หลังม่าน 'หมอนทอง' ส่อง 'ฉายแสง-กล้าธรรม' ชน 'นาคาศัย'

หลังม่าน 'หมอนทอง' ส่อง 'ฉายแสง-กล้าธรรม' ชน 'นาคาศัย'

เบื้องหลังบอลขาสั้นนัดหยุดโลก “หมอนทองวิทยา” ปะทะ “อบจ.ชัยนาท” ชิงถ้วยบอล 7 สี มีดราม่ามากมาย แถมโยงการเมือง

ศึกศักดิ์ศรีแพ้ไม่ได้ บ้านใหญ่แปดริ้ว-บ้านใหญ่ชัยนาท ต่างขนกองเชียร์รวมแล้วเกินหมื่นคน ผสมขาจรจนเกิดปรากฏการณ์ “สนามแตก

เกมจบไปแล้ว แต่คนทั้งประเทศยังพูดถึงการแข่งขันฟุตบอลแชมป์กีฬา 7 สี ปี 2025 ระหว่าง “โรงเรียนหมอนทองวิทยา” กับ “โรงเรียน อบจ.ชัยนาท” เพราะดราม่าฟุตบอลนักเรียนขาสั้นคู่นี้ กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้ใครต่อใครเข้ามามีส่วนร่วมกับเกมการแข่งขัน

ไม่เว้นแต่ “นักการเมือง” ที่กระโดดเข้ามาช่วยในฐานะ “กองเชียร์” และผู้ให้การสนับสนุนคนสำคัญ

เริ่มกองเชียร์ “หมอนทองวิทยา” ที่มาจาก อ.บางน้ำเปรี้ยว อ.เมืองฉะเชิงเทรา อ.บางคล้า และ อ.พนมสารคาม

กองเชียร์บ้านใหญ่ 

ฝั่ง อ.เมืองฉะเชิงเทรา “เจ๊เปิ้ล” ฐิติมา ฉายแสง สส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 พรรคเพื่อไทย

หลังม่าน 'หมอนทอง' ส่อง 'ฉายแสง-กล้าธรรม' ชน 'นาคาศัย'

กลยุทธ ฉายแสง นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา และขวัญกมล ฉายแสง นายกเทศมนตรีเมืองฉะเชิงเทรา ให้การสนับสนุนรถบัส และรถตู้นำพากองเชียร์มาสนามศุภชลาศัย รวมถึงการตั้งจอยักษ์ที่ รร.เบญจมราชรังสฤษฏิ์ ให้คนมานั่งเชียร์

หลังม่าน 'หมอนทอง' ส่อง 'ฉายแสง-กล้าธรรม' ชน 'นาคาศัย'

มินับ “เสี่ยอ๋อย” จาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ ที่ควงคู่ชีวิตมานั่งเชียร์ทีมหมอนทองวิทยา ในสนามศุภชลาศัย

ฝั่ง อ.บางน้ำเปรี้ยว “เสี่ยธิ” อิทธิ ศิริลัทธยากร อดีต รมช.เกษตรฯ มาดูแลจัดรถบัส 4 คันขนกองเชียร์ที่จะไปกรุงเทพฯ

หลังม่าน 'หมอนทอง' ส่อง 'ฉายแสง-กล้าธรรม' ชน 'นาคาศัย'

และตัวเขาเองก็นั่งเชียร์ที่หน้าจอถ่ายทอดสดภายในที่ว่าการอำเภอ แทนลูกชาย “เบนซ์” อรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา ในฐานะ สส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 

หลังม่าน 'หมอนทอง' ส่อง 'ฉายแสง-กล้าธรรม' ชน 'นาคาศัย'

ก่อนหน้านั้น ชมรมฟุตบอลศิษย์โรงเรียนหมอนทองวิทยา จัดรายการฟุตบอลมิตรภาพสัมพันธ์ หมอนทอง ปรี 7สี 2025 ชิงถ้วยเกียรติยศจาก อรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา ที่สนาม รร.หมอนทองวิทยา   

