ฤาประเทศนี้ ห้ามพัฒนา จ้องผูกขา ‘นิติสงคราม’

จะได้ไม่ต้องมี “ผู้กำกับการแสดง” หรือ “ผู้กำกับการเมือง” มาเขียนบท กำหนดทิศทาง สร้างวงจรอุบาทว์ แพทเทิร์นซ้ำๆ ซากๆ ทำประเทศไม่ก้าวไปไหน กลายเป็น ”ประเทศห้ามพัฒนา“ เหมือนอย่างทุกวันนี้!
KEY
POINTS
-
คำถามจากประชาชน และคนเฝ้ามองการเมืองไทย การเมืองจะวนอยู่แบบนี้อีกนานไหม คนไทยและคนทั้งโลก รวมถึงสื่อต่างชาติ นักลงทุน คาดการณ์อนาคตการเมืองไทยไม่ได้เลย
-
การเมืองและบ้านเมือง จะเดินหน้าไปได้อย่างไร ในเมื่อทุกรัฐบาลที่เข้ามาล้วนทำงานไม่ได้ โดยเฉพาะรัฐบาลเลือกตั้ง รัฐบาลพลเรือน มีแต่รัฐบาลจากการรัฐประหาร หรืออำนาจพิเศษเท่านั้นที่อยู่ได้นาน
-
เราต้องทำสังคมเรา ประชาชนของเราให้เข้มแข็ง พร้อมกำกับให้นักการเมือง จะได้ไม่ต้องมี “ผู้กำกับการแสดง” หรือ “ผู้กำกับการเมือง” มาเขียนบท กำหนดทิศทาง สร้างวงจรอุบาทว์ ให้กลายเป็น “ประเทศห้ามพัฒนา” เหมือนอย่างทุกวันนี้
คำถามจากประชาชน และคนเฝ้ามองการเมืองไทย...
1.การเมืองจะวนอยู่แบบนี้อีกนานไหม พวกท่านเล่นอะไรกันอยู่?
พรรคที่ชนะเลือกตั้งมา สะท้อนความต้องการของประชาชน ท่านๆ ก็ไม่ให้เขาเป็นรัฐบาล
พออีกพรรคฉีกตัวออกมาตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว (เหมือนที่ท่านๆ น่าจะต้องการ) ก็ตามไปค้าน ตามไปสอย ตามราวีเขาอีก จนทำงานไม่ได้ รัฐบาลใกล้ล้ม
2.คนไทยและคนทั้งโลก รวมถึงสื่อต่างชาติ นักลงทุน คาดการณ์อนาคตการเมืองไทยไม่ได้เลย คาดถูกอย่างเดียว คือ มืดมน อนธการ เดี๋ยวก็ล้ม และเดี๋ยวก็ลุก แล้วก็คลุกคลาน ลุ่มๆ ดอนๆ เราจะอยู่กันแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน?
แล้วเสถียรภาพที่เป็นสารตั้งต้นของ “ความเชื่อมั่น” มันจะมีได้อย่างไร ใครเขาจะมาลงทุน คบหา ติดต่อค้าขายกับเรา
ประเทศไหนๆ ก็ไม่เกรงใจ จากความหวังในอดีต “เสือตัวที่ 5 ของเอเชีย” วันนี้จะเป็นแค่ “เสือตัวที่ 5 ของอาเซียน” ซึ่งมีเพียง 10 ประเทศยังเป็นไม่ได้เลย รั้งท้ายจนเกือบจะโหล่อยู่แล้ว
อย่าว่าแต่จะเป็น “เสือ” วันนี้แค่เผชิญหน้า “ฮุนเซน - กัมพูชา” ประเทศเล็กกว่าข้างๆ บ้าน ยังเจอเขาตบเช้าตบเย็น ฯลฯ สภาพไม่ต่างอะไรจาก “แมวป่วย”
3.การเมืองและบ้านเมืองมันจะเดินหน้าไปได้อย่างไร ในเมื่อทุกรัฐบาลที่เข้ามาล้วนทำงานไม่ได้ โดยเฉพาะรัฐบาลเลือกตั้ง รัฐบาลพลเรือน มีแต่รัฐบาลจากการรัฐประหาร หรืออำนาจพิเศษเท่านั้นที่อยู่ได้นาน
