ซาวด์ผี-เครื่องบินรบ จับสัญญาณวันดีเดย์

กองทัพ ตำรวจ และฝ่ายปกครอง อยู่ระหว่างตรวจเช็คความพร้อม และกำหนดสภาวะแวดล้อมให้เกิดความชอบธรรมในการปฏิบัติ ที่เหลือเพียงแค่รอส่งสัญญาณ
KEY
POINTS
- สมช.เห็นชอบแผนบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนสระแก้วที่ถูกชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตย
- รมว.กลาโหม รมช.กลาโหม รวมถึง แม่ทัพ นายกอง ลงพื้นที่ถี่ยิบตรวจเยี่ยมและเช็คความพร้อมของกำลังพลตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
เข้าสู่วันที่4 หลังครบกำหนดเส้นตาย 10 ต.ค. ตามที่ “ปริญญา โพธิสัตย์” ผู้ว่าฯสระแก้ว ได้แจ้งกับ “ผู้ว่าฯบันเตียเมียนเจย” ให้ส่งแผนอพยพชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่รุกล้ำอธิปไตยไทยเหนือเส้นแดง บ้านหนองจาน และ หนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว
โดย 10 ต.ค.ที่ผ่านมา “อนุทิน ชาญวีรกุล” นายกฯและ รมว.มหาดไทย ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)อนุมัติแผนดำเนินการกับผู้รุกล้ำอธิปไตยไทย ของ “กองทัพบก” หลังได้ปรับปรุงให้สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและสิทธิมนุษยชน
แม้หลังประชุม “อนุทิน” จะปฏิเสธพูดถึงเนื้อหาสาระ โดยให้เหตุผล ว่าเป็นเรื่อง“ลับมาก” ต้องให้ความสำคัญ แต่ยืนยันว่าทุกอย่างมีความพร้อม และจะลงพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้วในเวลาที่เหมาะสม
สำหรับแผนดังกล่าวเป็นการบังคับใช้กฎหมายผสมผสานระหว่าง “กฎอัยการศึก” คุ้มครองการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่100% ป้องกันการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายรวมถึงคดีอาญา และ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ท่ามกลางการลงพื้นที่ถี่ยิบ รมว.กลาโหม รมช.กลาโหม รวมถึง แม่ทัพ นายกอง ตรวจเยี่ยมและเช็คความพร้อมของกำลังพลตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมรับสถานการณ์ในอนาคต
สอดคล้องกันก่อนหน้านั้น พล.ท.วรยศ เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 ก็ลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ซักซ้อมแผนการปฏิบัติในภูมิประเทศจำลองมาแล้ว เหมือนเป็น สัญญาณนับหนึ่งเปิดเกมยึดพื้นที่คืนในไม่ช้านี้
เริ่มที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยมชายแดน ไทย-กัมพูชา พื้นที่กองทัพภาคที่2 ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ฐานปฏิบัติการพลาญยาว จ.ศรีสะเกษ และ ฐานปฏิบัติการป้อมปูน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์
ส่วน พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม ลงพื้นที่บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว ตรวจความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์รวมถึงการซักซ้อมแผนปฏิบัติต่อผู้บุกรุกอธิปไตย ตามหลักสากล ในวันถัดมาลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ กองกำลังบูรพา อยู่ระหว่าง เก็บกู้ทุ่นระเบิด บ้านหนองหญ้าแก้ว เบื้องต้นสามารถเก็บกู้ได้7ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เป็นของค้างเก่า ชนิด PMN และชนิด MN79 พร้อมใช้งาน คาดว่าจะใช้เวลา2วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ
ควบคู่ปฏิบัติการจิตวิทยาของกลุ่มมวลชน เดินทางไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติยึดคืนอธิปไตยกลับมา ด้วยการเปิดเสียงผี เสียงเครื่องบิน เป็นที่มา ฝ่ายกัมพูชา ฟ้องคณะผู้สังเกตุการณ์ หรือ IOT
และข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR)
