ปูแผนดับหัวเชื้อ ‘กัมพูชา’ ‘ม้งลาว’ห้วยน้ำขาวโมเดล

ปูแผนดับหัวเชื้อ ‘กัมพูชา’  ‘ม้งลาว’ห้วยน้ำขาวโมเดล

ต้องจับตา ปฏิบัติการผลักดันชาวกัมพูชา ออกจากพื้นที่บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว โดยยึดแนวทางเดียวกับโมเดลม้งลาวห้วยน้ำขาวในอดีต จะสำเร็จหรือไม่

KEY

POINTS

  • จ.สระแก้ว ติดกับกัมพูชา มี 24 หลักเขตแดน และมี 11 เขตที่กัมพูชาไม่ยอมรับ 
  • บ้านหนองจาน ศูนย์ลี้ภัยเก่า เขตอธิปไตยไทยที่ชาวกัมพูชาบุกรุกกว่า 100 หลังคาเรือน และบ้านหนองหญ้าแก้ว พื้นที่รุกล้ำเกินกัมพูชาอ้างสิทธิ์ 140 เมตร

“กองทัพบก” กำลังรอการตัดสินใจของรัฐบาลชุดใหม่ ภายใต้การนำของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ผลักดันชาวกัมพูชาที่รุกล้ำอธิปไตย จ.สระแก้ว ออกจากพื้นที่ หรือจะผ่อนปรนให้อยู่ต่อ

ปัจจุบัน กองทัพบก ให้กองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 จัดทำแผน ขั้นตอนการปฏิบัติ เน้นมาตรการจากเบาไปหาหนัก ส่งให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) พิจารณาเรียบร้อยแล้ว เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติ แต่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล

ภายหลัง ปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้ประชุมร่วมกับ อุม เรียไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย เมื่อ 17 ก.ย. โดยฝ่ายไทยกำหนดข้อปฏิบัติ 8 ข้อ อาทิ

1.ให้ทั้งถอยห่างจากพื้นที่อ้างสิทธิ์ไม่น้อยกว่า 500 เมตร 2.ไม่ปลุกระดมมวลชน 3.ไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะภูมิประเทศ 4.ไม่มีการเพิ่มกำลังทหารและอาวุธหนัก 5.จังหวัดสระแก้ว ขอสงวนสิทธิ์ในการออกเอกสารสิทธิในที่ดินทำกินของคนไทย ในเขตอธิปไตยไทย

6.ประชาชนสองประเทศ เข้าทำประโยชน์ในที่ดินในเขตอธิปไตยของตนนอกพื้นที่อ้างสิทธิ์ได้

โดยสาระสำคัญอยู่ที่ข้อ 7 ที่ระบุว่า หากไทยและกัมพูชาไม่สามารถหาข้อตกลงได้ภายใต้กลไกการหารือของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัยพิเศษครั้งต่อไป ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีขึ้นในวันที่ 10 ต.ค.

โดยจังหวัดสระแก้ว จะมีหนังสือแจ้ง จังหวัดบันเตียเมียนเจย ให้ราษฎรที่อยู่นอกเส้นอ้างสิทธิ์ที่รุกล้ำเข้ามาในอธิปไตยไทย ให้ย้ายออกจากบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง ภายใน 30 วัน หากเพิกเฉยจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายของราชอาณาจักรไทยต่อไป

สำหรับพื้นที่ จ.สระแก้ว ติดกับกัมพูชา มี 24 หลักเขตแดน และมี 11 เขตที่กัมพูชาไม่ยอมรับ โดยมีพื้นที่อ้างสิทธิ์ที่มีการละเมิดเอ็มโอยู 43 ชาวกัมพูชาปลูกสร้างที่อยู่อาศัย

ทว่า กรณีพื้นที่บ้านหนองจาน บนถนนศรีเพ็ญ จากจุดที่ทหารวางแนวรั้วลวดหนามวัดได้ประมาณ 60 เมตร คือ ศูนย์ลี้ภัยเก่า เขตอธิปไตยไทยที่ชาวกัมพูชาบุกรุกกว่า 100 หลังคาเรือน และบ้านหนองหญ้าแก้ว พื้นที่รุกล้ำเกินกัมพูชาอ้างสิทธิ์ 140 เมตร