เดิมพันตระกูล “นาคาศัย”

ส่วนกองเชียร์ “โรงเรียน อบจ.ชัยนาท” บริหารจัดการโดย “นายกต้อย” จิตร์ธนา ยิ่งทวีลาภา นายก อบจ.ชัยนาท และทีม สจ.เขต อ.เมืองชัยนาท และ อ.สรรพยา ซึ่งเป็นบ้านเกิดตระกูล “นาคาศัย”

หลังม่าน 'หมอนทอง' ส่อง 'ฉายแสง-กล้าธรรม' ชน 'นาคาศัย'

ที่ขาดไม่ได้คือ “เสี่ยแฮงก์” อนุชา นาคาศัย สส.ชัยนาท ที่ทุ่มเทปั้น “นกใหญ่พิฆาตจูเนียร์” มานานปี และหวังจะคว้าแชมป์ปีนี้ให้ได้

16-17 ปีที่แล้ว เสี่ยแฮงก์ ปั้นสโมสรฟุตบอลชัยนาท ฮอร์นบิล ฉายา “นกใหญ่พิฆาต” มีชื่อเสียงในฟุตบอลไทยลีก 1 ระยะหนึ่ง และปัจจุบัน ทีมนกใหญ่พิฆาตเล่นอยู่ไทยลีก 2

สมัยโน้น เสี่ยแฮงก์ หนุน อบจ.ชัยนาท ยุค อนุสรณ์ นาคาศัย เป็นนายก อบจ. ได้สร้างสนามเขาพลองสเตเดี้ยม เป็นรังเหย้าทีมนกใหญ่พิฆาต และเปิดอดาเดมีฝึกนักเตะเยาวชนในนาม “โรงเรียน อบจ.ชัยนาท”

ดังนั้น ทีมนักเตะขาสั้นเมืองชัยนาท จึงเป็นผลผลิตของอคาเดมีลูกหนังของตระกูล “นาคาศัย” ที่คุมการเมืองท้องถิ่น และระดับชาติมาต่อเนื่อง

ทำไม กธ.หนุนหมอนทอง

ปรากฏการณ์ “สนามแตก” ปฏิเสธไม่ได้ว่า มาจาก 2 ปัจจัยคือ บทบาทของอาจารย์ สกล เกลี้ยงประเสริฐ โค้ชฟุตบอลเยาวชนที่สร้างชื่อกับโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี คว้าแชมป์ฟุตบอล 7 สี 3 สมัย 

ปัจจัยที่สองคือ “รถขนฝัน” รถบรรทุก 6 ล้อที่ขับโดย อ.สกล พานักเตะโนเนมจากโรงเรียนเล็กๆไปแข่งขัน 

ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก “โรงเรียนหมอนทองวิทยา” ต.หมอนทอง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเดิมเป็นปอเนาะสอนศาสนา จากนั้นได้พัฒนามาเป็นโรงเรียนเอกชน “โรงเรียนอิสลามฉะเชิงเทราบึงสิงห์” ก่อนโอนย้ายให้เป็นของกระทรวงศึกษาธิการ

สาเหตุที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้ความสนใจจะสร้างนักกีฬา และพัฒนาสนามฟุตบอลโรงเรียนหมอนทองวิทยานั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า อ.บางน้ำเปรี้ยว เป็นฐานเสียงของ “เบนซ์” อรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 

เขตเลือกตั้งที่ 2 ประกอบด้วย อ.บางน้ำเปรี้ยว อ.คลองเขื่อน อ.บางคล้า อ.ราชสาส์น และอ.พนมสารคาม (เฉพาะ 2 ตำบล) ก็คือฐานเสียงเก่าของ “เสี่ยธิ” อิทธิ ศิริลัทยากร อดีต สส.ฉะเชิงเทรา หลายสมัย

คู่แข่งของ “เสี่ยธิ” หลายสมัยที่ผ่านมาคือ “เสี่ยเน้า” สมชัย อัศวชัยโสภณ อดีต สส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย ซึ่งสมัยที่แล้ว เสี่ยเน้า ส่งลูกชาย พงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ ลงแข่งกับลูกชายเสี่ยธิ

