ไขปม 'พญาอินทรี' ขวาง F-16 ทอ.ตุนอะไหล่ รับศึกระลอก2

ไขปม 'พญาอินทรี' ขวาง F-16   ทอ.ตุนอะไหล่ รับศึกระลอก2

การจัดซื้อเครื่องบินรบ ไม่เพียงแต่ใช้ปกป้องอธิปไตย แต่ยังถ่วงดุลมหาอำนาจ ทอ.ไทย จึงมีเครื่องบินรบประจำการหลายชาติ อนาคตหากเครื่องบินรบแบบหนึ่งขึ้นบินไม่ได้ ก็ยังมีแบบอื่นปฏิบัติภารกิจได้

KEY

POINTS

  • รัฐบาลให้ความมั่นใจ ไทยไม่ถูกระงับเจรจาภาษีสหรัฐ ท่ามกลางความกังขาของคนไทย
  • ประเด็นสหรัฐระงับภาษี ถูกผูกโยงเครื่องบินขับไล่ F-16 ที่กองทัพอากาศ(ทอ.) ซื้อจากสหรัฐ ซึ่งนําไปสู้ศึกกัมพูชา

ผลพวงจาก "รัฐบาลไทย" สั่งระงับ "ปฏิญญา-กัวลาลัมเปอร์" หลังพบ "กัมพูชา" ละเมิดข้อตกลง ลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ในเส้นทางที่ทหารชุดเฉพาะกิจเดินลาดตระเวน พื้นที่ห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ 

ทำให้เห็นท่าทีของ "สหรัฐ" ต่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พลันที่ส่งหนังสือแจ้งระงับชั่วคราว การเจรจากรอบความตกลงภาษีต่างตอบแทนไทย-สหรัฐฯ โดยจะกลับมาหารือได้อีกครั้งเมื่อไทยให้คำมั่นจะปฏิบัติตาม "ปฏิญญา-กัวลาลัมเปอร์" อย่างเคร่งครัด 

แม้ภายหลัง รัฐบาลไทย แจ้งว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่ อนุทิน ชาญวีรกุล นายกฯและ รมว.มหาดไทย จะโทรคุย โดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐและ อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย พร้อมให้ความมั่นใจว่า ไทยไม่ถูกระงับเจรจาภาษี และขอให้ยึดคำพูดของผู้นำมากกว่าเอกสาร ท่ามกลางความกังขาของคนไทย

ประเด็นนี้ทำให้มีการผูกโยงไปยังเครื่องบินขับไล่ F-16 ที่กองทัพอากาศ(ทอ.) ซื้อจากสหรัฐและนำไปใช้ภารกิจปกป้องอธิปไตยประเทศ โจมตีเป้าหมายทางทหารกัมพูชาในการสู้รบ 5 วัน 5 คืน 

อีกทั้งที่ผ่านมา ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาได้เรียกร้องไม่ให้ฝ่ายไทยใช้ F-16 ในการปฏิบัติการ และขอร้องนานาชาติไม่ให้ขายเครื่องบินรบให้กับไทย

มีการมองข้ามช็อต หากชายแดนไทย-กัมพูชา เกิดการสู้รบระลอก2 อย่างเลี่ยงไม่ได้ ขัดต่อกระบวนการสันติภาพของ โดนัล ทรัมป์ สหรัฐจะสามารถสั่งระงับการใช้เครื่องบิน F-16 ของไทยได้หรือไม่

ทั้งข้อมูลจากสัญญาซื้อขายระหว่าง ทอ.ไทย กับ บริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯ  ไม่มีข้อไหนระบุ หรือเป็นข้อกำหนด การใช้ F-16 ออกปฏิบัติภารกิจ ต้องได้รับความยินยอม หรือ ต้องแจ้งสหรัฐ

เช่นเดียวกับการใช้ F-16 ปฏิบัติการพื้นที่สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา สามารถดำเนินการได้ทันที หลัง พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” Operation “Yuttha Bodin” ทั้งทางบก และอากาศ 

โดยการปฏิบัติการยึด 5 หลักการสำคัญ คือ

1.หลักการแบ่งแยก (Principle of Distinction)การโจมตีต้องมุ่งเป้าไปที่เป้าหมายทางทหารเท่านั้น  ห้ามโจมตีพลเรือนหรือวัตถุพลเรือนโดยเจตนา เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

2.หลักการได้สัดส่วน (Principle of Proportionality) การโจมตีต้องไม่ก่อความเสียหายต่อพลเรือนหรือทรัพย์สินพลเรือนเกินกว่าผลประโยชน์ทางทหารที่คาดว่าจะได้รับ เช่น หากเป้าหมายทหารอยู่ในพื้นที่หนาแน่นของพลเรือน ต้องประเมินว่าผลได้คุ้มค่ากับความเสี่ยงต่อพลเรือนหรือไม่

3.หลักการใช้มาตรการระวังล่วงหน้า (Principle of Precaution)
ต้องเลือกวิธีการและอาวุธที่ลดความเสี่ยงต่อพลเรือนให้มากที่สุด  

