พลิกความลำบากสู่ความยั่งยืน

พลิกความลำบากสู่ความยั่งยืน

สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและไทยในปัจจุบันถูกมองว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากโดยแท้

ผู้บริหารและเจ้าของกิจการต่างต้องอาศัยความพยายามและการฝ่าฟันอย่างต่อเนื่อง เพราะตัวเลขจากสถาบันสำคัญ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ต่างสะท้อนภาพเดียวกันว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้าไม่สดใสนัก การเติบโตชะลอตัวและความไม่แน่นอนยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ผู้ประกอบการและประชาชนต้องเผชิญอย่างจริงจัง

ในอีกด้านหนึ่ง ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าเรากำลังอยู่ในยุคที่ผสมผสานกันทั้ง Digital Age, Internet Age และ Social Media Age ซึ่งโดยเฉพาะ Social Media Age ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อชีวิตประจำวันจนอาจส่งผลกระทบต่อสมาธิและความสามารถในการจดจ่อกับสิ่งสำคัญ การบริหารจัดการตนเอง

ในยุคนี้จึงไม่ใช่เพียงการรับมือกับเศรษฐกิจ แต่ยังรวมถึงการจัดการกับสิ่งรบกวนที่มาจากเทคโนโลยีและสื่อสังคมออนไลน์

แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวย แต่โดยรวมแล้วผมยังคงเชื่อมั่นว่าความสำเร็จสามารถเกิดขึ้นได้ หากมีแนวทางที่ถูกต้อง ความสำเร็จที่แท้จริงอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เกิดขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน

แต่ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ความอดทนและความต่อเนื่องจึงเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืน ซึ่งมีเคล็ดลับอยู่ 5 ประการด้วยกัน ที่ผมมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับคนที่ประสบความสำเร็จหลายคนที่มักจะมีนิสัยคล้ายกันดังนี้

ข้อแรก เขาไม่พูดคำว่า “ยอมแพ้” ให้คนอื่นได้ยินเด็ดขาด เพราะการไม่ยอมแพ้คือการแสดงออกถึง Determination หรือความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง ทุกความสำเร็จย่อมต้องเผชิญอุปสรรค หากเพียงแค่เจอปัญหาเล็กน้อยแล้วถอย ความสำเร็จใหญ่ย่อมไม่เกิดขึ้น

ความไม่ยอมแพ้นั้นเป็นธรรมชาติที่มีอยู่ในตัวทุกคนตั้งแต่ยังเด็ก นึกถึงอดีตที่เราเล่นต่อตัวต่อเลโก้ แม้วันแรกจะไม่สำเร็จ แต่เมื่อพยายามซ้ำ ๆ ในที่สุดก็ทำได้และทำให้เรามีพลังที่จะทำแบบอื่นที่ซับซ้อนได้ต่อไป การต่อสู้ที่แท้จริงคือการเอาชนะเสียงในสมองที่บอกว่า “ทำไม่ได้” หรือ “เหนื่อยเกินไป”

ข้อสอง อย่าให้ตัวเองรู้สึกว่าทำไม่ไหว งานยาก หรือต้องรับผิดชอบมากเกินไป เพราะเมื่อเผชิญงานใหญ่ สิ่งสำคัญคือการ “ซอยงาน” ให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อให้สามารถจัดการได้ทีละขั้นตอน เป้าหมายใหญ่ต้องเริ่มจากเป้าหมายเล็กที่ทำได้จริง

เปรียบเทียบกับการกินอาหารอร่อย หากกินมากเกินไปย่อมเกิดปัญหากับร่างกาย แต่การกินทีละน้อยกลับไม่มีปัญหาใด ๆ  งานใหญ่ก็เช่นกัน ต้องถูกแบ่งเป็น “จิ๊กซอว์” เล็ก ๆ ที่ต่อกันจนสำเร็จ อย่าทำสิ่งที่เกินตัวตั้งแต่แรก แต่ให้ค่อย ๆ ขยายขอบเขตความสามารถไปทีละขั้น

ยังเหลืออีก 3 ข้อที่ต้องติดตามต่อในวันอังคารหน้าครับ...