ดีเดย์เขมรพ้นหนองจาน ‘วรยส’ ล้างมลทิน ‘พี่ใหญ่บูรพา’

ตุลาอาถรรพ์ ดีเดย์เคลียร์พื้นที่ “พล.ท.วรยส” ขีดเส้นเขมรอพยพพ้น “บ้านหนองจาน” สางมรดกสงครามเย็น ล้างมลทินรุ่นพี่ "บูรพาขาใหญ่" ไม่จัดการให้จบ
KEY
POINTS
- รัฐไทยประสานเสียง บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว อยู่ในเขตอธิปไตยไทย คนเขมรจะอาศัยอยู่ต่อไม่ได้
- นับแต่ “แม่ทัพไก่” พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ เข้ารับตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ชาวบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว รวมถึงคนไทยรักชาติ ต่างก็เฝ้ารอวันดีเดย์ขับไล่ชาวเขมรออกจากพื้นที่ดังกล่าว
- ในปีนี้ “แม่ทัพไก่” จึงต้องแสดงฝีมือให้คนไทยได้ประจักษ์ กรณีการรักษาอธิปไตยของชาติ และไม่เดินตามรอยรุ่นพี่ “บูรพาขาใหญ่” ที่ปล่อยปละละเลย จนกลายเป็น “ระเบิดเวลา” ใน พ.ศ.นี้
นับแต่ “แม่ทัพไก่” พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ เข้ารับตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 1 ชาวบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว รวมถึงคนไทยรักชาติ ต่างก็เฝ้ารอวันดีเดย์ขับไล่ชาวเขมรออกจากพื้นที่ดังกล่าว
เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2568 พล.ท.วรยส ได้ส่งเอกสารด่วนที่สุดถึงผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 กัมพูชา โดยขอให้จัดทำแผนอพยพประชาชนชาวกัมพูชาในพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน และ บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และบ้านตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว โดยส่งแผนการอพยพฯ ให้ กองทัพภาคที่ 1 ภายในวันที่ 7 ต.ค.2568
อนึ่ง บก.ภูมิภาคทหารที่ 5 ได้กำหนดการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค กัมพูชา-ไทย (RBC) สมัยพิเศษ ช่วงวันที่ 10-12 ต.ค.2568
ก่อนหน้านั้น ทางการ จ.สระแก้ว ประกาศบังคับใช้กฎหมายชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ในราชอาณาจักรไทย แต่ก็ยังมีการปลุกระดมมวลชนทางฝั่งเขมรให้มาท้าทายฝ่ายทหารไทยที่รั้วลวดหนามทุกวัน
ลูกหม้อบูรพาพยัคฆ์
ก่อนหน้านี้ พล.ท.อมฤต บุญสุยา อดีตแม่ทัพภาคที่ 1 มีท่าทีที่ไม่เด็ดขาดต่อกรณีบ้านหนองจาน จึงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย
เมื่อมาถึงยุค “แม่ทัพไก่” พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่ พวกเขาฝากความหวังไว้ค่อนข้างสูง
เนื่องจาก “แม่ทัพไก่” โตมาในร่มเงา “กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์” (ร.12 รอ.) ค่ายไพรีระย่อเดช จ.สระแก้ว ตั้งแต่เป็น ผบ.ร้อยจนขยับขึ้นเป็น “ผู้การ ร.12 รอ.”
ที่สำคัญ “แม่ทัพไก่” เป็นน้องรักของ พล.อ.ธรรมนูญ วิถี อดีต ผบ.ร.12 รอ. ซึ่งปัจจุบัน พล.อ.ธรรมนูญ วิถี เป็นรองผู้บัญชาการกองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์
กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ (ร.12 รอ.) ค่ายไพรีระย่อเดช จ.สระแก้ว รับผิดชอบพื้นที่ชายแดน อ.วัฒนานคร อ.อรัญประเทศ อ.ตาพระยา และ อ.โคกสูง
จะว่าไปแล้ว “ผู้การ ร.12 รอ.” ทุกคนต่างทราบปัญหาบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้วเป็นอย่างดี
ซ่อนปม ซ่อนเชื้อไฟชายแดน
ปี 2522 ไฟสงครามชายแดนลุกโชน ทหารเวียดนามผสมทหารเขมรเฮงสำรินยึดกัมพูชา คลื่นคนอพยพทะลักเข้าไทย รัฐบาลไทยจึงอนุญาตให้ UNHCR จัดตั้งค่ายผู้ลี้ภัยในพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.ปราจีนบุรี(สมัยนั้นยังไม่แยกเป็น จ.สระแก้ว)
ต่อมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้เข้ามารับผิดชอบพื้นที่ อ.ตาพระยา ในฐานะผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ ได้ทำการสู้รบกับทหารเวียดนามที่บุกโจมตีค่ายผู้ลี้ภัยหลายครั้ง
ปี 2532 “บิ๊กป้อม” เป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ (ร.12 รอ.) ซึ่งเป็นยุครัฐบาลชาติชาย ที่มีนโยบายแปรสนามรบเป็นสนามการค้า โดยไทยอาสาเป็นตัวอย่างในการเจรจาสันติภาพ
ปี 2536 เขมร 4 ฝ่ายได้ลงนามยุติสงคราม เปิดทางให้มีการเลือกตั้ง ผู้ลี้ภัยจึงเดินทางกลับถิ่นฐานบ้านเกิด ยกเว้นชาวเขมรบางกลุ่มที่ยังปักหลักอยู่ในเขตบ้านหนองจาน
ปี 2553 พล.อ.ประวิตร เป็นรองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ได้ไปพูดคุยกับผู้นำรัฐบาลกัมพูชา ปมพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาหลายหน
ดูเหมือนว่า กรณีชาวกัมพูชาบุกรุกตั้งบ้านเรือนในเขตบ้านหนองจาน ก็ไม่ได้รับการแก้ไข แม้จะมีคนไทยในเขตบ้านหนองจาน และใกล้เคียง ได้ร้องเรียนในหลายรัฐบาลให้ดำเนินการขับไล่คนเขมรออกไปจากดินแดนไทย
เมื่อเร็วๆ นี้ “ทัช โสกา” รองโฆษกกระทรวงมหาดไทย กัมพูชา อ้างคำพูด พล.อ.ประวิตร สมัยปี 2553 เรื่องบ้านหนองจาน รวมถึงบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ฝั่งพื้นที่ จ.บันเตียเมียนเจย อยู่ในเขตอธิปไตยกัมพูชา
ในปีนี้ “แม่ทัพไก่” จึงต้องแสดงฝีมือให้คนไทยได้ประจักษ์ กรณีการรักษาอธิปไตยของชาติ และไม่เดินตามรอยรุ่นพี่ “บูรพาขาใหญ่” ที่ปล่อยปละละเลย จนกลายเป็น “ระเบิดเวลา” ใน พ.ศ.นี้







