'ฮุน เซน-สม รังสี' รวมหัวรบ 'ไทย' ปั่นชาตินิยมเขมร

'ฮุน เซน-สม รังสี' รวมหัวรบ 'ไทย' ปั่นชาตินิยมเขมร

ลูกบ้าเที่ยวสุดท้าย “ฮุน เซน” เปิดศึกล้างอายพ่ายไทยปี 2554 “สม รังสี” ได้ทีขี่กระแสชาตินิยม ปลุกคนเขมรต้านสยามผู้รุกราน

KEY

POINTS

  • นักการเมืองกัมพูชาทั้งฝ่ายรัฐบาลของฮุน เซน และฝ่ายค้านของสม รังสี ต่างใช้ประเด็นความขัดแย้งกับไทยเป็นเครื่องมือปลุกกระแสชาตินิยมเพื่อสร้างคะแนนนิยมทางการเมือง
  • ฮุน เซน ใช้วิธีเคลื่อนกำลังพลประชิดชายแดนและสร้างวาทกรรมสงคราม เพื่อกระตุ้นให้ชาวเขมรเกิดความรู้สึกรักชาติและมองว่าไทยเป็นผู้รุกราน
  • สม รังสี ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมืองกับฮุน เซน ก็ร่วมโหนกระแสชาตินิยมด้วยการจัดชุมนุมต่อต้านไทยในต่างแดนและแสดงการสนับสนุนกองทัพกัมพูชา
  • การใช้ไทยเป็นประเด็นปลุกชาตินิยมถือเป็นกลยุทธ์ทางการเมืองที่ทั้งสองฝ่ายในกัมพูชาใช้มาอย่างต่อเนื่อง โดยสร้างภาพให้ไทยเป็นศัตรูเพื่อรักษาอำนาจและผลประโยชน์

กลยุทธ์นักการเมืองกัมพูชา ไม่ว่าฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ต่างใช้วาทกรรมสงครามและความเกลียดชังต่อเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างคะแนนนิยม

สถานการณ์การสู้รบ ชายแดนไทย-กัมพูชา ปี 2568 ประเมินเหตุการณ์ภาพรวมดูรุนแรงและหนักหน่วงกว่าปี 2554 

เมื่อ สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกฯ ในฐานะประธานวุฒิสภา ตั้งใจเปิดศึกล้างตาด้วยการยกกำลังพลนับหมื่นนายมาประชิดชายแดนไทย ตั้งปลายเดือน พ.ค.2568

ก่อนเสียงปืนแตกที่ปราสาทตาเมือนธม สมเด็จฮุน เซน ปั่นวาทกรรมชาตินิยมกัมพูชา ด้วยการจัดกิจกรรมชุมนุมใหญ่ 2 รอบ และเมื่อเกิดการสู้รบ คนเขมรต่างแสดงออกถึงความรักชาติ และเกลียดชังไทยผู้รุกราน

'ฮุน เซน-สม รังสี' รวมหัวรบ 'ไทย' ปั่นชาตินิยมเขมร

สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้าน ยังต้องกระโดดออกมาขี่กระแสชาตินิยมเขมร ด้วยการจัดให้อดีตสมาชิกพรรคกอบกู้ชาติกัมพูชา(CNRP) ในสหรัฐฯ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้ จัดการชุมนุมต่อต้านกองทัพไทยที่รุกรานอธิปไตยของกัมพูชา 

มีข้อน่าสังเกตว่า ผู้ชุมนุมมีทั้งฝั่งหนุนฮุน เซน-ฮุน มาเนต และฝั่งหนุนสม รังสี ซึ่งน่าจะเป็นครั้งแรกที่คนเขมรในต่างแดน มีเอกภาพในการเคลื่อนไหวทางการเมือง

มิเพียงเท่านั้น สม รังสี ยังโพสต์เฟซบุ๊คว่า “ข้าพเจ้าขอแสดงความชื่นชมต่อกองกำลังทหารกัมพูชา ที่กำลังปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศกัมพูชา และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของชาวกัมพูชาที่สูญเสียชีวิตจากการรุกรานของประเทศไทย”

อย่างไรก็ตาม สม รังสี ได้ชี้เป้าไปคู่แค้นทางการเมืองว่า “ฮุน เซน ต่ำต้อยที่สุด ได้หัวก็กินหัว ได้หางก็กินหาง การกระทำเช่นนี้เป็นการนำภัยพิบัติมาสู่กัมพูชา”

วอร์รูมตระกูลฮุน

นับแต่มีการสู้รบที่ชายแดนตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.2568 สมเด็จฮุน เซน กบดานอยู่ในวอร์รูมที่กองบัญชาการทหารองครักษ์ อ.ตาขะเมา จ.กันดาล

'ฮุน เซน-สม รังสี' รวมหัวรบ 'ไทย' ปั่นชาตินิยมเขมร

ส่วน ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รมว.กลาโหม อยู่ในวอร์รูมภายในค่ายทหารใหญ่แห่งหนึ่ง

สำหรับกองบัญชาการในแนวหน้า มี ฮุน มานิต ทำงานร่วมกับ พล.อ.สะรัยดึ๊ก รอง ผบ.ทบ. และ พล.อ.ฮิง บุนเฮียง ผบ.หน่วยองครักษ์ 

หลังมีข่าวลือว่า ฮุน เซน หนีออกนอกประเทศ แอดมินเพจSamdech Hun Sen of Cambodia จึงโพสต์รูปภาพฮุน เซน หน้าตาอิดโรย เหมือนคนไม่ได้หลับนอน พร้อมข้อความว่า