4.หลักการห้ามโจมตีแบบไม่เลือกเป้าหมาย (Prohibition of Indiscriminate Attacks) ห้ามใช้วิธีการหรืออาวุธที่ไม่สามารถจำกัดเป้าหมายให้เฉพาะเจาะจงได้ เช่น การใช้ระเบิดเพลิงในเขตเมืองที่มีผลกระทบกว้างขวาง โดยต้องมุ่งเป้าไปที่เป้าหมายทหารเท่านั้น 

5.หลักการความจำเป็นทางทหารและมนุษยธรรม (Military Necessity & Humanity) การใช้กำลังต้องจำกัดเฉพาะที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทหาร และต้องหลีกเลี่ยงการก่อความทุกข์ทรมานโดยไม่จำเป็น ต้องเลือกวิธีที่สมดุลระหว่างภารกิจและการปกป้องชีวิตพลเรือน

ทว่าการจัดซื้อ F-16 ในครั้งนั้น นอกจาก ทอ.ไทย ไม่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีแล้ว ยังผลิตอะไหล่เองไม่ได้ และหากจำเป็นต้องซ่อมบำรุง ต้องแจ้งไปยังสหรัฐ คือ  บริษัท Lockheed Martin จะส่งอะไหล่มาเปลี่ยนให้ จนมีคำพูดว่า

แม้ ทอ.ไทยมี F-16 ประจำการอยู่ก็จริง แต่ไร้ซึ่งอำนาจความเป็นเจ้าของ แค่เพียงสหรัฐไม่ส่งอะหลั่ยให้ ก็ไม่สามารถนำ F-16 ขึ้นบินปฏิบัติภารกิจได้ เพราะทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐฯ ไม่มีความเป็นอิสระ หรือแม้แต่การใช้ Link-16 (เครือข่ายการรับส่งข้อมูลทางยุทธวืธีหรือ Tactical Data Link)แต่ละครั้งต้องขออนุญาตสหรัฐฯ เพราะต้องใช้รหัสผ่าน

ทั้งนี้ ทอ.ไทย อยู่ระหว่างทยอยปลดประจำการเครื่องบิน F-16  หลังมีอายุใช้งานมาอย่างยาวนานทั้งหมดในปี 2575 ในระหว่างนี้ F-16 ที่ประจำการอยู่ยังใช้ปฏิบัติภารกิจได้เช่นเดิม ควบคู่กับการสํารองอะไหล่ซ่อมบำรุงมาก่อนหน้านี้แล้ว และมากพอรองรับภารกิจชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างไม่ต้องกังวล

สำหรับ อนาคต ทอ.ไทย ได้ลงนามสัญญาจัดซื้อเครื่องบินรบฝูงใหม่ทดแทน F-16 คือ เครื่องบินกริพเพน E/F  จากสวีเดน 1 ฝูงบิน 12 เครื่องในระยะเวลา 10 ปี (2568-2578) ซึ่งโครงการทั้งหมดมีมูลค่า 60,000 ล้านบาท เมื่อ 25 ส.ค.2568 ที่ผ่านมา แบ่งเป็นงบประมาณผูกพัน3ระยะ

ในระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง มูลค่า 19,500 ล้านบาท ส่งมอบภายในปี 2572 เข้าประจำการทดแทนF-16 ที่ กองบิน1 จ.นครราชสีมา 

เพื่อมาเสริมทัพ Gripen 1 ฝูง จำนวน11 เครื่อง ที่ ทอ.ไทย มีประจำการอยู่หลังเคยโชว์ศักยภาพภารกิจสู้รบครั้งแรกของโลกเคียงคู่ F-16 ปกป้องอธิปไตยชายแดนไทย-กัมพูชามาแล้ว

แต่กระนั้น เครื่องบินตระกูล F ของ สหรัฐ ก็ยังเป็นเครื่องบินรบมีแสนยานุภาพ และอยู่ในความต้องการ ทอ.ไทย คาดว่าเตรียมจัดซื้อในลำดับถัดไปต่อจากกริพเพน 

การจัดซื้อเครื่องบินรบ ไม่เพียงแต่ใช้ภารกิจปกป้องน่านฟ้า อธิปไตยของไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการถ่วงดุลมหาอำนาจ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ทอ.ไทย มีเครื่องบินรบประจำการหลากหลายชาติ เพราะอนาคตหากมีปัจจัยผันแปร เครื่องบินรบแบบหนึ่งไม่สามารถขึ้นบินได้ ก็ยังมีเครื่องบินรบแบบอื่นปฏิบัติภารกิจได้เช่นกัน

ปัจจุบันชายแดนไทย-กัมพูชา มีแต่ทรงกับทรุด รัฐบาล-กองทัพ ทำได้เพียงประคับประคอง ซึ่งมีภาษีสหรัฐเป็นตัวสอดแทรก การใช้มาตรการเด็ดขาดยังต้องมองซ้ายแลขวา ไปจนกว่าสถานการณ์เป็นใจ สร้างโอกาสให้ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติการด้วยความชอบธรรม ไม่ค้านสายตาโลก