แม้ “กระทรวงกลาโหม”ได้จัดโซนพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 จ.สระแก้ว มีความตึงเครียดปานกลาง แต่กรณีบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว คือ “หัวเชื้อ”สำคัญที่กัมพูชาหวังนำไปขยายผลในเวทีโลก ว่าฝ่ายไทยกระทำการรุนแรงต่อชาวกัมพูชา

ตามแผนปฏิบัติการของกองทัพบกที่ส่งให้ สมช. ระบุให้ใช้ขั้นตอนการเจรจาเป็นลำดับแรก โดยต้องรอรัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ซึ่งมี รมว.การต่างประเทศ เป็นประธาน คาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็ววันนี้ภายหลังการโปรดเกล้าฯ ครม.ชุดใหม่

จากนั้นจะนัดประชุม JBC โดยรอบนี้ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ ประเด็นสำคัญเพื่อยืนยันเส้นเขตแดนพื้นที่บ้านหนองจานกับหนองหญ้าแก้ว โดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ว่าที่ รมว.กลาโหม ขอให้กระทรวงต่างประเทศ ประสานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSCR) ให้ไปช่วยเจรจา ในฐานะที่เป็นหน่วยงานร้องขอให้ไทยตั้งศูนย์อพยพในอดีตบ้านหนองจาน

ทั้งนี้ หากการเจรจาไม่เป็นผล กองทัพบกได้เสนอให้ใช้ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ฝ่ายปกครอง กอ.รมน.จังหวัด บูรณาการบังคับใช้กฎหมายไทย บุกจับกุม และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ซึ่งอยู่ระหว่างรอนโยบายรัฐบาลอนุทิน ว่าจะอนุมัติหรือไม่

หากรัฐบาลอนุมัติให้ดำเนินการ ย่อมเป็นไปได้สูง ที่จะมีการกระทบกระทั่ง เพราะกัมพูชาใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ดังนั้น มาตรการจะยกระดับขึ้นเรื่อยๆ โดยใช้ตำรวจควบคุมฝูงชน ส่วนกำลังทหารจะทำหน้าที่ปิดพื้นที่ ป้องกันการขนคนกัมพูชานอกพื้นที่เข้ามาเติม

สำหรับแผนปฏิบัติการของกองทัพบก จะยึดแนวทางเดียวกับกรณีส่งตัวผู้อพยพชาวม้งลาวกว่า 4,000 คน หมู่บ้านห้วยน้ำขาว อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ปี 2552 ซึ่งในขณะนั้น กองทัพภาคที่ 3 จัดกำลังทหาร 5,000 นาย และใช้เพียงโล่ กระบอง รถบรรทุกจีเอ็มซี ร่วม 100 คัน และรถควบคุมผู้ต้องขังของตำรวจภูธรอีก 60 คัน รับมือชาวม้งหัวรุนแรง

โดยกำลังทหาร ออกปฏิบัติการตั้งแต่ช่วงเช้ามืด จำแนกการดำเนินการ 3 กลุ่ม ผู้หญิงและเด็กประมาณ 2,500 คน ผลักดันขึ้นรถจีเอ็มซี จำนวน 80 คัน

ส่วนชาวม้งลาวที่เป็นผู้ชาย หรือแกนนำหัวรุนแรง ถูกส่งขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขัง 60 คัน เพื่อป้องกันหลบหนี

โดยทั้งหมดถูกส่งต่อไปยังรถบัสที่จัดเตรียมไว้จำนวน 100 คัน จากนั้นมุ่งหน้าไปด่าน ตม.หนองคาย ผ่านจ.ขอนแก่น และหนองบัวลำภู พร้อมข้ามฝั่งไป สปป.ลาว ทันที โดยได้ประสานทางการลาวรับตัว

ล่าสุด สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สระแก้ว งวดเข้ามาทุกขณะ ฝ่ายปฏิบัติระดับพื้นที่ได้เตรียมแผนการรองรับไว้หมดแล้ว รอเพียงกลไก JBC ขับเคลื่อน หากการเจรจาไม่เป็นผล

ต้องจับตา ปฏิบัติการผลักดันชาวกัมพูชา ออกจากพื้นที่บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว โดยยึดแนวทางเดียวกับโมเดลม้งลาวห้วยน้ำขาวในอดีต จะสำเร็จหรือไม่