“ในสถานการณ์ที่ประเทศชาติและประชาชนกำลังเผชิญกับความทุกข์ยากเช่นนี้ พวกเราไม่มีสิทธิ์ที่จะเจ็บป่วย และไม่มีสิทธิ์ที่จะพักผ่อนเลย”

อีกด้านหนึ่ง สมเด็จบุน รานี ภริยาฮุน เซน นายกสภากาชาดกัมพูชา และเพชร จันมุนี ภริยาฮุน มาเนต ประธานสมาคมเยาวชนแพทย์อาสากัมพูชา TYDA ได้ออกเคลื่อนไหวช่วยเหลือประชาชนที่หลบภัยสงคราม

'ฮุน เซน-สม รังสี' รวมหัวรบ 'ไทย' ปั่นชาตินิยมเขมร

ฮุน มานี รองนายกรัฐมนตรี และประธานสหภาพสหพันธ์เยาวชนกัมพูชา ได้ระดมเยาวชนออกมาแสดงพลังรักชาติ เดินขบวนต้านการรุกรานของไทย

ทุกการเคลื่อนไหวในโซเชียลและบนท้องถนนของผู้รักชาติ ส่งผลให้ “ชาตินิยมเขมร” พุ่งขึ้นสู่กระแสสูง

การเมืองชาตินิยมเขมร

จะว่าไปแล้ว นักการเมืองกัมพูชา ไม่ว่าฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน มักเล่นการเมือง “ชาตินิยมเขมร” อยู่เสมอๆ 

กลยุทธ์หนึ่งในการรักษาอำนาจของฮุน เซน ก็คือ การสร้างความหวาดกลัวและปลุกกระแสชาตินิยมให้กับประชาชน 

จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในกระแสชาตินิยมเขมร “ไทย” จึงตกเป็นผู้ร้ายและศัตรู ที่ต้องการดินแดน ฉกฉวยผลประโยชน์ และครอบงำทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นมรดกที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยอาณานิคม

ช่วงการเลือกตั้ง สส.ของกัมพูชาเมื่อปี 2565 ฮุน เซน สร้างวาทกรรมความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน

“หากพรรคประชาชน(CPP)แพ้เลือกตั้ง พรรคคู่แข่งจะก่อความรุนแรงจากการทวงคืนดินแดนที่สูญเสียไปจากไทยและเวียดนาม”

ดังนั้น วาทกรรมสงครามและความเกลียดชังต่อเพื่อนบ้าน มักถูกนำมารื้อฟื้นและผลิตซ้ำในทุกการเลือกตั้งอยู่เสมอ 

ฝ่ายค้านโหนชาตินิยม

เมื่อ 15 ปีที่แล้ว พรรคกอบกู้ชาติกัมพูชา(CNRP) เป็นพรรคฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง มีอุดมการณ์เสรีนิยม และมีผู้นำชื่อ สม รังสี ภายหลัง สมเด็จฮุน เซน สร้างเรื่องใส่ร้ายฝ่ายค้าน และยื่นศาลยุบพรรค CNRP

'ฮุน เซน-สม รังสี' รวมหัวรบ 'ไทย' ปั่นชาตินิยมเขมร

ปัจจุบัน สม รังสี และอดีตแกนนำพรรค CNRP ลี้ภัยอยู่ในต่างแดน และยังพยายามเคลื่อนไหวกัดกร่อนบ่อนเซาะอำนาจตระกูลฮุน

ปี 2567 มีความเคลื่อนไหวของคนไทยบางกลุ่ม จุดประเด็นไทยจะเสียดินแดนเกาะกูด จ.ตราด และเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก MOU 44 ที่ไทยลงนามร่วมกับกัมพูชาไว้เมื่อปี 2544

สม รังสี ที่เป็นปรปักษ์กับสมเด็จฮุน เซน ได้จับเอาประเด็น “เกาะกูด” มาเคลื่อนไหวทันที โดยเรียกร้องให้รัฐบาลฮุน มาเน็ต อ้างอำนาจอธิปไตยเหนือเกาะกูด

วันที่ 19 ม.ค. 2568 ชาวกัมพูชาในสหรัฐฯ ได้ชุมนุมประท้วงเพื่อปกป้องเกาะกูด ที่แคลิฟอร์เนีย เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาประกาศว่า เกาะกูดเป็นของกัมพูชา หรือไม่ก็นำเรื่องขึ้นสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ

หลังทหารไทยสู้รบทหารกัมพูชาตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.นี้ สม รังสี ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Sam Rainsy ว่า “เราต้องป้องกันไม่ให้ระบอบฮุนเซนเล่นเกมอันตรายกับประเทศไทย”


สม รังสี ยังได้อ้างถึงข้อตกลงสันติภาพปารีส พ.ศ.2534 เพราะเป็นช่องทางเดียวที่จะทำให้ “เขมรนอก” กลับมาแชร์อำนาจกับ “เขมรใน” ได้เหมือนการเลือกตั้งทั่วปี 2536

ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ไม่ว่ารัฐบาลหรือฝ่ายค้านเขมร ต่างก็เล่นเกมชาตินิยม เนื่องจากกระแสเกลียดชังเพื่อนบ้านนั้น ได้มีการปลูกฝังกันมาจากรุ่นสู่รุ่น อย่างคำสอนของตามาส ว่าด้วยเรื่องของตามาสที่อยู่ในภาวะบ้านแตกสาแหรกขาด เพราะไทยและเวียดนามทำสงครามรุกราน โดยไทยจะเป็นศัตรูหลักของคำสอน

สม รังสี นักการเมืองที่โตมาจาก วัฒนธรรมฝรั่งเศส แต่เมื่อได้เข้ามาเล่นการเมืองในบ้านเกิดเมืองนอน ก็ต้องปรับตัวโหนกระแสชาตินิยมเขมร