"จะร้องก็ร้องไป ผมทำในแผ่นดินไทยของผม ผมก็มีพี่น้องทหารที่เข้าเวรเฝ้ายามอยู่ ก็มีความเหนื่อยล้า ผมก็ช่วยให้พี่น้องทหารตื่น แล้วทำไมล่ะ ไม่เห็นจะต้องเดือดร้อนเลย ก็มันทำบ้านผม แผ่นดินผม อยากจะฟ้องอะไรก็ฟ้องไป ผมไม่แคร์ เรื่องนี้ ซึ่งตอนนี้กำลังใจของทหารเราดี ทหารพร้อม เมื่อไหร่เมื่อนั้น” พล.ต.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ระบุ
สำทับด้วย พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุว่า กัมพูชาบุกรุกเข้ามาในเขตไทย มีความขัดแย้งมาอย่างต่อเนื่องและอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ โดยที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันก็ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชามีการจัดตั้งมวลชนร่วมกับเจ้าหน้าที่ทางการ เข้าขัดขวางและยั่วยุต่อฝ่ายไทย
“ทำให้ประชาชนคนไทยได้รับผลกระทบและเกิดความไม่พอใจจำนวนมาก จนหลายกลุ่มได้ออกมาแสดงออกด้วยวิธีต่างๆ เพื่อกดดันชาวกัมพูชาและเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐเร่งดำเนินการจัดการกับปัญหาดังกล่าว หนึ่งในนั้นคือการใช้เครื่องเสียงเปิดเสียง ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ใช้ความรุนแรง”
ล่าสุด(13 ต.ค.) พล.ท.วรยส ลงพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว อีกครั้ง นอกจาก ติดตามความคืบหน้าการเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วแล้ว ยังตรวจพร้อมรบ ทหารม้า ทหารปืนใหญ่
ภายหลังมีการซักซ้อมอพยพประชาชน 4 อำเภอ จ.สระแก้ว ไปศูนย์พักพิง 10 แห่ง พร้อมประชุมร่วมกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ซึ่งลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกองร้อยควบคุมฝูงชนจากตำรวจภูธรภาค 2 (ภ.2) และกำลังพลตำรวจตระเวนชายแดนที่จุดตรวจบ้านหนองจาน ที่ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ (ร.12 พัน 3 รอ.) ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อบูรณาการแผนการทํางานให้เป็นเนื้อเดียวกัน
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ย้ำว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติปฏิบัติการภายใต้ยุทธการของกองทัพในการปกป้องแผ่นดินไทยและอธิปไตยของชาติ โดยแนวหน้าได้ส่งกำลังพลคือตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจควบคุมฝูงชน สนับสนุนการปฏิบัติ ส่วนแนวหลังได้สั่งการให้ตำรวจพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลประชาชน หากเกิดสถานการณ์ให้เร่งเคลื่อนย้ายประชาชนไปสู่พื้นที่ปลอดภัย
“ส่วนที่เข้าไปดูความเรียบร้อยภายในบริเวณบ้านหนองจาน พบว่ามีบ้านอยู่ประมาณ 5 หลัง ที่มีการเคลื่อนย้ายคนกัมพูชาไปแล้ว แต่ในแนวลึกไปกว่านั้น ก็เป็นชุมชนที่มีบ้านหนาแน่นพอสมควร และเราก็กั้นแนวไว้ แต่คงยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนวันที่ 17 ก.ย. ที่มีการปะทะ ก็มีการถอดบทเรียนทุกขั้นตอน เพราะเชื่อว่าฝ่ายนั้นก็ถอดบทเรียนเช่นเดียวกัน และน่าจะมียุทธวิธีที่สลับซับซ้อนมากขึ้น" ผบ.ตร. กล่าว
ทั้งนี้ประเมินสถานการณ์ได้ว่า กองทัพ ตำรวจ และฝ่ายปกครอง อยู่ระหว่างตรวจเช็คความพร้อม และกำหนดสภาวะแวดล้อมให้เกิดความชอบธรรมในการปฏิบัติ ภายใต้รอคำสั่ง วัน ว. เวลา น.
ควบคู่กับกระบอกเสียงของกองทัพ สร้างการรับรู้และย้ำเตือนสังคม ว่าเตรียมใช้มาตรการเด็ดขาดดำเนินการกับผู้รุกล้ำอธิปไตยไทยซึ่งให้ความสำคัญมาเป็นอันดับหนึ่ง มากกว่าห่วงภาพลักษณ์ต่อสายตานานาชาติ
ปัจจุบัน ยุทธการของกองทัพ พร้อม ควบคู่กับกำลังสนับสนุนตำรวจ-ฝ่ายปกครอง โดยยก“โมเดลปราบม็อบ” เช่น รถฉีดน้ำ แก๊สน้ำตา เครื่องเสียงความถี่สูง กระสุนยาง หากมีมวลชนต่อต้าน
ตอกย้ำสัญลักษณ์ ตู้คอนเทนเนอร์ ที่เอาไว้กั้นกลุ่มฮาร์ดคอร์ ที่ใช้สิ่งเทียมอาวุธโจมตี แต่หากอีกฝ่ายเปิดฉากใช้อาวุธสงคราม ก็จะเข้าสู่การปฏิบัติการโดยใช้กำลังทหารระลอกสองตลอดชายแดนไทย-กัมพูชา







