เหตุเกิดที่ 'บ้านหนองจาน' คนไทยรักชาติโหยหา 'วีรบุรุษตาพระยา'

เหตุเกิดที่ 'บ้านหนองจาน' คนไทยรักชาติโหยหา 'วีรบุรุษตาพระยา'

บ้านหนองจานเดือด เขมรป่วนไม่เลิก คนรักชาติเพรียกหาทหารกล้าแบบ “พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร” นักรบ“วีรบุรุษตาพระยา” ของแท้

ย้อนอดีต “หนองจาน” 2 ยุค สมรภูมิรบ “นักรบบูรพา” ปราบผู้รุกราน ทั้ง เขมรแดง - เขมรเฮงสำริน

 

เหตุเกิดที่ 'บ้านหนองจาน' คนไทยรักชาติโหยหา 'วีรบุรุษตาพระยา'

ภาพข่าวเหตุการณ์ชาวเขมรรื้อลวดหนามที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ปลุกคนไทยรวมตัวกันแสดงพลังรักชาติ และเรียกร้องให้ กองทัพภาคที่ 1 ดำเนินมาตรการเด็ดขาดตอบโต้เขมร

เหตุเกิดที่ 'บ้านหนองจาน' คนไทยรักชาติโหยหา 'วีรบุรุษตาพระยา'

ด้วยเหตุนี้ “แม่ทัพใหญ่” พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 จึงไม่ได้รับความนิยมจากคนไทยเท่ากับ “แม่ทัพกุ้ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2

เหตุเกิดที่ 'บ้านหนองจาน' คนไทยรักชาติโหยหา 'วีรบุรุษตาพระยา'

ขณะเดียวกัน ในโซเชียลคนไทยบางกลุ่มได้นำประวัติ “พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร” อดีตผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.) มาเผยแพร่อีกครั้ง ในฐานะ “ผู้การประจักษ์” ได้นำทัพนักรบบูรพา ขับไล่ทหารกัมพูชาผู้รุกราน จนได้รับฉายา “วีรบุรุษตาพระยา” 

เหตุเกิดที่ 'บ้านหนองจาน' คนไทยรักชาติโหยหา 'วีรบุรุษตาพระยา'

สำหรับวีรกรรมของนักรบบูรพา โดยการนำของ พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร มีอยู่ 2 ห้วงเวลา และมีคู่ปรปักษ์ต่างกันตามบริบทการเมืองในกัมพูชา

ช่วงแรกปี 2520 “ผู้การประจักษ์” สมัยครองยศ “พันโท” เป็นผู้บังคับกองพันที่ 3 กรมผสมที่ 2 ปราจีนบุรี นำกำลังทหารต่อสู้กับทหาร “เขมรแดง” และบุกตีตะลุยถึงเมืองปอยเปต

เหตุที่ทหารไทยต้องรบกับเขมรแดง เพราะกลางปี 2518 เขมรแดงและเจ้าสีหนุ โค่นรัฐบาลลอนนอล หุ่นเชิดสหรัฐฯ สถาปนาประเทศ “กัมพูชาประชาธิปไตย” 

ช่วงที่สองปี 2523 พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร ในฐานะ ผบ.ร.2 รอ. (บูรพาพยัคฆ์) สั่งการให้ทหารขับไล่ทหาร “เขมรเฮงสำริน” และ “เวียดนาม” ออกจากพื้นที่บ้านหนองจาน สมัยที่ยังขึ้นกับ อ.ตาพระยา จ.ปราจีนบุรี 

คู่ปรปักษ์ของนักรบไทย เปลี่ยนเป็น เขมรเฮงสำริน-เวียดนาม เพราะต้นปี 2522 กลุ่มเฮงสำริน (เจียซิม-ฮุนเซน) และกองทัพเวียดนาม โค่นระบอบเขมรแดง

เหตุเกิดที่ 'บ้านหนองจาน' คนไทยรักชาติโหยหา 'วีรบุรุษตาพระยา'

หัวแถวยังเติร์ก จปร.

คอการเมืองจะคุ้นชื่อ พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร ในบทบาทแกนนำยังเติร์ก จปร.7 และเคยนำกำลังทหารปราจีนบุรี เข้าร่วมการทำรัฐประหาร 1-4 เม.ย. 2524 แต่ไม่สำเร็จ

หลังเหตุการณ์ 14 ต.ค. 2516 พ.อ.ประจักษ์ ย้ายไปรับราชการชายแดนบูรพา ในตำแหน่งผู้บังคับกองพันที่ 3 กรมผสมที่ 2 จ.ปราจีนบุรี 

เมื่อต้นเดือน ส.ค. 2520 พ.ท.ประจักษ์ (ยศขณะนั้น)ได้นำกำลังทหารปราจีนฯ ไล่ถล่มทหารเขมรแดงและบุกข้ามแดนถึงเมืองปอยเปต

เหตุการณ์ “บุกปอยเปต” ส่งผลให้ พล.อ.เสริม ณ นคร ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ขณะนั้น ลงนามคำสั่งย้าย พ.ท.ประจักษ์ ไปรับตำแหน่งใหม่เป็นอาจารย์หัวหน้าวิชาทั่วไป ที่ศูนย์การทหารราบ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

เหตุเกิดที่ 'บ้านหนองจาน' คนไทยรักชาติโหยหา 'วีรบุรุษตาพระยา'

ปลายปี 2520 “ผู้พันประจักษ์” ให้สัมภาษณ์นิตยสารข่าวไทยนิกร โดยพูดถึงปฏิบัติการ “บุกปอยเปต” ว่า

