'ปิยบุตร' หายไปไหน 'พรรคส้ม' วิกฤติ 'ธนาธร' พันลึก

วิกฤติศรัทธา “ธนาธร” เจอคำถามพันลึก “ปิยบุตร” หายไปไหน อยากรู้คำตอบ ปมยุทธวิธี MOA "ส้ม-น้ำเงิน" เก๋าเกม หรือไร้เดียงสา
KEY
POINTS
- ด้อมส้มจำนวนไม่น้อยอยากทราบว่า ในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน “ปิยบุตร” คิดอ่านอย่างไร และมีข้อเสนออะไรต่อการตัดสินใจของ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน
- พรรคประชาชนรับ “ก้อนอิฐ” มากกว่าดอกไม้ และวงในสายนักวิชาการปีกก้าวหน้า เริ่มตั้งคำถาม “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ผู้นำทางจิตวิญญาณสีส้มว่า มีดีลลึกดีลลับอะไรหรือไม่
- หากความฝันพรรคสีส้มเป็นจริง ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ การประนอมอำนาจกับกลุ่มชนขั้นนำ ก็เป็นทางเลือก เพื่อการเปลี่ยนผ่านอย่างสันติ
พรรคสีส้มเผชิญมรสุมใหญ่ จะเลือกแบบไหน “ประชาธิปไตย 2 ใบอนุญาต” หรือประชาธิปไตยประชาชน
พลันที่แกนนำพรรคประชาชน เลือกยุทธวิธี MOA หนุน “อนุทิน ชาญวีรกูล” นั่งนายกฯ สนองยุทธศาสตร์เลือกตั้ง 69 ได้มีปฏิกิริยาเกรี้ยวกราดจากด้อมส้ม และแนวร่วมนักวิชาการอย่างกว้างขวาง
ดังนั้น พรรคประชาชนจึงรับแต่ “ก้อนอิฐ” มากกว่าดอกไม้ และวงในสายนักวิชาการปีกก้าวหน้า เริ่มตั้งคำถาม “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ผู้นำทางจิตวิญญาณสีส้มว่า มีดีลลึกดีลลับอะไรหรือไม่
ขณะเดียวกัน ก็มีคนถามหา “ปิยบุตร แสงกนกกุล” อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และอดีตเลขาธิการคณะก้าวหน้า ที่ได้ประกาศวางมือทางการเมืองไปแล้ว
ด้อมส้มจำนวนไม่น้อยอยากทราบว่า ในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน “ปิยบุตร” คิดอ่านอย่างไร และมีข้อเสนออะไรต่อการตัดสินใจของ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือน ต.ค.2567 ปิยบุตร แสงกนกกุล ได้เข้าร่วมสนทนาในรายการ MatiTalk ของมติชนสุดสัปดาห์ พร้อมการเสนอคำศัพท์การเมือง “ประชาธิปไตย 2 ใบอนุญาต”
ประเทศไทยในวันนี้ คู่ขัดแย้งระหว่างพลังอำนาจทางการเมืองที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง กับพลังอำนาจทางการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ยังต่อสู้กันไม่จบ
ปิยบุตร กล่าวว่า “ประเทศไทยตอนนี้อยู่ในยุคที่เรียกว่า ประชาธิปไตย 2 ใบอนุญาต...ใบอนุญาตใบแรก คือ มาจากการเลือกตั้ง เราปฏิเสธเรื่องนี้ไม่ได้ ประเทศไทยต้องอยู่ในเวทีโลก ต้องมีการเลือกตั้ง ดังนั้น ใบอนุญาตใบแรก คือ ฉันทานุมัติจากประชาชน ที่มอบให้กับพรรคการเมืองในการเข้าไปจัดตั้งรัฐบาล ใบนี้ขาดไม่ได้”
ความแหลมคมของปิยบุตร อยู่ที่ประเด็นนี้ “...แต่มีใบเดียวสำหรับประเทศไทยตอนนี้ไม่พอ ต้องมีใบที่ 2 เรียกว่าเป็น “ใบอนุญาตจากชนชั้นนำ..เวลานี้ใบอนุญาตใบที่ 2 สำคัญกว่าใบที่ 1 ทำให้ตอนนี้เหมือนทุกคนต้องเป็นเด็กดี”
วันที่แกนนำพรรคประชาชน เลือกปักธงยุบสภาฯ บนฐานของการทำประชามติในเรื่องการตั้ง ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้ง ด้วยการโหวตเลือก “อนุทิน” เป็นนายกฯ จึงมีแนวร่วมสีส้มบางกลุ่มคลางแคลงใจ
การเลือกข้างน้ำเงิน คือ ยุทธวิธีสนองยุทธศาสตร์ หรือเรื่องพันลึก “ประชาธิปไตย 2 ใบอนุญาต” พวกเขายังหาคำตอบไม่ได้
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ย่อมได้อ่านเรื่องประชาธิปไตย 2 ใบอนุญาต ของปิยบุตร แสงกนกกุล แต่เหตุใด จึงปล่อยให้แกนนำสีส้มเลือกหนทางที่สุ่มเสี่ยงเช่นนี้