การเลือกตั้งสมัยหน้า “เสี่ยเบนซ์” อรรถกร ศิริลัทยากร พรรคกล้าธรรมก็ต้องแข่งกับ “จั๋ง” พงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ พรรคเพื่อไทย

“นาคาศัย” สีน้ำเงิน

กล่าวสำหรับ “โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท” เปลี่ยนชื่อมาจากโรงเรียนชัยนาทพิทยาคม 2 ซึ่งเป็นการถ่ายโอนจากศึกษาฯ มาสู่ท้องถิ่น

ผู้ที่ผลักดันเรื่องนี้คือ “เสี่ยแฮงก์” อนุชา นาคาศัย สมัยที่เป็น สส.ชัยนาท พรรคไทยรักไทย และน้องชาย อนุสรณ์ นาคาศัย นายก อบจ.ชัยนาท 

ดังที่ทราบกัน “เสี่ยแฮงก์” พัฒนาโรงเรียน อบจ.ชัยนาท ให้เป็นอคาเดมีของทีมชัยนาท ฮอร์นบิล ผลิตนักเตะเยาวชนรุ่นแล้วรุ่นเล่า จึงไม่แปลกใจที่เด็กนักเตะขาสั้นจากชัยนาท จึงเล่นบอลเป็นระบบ และมีสมาธิในเกมใหญ่

ปีที่แล้ว น้องชาย อนุสรณ์ นาคาศัย ลาออกจากนายก อบจ.ชัยนาท ก่อนครบวาระ เพื่อชิงความได้เปรียบคู่แข่ง และกกต.ชัยนาท จึงจัดให้มีการเลือกตั้งนายก อบจ.ชัยนาท ในวันอาทิตย์ที่ 4 ส.ค.2567

หลังม่าน 'หมอนทอง' ส่อง 'ฉายแสง-กล้าธรรม' ชน 'นาคาศัย'

เสี่ยแฮงก์ส่งพี่สาวคนโต “เจ๊ต้อย” จิตร์ธนา ยิ่งทวีลาภา อดีต สว.ชัยนาท ลงสมัครนายก อบจ.ชัยนาท สานงานต่อจากน้องชาย 

โดยก่อนหน้านั้น เสี่ยแฮงก์ ให้พี่สาว จิตร์ธนา ยิ่งทวีลาภา นั่งประธานสโมสรฟุตบอลชัยนาท ฮอร์นบิล ปูทางสร้างชื่อเสียง สะสมบารมีในหมู่คนชัยนาท ก่อนจะส่งลงสนามนายก อบจ.

หลังม่าน 'หมอนทอง' ส่อง 'ฉายแสง-กล้าธรรม' ชน 'นาคาศัย'

20 ปีที่ผ่านมา การเมืองชัยนาทถูกผูกขาดโดย 2 ตระกูลดังคือ “นาคาศัย” และ “สงฆ์ประชา” ซึ่งแบ่งพื้นที่กันละเขตในการเมืองระดับชาติ แต่เป็นพันธมิตรกันในการเมืองท้องถิ่น 

หลังม่าน 'หมอนทอง' ส่อง 'ฉายแสง-กล้าธรรม' ชน 'นาคาศัย'

เป็นแน่ชัดแล้ว การเลือกตั้ง สส.ชัยนาท สมัยหน้า อนุชา นาคาศัย จะสวมเสื้อภูมิใจไทย ซึ่งอยู่พรรคเดียวกันกับมณเฑียร สงฆ์ประชา

ชัยชนะของ “โรงเรียน อบจ.ชัยนาท” เป็นมหาอำนาจบอล 7 สี คงสร้างความภาคภูมิใจให้คนชัยนาททั้งจังหวัด และทำให้เรตติ้งของ “นายกต้อย” พร้อมน้องชาย “เสี่ยแฮงก์” กระเตื้องขึ้นเยอะ