“ที่ผมต้องทำลงไปนี่ เพราะคิดว่าศักดิ์ศรีของชาติเหนือกว่าอนาคตของผม ผมจะถูกยิงเป้าหรือจะถูกออกจากราชการก็ต้องทำ เพื่อศักดิ์ศรีของความเป็นไทย ใครจะมารุกรานไม่ได้”

อีกประโยคหนึ่งที่คนไทยจดจำแม่น “เมื่อผมรับผิดชอบอยู่ มัวแต่จะมาคอยคำสั่ง เมื่อเขาทำเราได้ เราก็เอาเขาได้”

เมื่อผู้รักชาติเห็นท่าทีประนีประนอมของ พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ต่อวิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชาหนนี้ จึงเรียกร้องให้ “แม่ทัพใหญ่” หาญกล้าเยี่ยงรุ่นพี่ จปร.7 อย่าง พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร 

ที่มา “วีรบุรุษตาพระยา” 

เหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วงปี 2520 กรณีทหารเขมรแดงบุกสังหารคนไทย มีอยู่ 2 กรณี

กรณีบ้านน้อยป่าไร่ บ้านกกค้อ และบ้านหนองดอ อ.ตาพระยา จ.ปราจีนบุรี (สมัยนั้นยังไม่ได้แยกเป็น จ.สระแก้ว)

คืนวันที่ 28 ม.ค. 2520 ทหารเขมรแดงโจมตีฐาน ตชด. และ 3 หมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านไทยตายนับ 30 ศพ

พ.ท.ประจักษ์ สว่างจิตร ผู้บังคับกองพันที่ 3 กรมผสมที่ 2 ปราจีนบุรี ได้นำกำลังเข้าตะลุมบอนทหารเขมรแดง จนผู้รุกรานตายเกลื่อนแผ่นดินไทย สื่อมวลชนจึงขนานนาม พ.ท.ประจักษ์ ว่า “วีรบุรุษบ้านน้อยป่าไร่” 

เหตุเกิดที่ 'บ้านหนองจาน' คนไทยรักชาติโหยหา 'วีรบุรุษตาพระยา'

ต่อมา วันที่ 2 ส.ค. 2520 ทหารเขมรแดง โจมตีฐาน ตชด. และเข่นฆ่าชาวบ้านสันรอชะงัน และบ้านแสง์ อ.ตาพระยา รวมแล้ว 29 ศพ และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก

พ.ท.ประจักษ์ สว่างจิตร ได้นำทหารไทยเข้าผลักดันเขมรแดงอย่างห้าวหาญ และเล่ากันว่า ผู้พันประจักษ์ สั่งยิงปืนใหญ่จนกระสุนหมดคลัง และทหารไทยรุกเข้าไปถึงปอยเปต ประเทศกัมพูชา

จากการรบอันดุเดือดและตีตะลุยถึงปอยเปต สื่อมวลชนจึงเปลี่ยนฉายาใหม่ให้กับ พ.ท.ประจักษ์ว่า “วีรบุรุษตาพระยา” แทน “วีรบุรุษบ้านน้อยป่าไร่” 

ต้นแบบ “บูรพาพยัคฆ์” ของแท้

ปลายปี 2520 กลุ่มยังเติร์ก จปร.7 หนุน พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์นั้น ก่อรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลธานินทร์ กรัยวิเชียร โดย พล.อ.เกรียงศักดิ์เป็นนายกรัฐมนตรี

พ.ท.ประจักษ์ (ยศเดิม) จึงได้กลับมาปราจีนบุรีอีกครั้ง และมีการปรับยศปรับตำแหน่งเป็น พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.) ซึ่งหน่วยนี้มีฉายาว่า “บูรพาพยัคฆ์” 

ต้นปี 2522 ภายในกัมพูชาเกิดการเปลี่ยนแปลง เขมรเฮงสำริน และกองทัพเวียดนาม โค่นล้มระบอบเขมรแดง จึงมีคนเขมรอพยพเข้ามาอยู่ชายแดนไทยมากขึ้น

UNHCR ร่วมกับ รัฐบาลไทย จัดตั้งค่ายอพยพที่บ้านหนองจาน และโนนหมากมุ่น อ.ตาพระยา จ.ปราจีนบุรี 

วันที่ 22 มิ.ย. 2523 ทหารเวียดนามและเขมรเฮงสำริน เข้าโจมตีค่ายอพยพบ้านหนองจานและโนนหมากมุ่น

เหตุเกิดที่ 'บ้านหนองจาน' คนไทยรักชาติโหยหา 'วีรบุรุษตาพระยา'

พ.อ.ประจักษ์ ในฐานะผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จึงสั่งการให้ทหารตอบโต้และผลักดันข้าศึกให้ออกจากบ้านโนนหมากมุ่น

อีกสองวันถัดมา “ผู้การประจักษ์” ยังได้สั่งทหารเข้ากวาดล้างทหารเวียดนามและเฮงสำริน ในพื้นที่ชายแดนรอบบ้านหนองจาน ส่งผลให้ข้าศึกถูกสังหาร 52 ศพ ยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ และสิ่งอุปกรณ์อื่นๆได้จำนวนมาก 

ทั้งหมดนี้ เป็นวีรกรรมของ พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร และนักรบบูรพาพยัคฆ์ในอดีต ซึ่งคนไทยยังจดจำชื่อ “ผู้พันประจักษ์” หรือ “ผู้การประจักษ์” มาจนถึงทุกวันนี้