จะว่าไปแล้ว ธนาธร-ปิยบุตร ก็มีความแตกต่างกันในโลกทัศน์ และชีวทัศน์ เพราะทั้งคู่มีที่มาต่างกัน จึงมองการเมืองไทยด้วยแว่นคนละสี
นักวิชาการผู้ฝักใฝ่การปฏิวัติ
ย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ชายหนุ่มสองคน ต่างสถานะต่างวิถี โคจรมาพบกันในวันที่บ้านเมือง มีสถานการณ์ไม่ปกติ หรือที่เรียกว่า รัฐพันลึก ภายใต้ประชาธิปไตยที่มีการควบคุม
พ.ศ.นั้น ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท ไทยซัมมิท ส่วน ปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“..รู้จักกันเพราะความหลงใหลทางการเมือง อุดมการณ์ที่ใกล้กัน พาให้เรามารู้จักกันเองด้วยกฎของธรรมชาติ” ธนาธร เล่าความหลัง
“อาจารย์ปิยบุตร จะไม่รู้เรื่องด้านธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ แต่จะรู้เรื่องด้านกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม มันคลิกกัน”
นั่นจุดเริ่มต้นของ “พรรคอนาคตใหม่” ต่อเนื่องมายัง “พรรคก้าวไกล” และเปลี่ยนมาเป็น “พรรคประชาชน”
ปิยบุตร สนใจเรื่องการปฏิวัติ การเปลี่ยนแปลงสังคมมาตั้งแต่สมัยเรียนกฎหมายมหาชนที่ฝรั่งเศส
ปลายปี 2553 ปิยบุตร เข้าร่วมกับอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ในนามคณะนิติราษฎร์ ได้นำเสนอทางงานวิชาการให้ลบล้างผลพวงของการรัฐประหาร 2549
ปิยบุตร ได้เล่าว่า ตอนเริ่มก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ได้นำทฤษฎีการเมืองของปรัชญาเมธีหลายคนมาประยุกต์ใช้ คนแรกคือ อัน โตนิโอ กรัมชี (Antonio Gramsci)
อันโตนีโอ กรัมชี ปรัชญาเมธีชาวอิตาลี เสียชีวิตในวัย 47 ปี เขาถูกเผด็จการฟาสซิสต์มุสโสลินี สั่งจำคุกเป็นเวลา 20 ปี 4 เดือน 5 วัน ระหว่างติดคุก กรัมชี่เขียนทฤษฎีการเมืองออกมาหลายเล่ม
เหตุที่เขาสนใจกรัมชี่ในเรื่องอำนาจนำ (Hegemony) ซึ่งอำนาจนำ ก็คือความสามารถในการกำหนดเรื่องเฉพาะ ให้กลายเป็นเรื่องทั่วไปที่ทุกคนต้องยอมรับ
กรัมชีบอกว่า “ถ้าคุณต้องการสร้างอำนาจนำ (Hegemony) ให้สำเร็จ ต้องทำงานผ่านด้าน Civil Society เป็นหลัก”
พูดง่ายๆ หากต้องการยึดอำนาจรัฐ ไม่ผ่านการทำสงครามความคิด ไม่เปลี่ยนความคิดคน ไม่มีทางสำเร็จหรอก
ปิยบุตรจึงให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงทางความคิดของผู้คนในสังคม ลำพังชัยชนะด้วยหีบบัตรเลือกตั้ง ไม่เพียงต่อการเปลี่ยน แปลงสังคมไทย
นักธุรกิจหัวใจประชาธิปไตย
ธนาธร เติบโตในอาณาจักรธุรกิจอะไหล่รถยนต์ ได้เห็นอา-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เล่นการเมืองกว่า 30 ปี และสมัยพ่อ-พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ ยังชีวิตอยู่ ก็คบค้าสมาคมกับนักการเมืองรุ่นเก๋าหลายคน
ด้วยเหตุนี้ ธนาธรจึงมีความยืดหยุ่นทางการเมืองมากกว่าปิยบุตร และเข้าใจธรรมชาติการเมืองเก่า
จากพรรคอนาคตใหม่ ผ่านมาถึงพรรคประชาชน พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พรรคสีส้มฆ่าไม่ตาย
“ผมยังยืนยันว่า ในสังคมที่เป็นสมัยใหม่แบบนี้ ฆ่าล้างกันไม่ได้เหมือนสมัยก่อน.. คุณจะเอาประเทศกลับไปเป็นร้อยปี ก็ไม่ได้เหมือนกัน เหลือทางเดียวก็คือ ประนีประนอม เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเลือดเสียเนื้อ”
นี่คือคำพูดของธนาธร ที่ส่งสัญญาณถึงคนบางกลุ่ม
หากความฝันพรรคสีส้มเป็นจริงในการเลือกตั้งครั้งใหม่ การประนอมอำนาจกับกลุ่มชนขั้นนำ ก็เป็นทางเลือก เพื่อการเปลี่ยนผ่านอย่างสันติ







