไรกับคนไทยในช่วงสงกรานต์ที่เราจะพบว่าหลังจากจบเทศกาลแล้วเราอาจเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางจนอาจทำให้การทำงานในช่วง 1-2 วันแรกนั้นไม่เต็มที่เท่าที่ควร แต่ไม่เป็นปัญหาใดๆ สำหรับคนจีนที่เขาทำงานได้เต็มร้อยแทบจะในทันที
ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะรัฐบาลที่ทุ่มทุนสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอย่างรถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศจนมีระยะทางยาวที่สุดในโลก ทำให้เดินทางได้สะดวกสบายขึ้น ผมมีโอกาสได้คุยกับคนขับรถเขาก็เพิ่งกลับจากการไปหาครอบครัวในต่างเมืองซึ่งมีระยะทางพอๆ กับกรุงเทพ-ภูเก็ต
ในอดีตการเดินทางใช้เวลานานมาก เขาจึงมีโอกาสกลับบ้านได้เพียงปีละ 3 ครั้ง แต่เมื่อรถไฟความเร็วสูงเปิดให้บริการเขาก็ใช้เวลากับครอบครัวได้มากขึ้นเพราะใช้เวลาเดินทางลดลงจึงกลับบ้านได้ปีละ 7 ครั้งทำให้ใกล้ชิดกับครอบครัวได้มากกว่าเดิม
เช่นเดียวกับถนนหนทางที่ใหญ่และกว้างขวางมากกว่าเดิม ด้วยความที่ประชากรมีจำนวนมาก รถก็มากตามไปด้วย ส่งผลให้เห็นถนนขนาด 8 เลนเป็นเรื่องปกติในประเทศจีน ซึ่งรัฐบาลจีนอาศัยความเด็ดขาดในการดำเนินนโยบายจนสามารถสร้างได้ครอบคลุมทั่วประเทศ
เมื่อความต่อเนื่องของการบริหารประเทศ บวกกับวัฒนธรรมในเรื่องความขยันหมั่นเพียร ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากของคนจีน จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นความสำเร็จของจีนในวันนี้ที่ผงาดเป็นยักษ์ใหญ่ทางด้านเศรษฐกิจจนหลายประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาต้องดำเนินการกีดกันทางการค้าเพราะรู้ดีว่าถ้าไม่ทำ จีนจะขยายอิทธิพลไปทั่วโลกจนทำให้ประเทศตัวเองต้องประสบปัญหา
แต่ยิ่งบีบ ยิ่งกดดัน ก็ดูเหมือนจีนจะยิ่งเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ ก็เพราะวัฒนธรรมของจีนที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคและโชคชะตาทั้งหลายนั่นเอง