รัฐบาลพลเรือนที่ชนะเลือกตั้งเข้ามา โดนสอยด้วยนิติสงครามทุกครั้ง นับเฉพาะรัฐบาลชินวัตร ตัวคุณอุ๊งอิ๊ง คือผู้นำคนที่ 6 ที่กำลังจะโดน ส่วน 5 คนแรกโดนสอยไปหมดแล้ว
คุณทักษิณ - โดนปฏิวัติ และนิติสงครามจากคดียุบพรรค
คุณสมัคร - นิติสงคราม คดีทำกับข้าว (แต่ศาลรับจ้างสอนหนังสือ เป็นที่ปรึกษา ไม่เป็นไร)
คุณสมชาย - นิติสงคราม โดนยุบพรรคจากโทษซื้อเสียงเพียงคนเดียว ไปหมดทั้งพรรค รวมนายกฯด้วย
คุณยิ่งลักษณ์ - นิติสงคราม ขนาดยุบสภาแล้ว เป็นนายกฯรักษาการ ยังตามไปสอยคดีย้ายเลขาฯสมช. จนไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่แม้แต่ “รักษาการ” และเกิดคำถามว่าเป็นผู้นำประเทศนี้ ย้ายข้าราชการก็ไม่ได้หรือ
คุณเศรษฐา - นิติสงคราม เพราะตั้งคนเคยติดคุกเป็นรัฐมนตรี สรุปว่าทำผิดครั้งหนึ่งในบ้านเมืองนี้ เป็นตราบาปในทางการเมืองไปทั้งชาติ?
แต่พอย้อนไปดู พล.อ.ประยุทธ์ ช่วงเป็นรัฐบาล ทั้งตอนเป็นหัวหน้า คสช. เป็นนายกฯ จากการรัฐประหาร และเป็นนายกฯ หลังการเลือกตั้งปี 62 โดนร้องศาลรัฐธรรมนูญอย่างน้อย 6 ครั้ง รอดทุกครั้ง ไม่ระคายผิว ขนาดคำร้องดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีแล้วหรือยัง ใครๆ นับนิ้วก็บอกว่าครบแล้วกันทั้งประเทศ (คนมี 2 มือ มีนิ้วพอนับได้ทุกคน ไม่ต้องบวกเลขในใจ) แต่ศาลนับได้แค่ 6 ปี ยังไม่ครบ อยู่ต่อได้!
คดีฮั้ว สว. และยุบพรรคภูมิใจไทย มีคำร้องตั้งแต่เดือน ต.ค.67 จนถึงปัจจุบัน อย่างน้อย 6 คำร้อง ศาลรัฐธรรมนูญยกทุกคำร้องอย่างไม่น่าเชื่อ แต่คนไทยทั้งประเทศเชื่อกันหมดจากหลักฐานที่เห็นตำตาว่า เลือก สว.มีฮั้ว และไม่ใช่แค่สีน้ำเงิน แต่ฮั้วแทบทุกสี ป่านนี้ใกล้จะครบปีแล้วยังทำอะไรไม่ได้
นี่มันอาถรรพ์เลข 6 หรืออย่างไร?
4.พรรคคนรุ่นใหม่ คิดใหม่ มีความรู้ความสามารถใหม่ๆ และวิธีการทำงานใหม่ๆ แต่ไม่โดนใจท่านๆ คนรุ่นเก่าบางกลุ่ม ชนะเลือกตั้ง 1 ครั้ง โดนยุบไปแล้ว 2 ครั้ง
แกนนำซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นคนมีการศึกษาดี น่าให้ลองทำงานดูบ้าง แต่โดนตัดสิทธิ์ไปแล้วเกือบหมดพรรค
เลือกตั้งรอบหน้าหาแคนดิเดตนายกฯค่อนข้างยาก เพราะสมาชิกที่เหลืออายุยังไม่ถึง
แม้แต่ร่วมรัฐบาลตอนนี้ก็ยังลำบาก เพราะ สส.และแกนนำพรรคที่เหลือเกือบทั้งหมดอายุยังไม่ครบเกณฑ์เป็นรัฐมนตรีได้ ส่วนคนที่ครบ ก็รอถูก ป.ป.ช.เชือด (คดีแก้ 112)
5.ประเทศนี้จะทำอะไรต้องถามศาลและองค์กรอิสระก่อน แม้แต่พรรคที่ชนะเลือกตั้งมา ประชาชนชื่นชอบ จะเป็นรัฐบาลได้หรือไม่ เป็นได้กี่วัน ก็ต้องให้ศาลอนุญาต สรุปแล้วบ้านเมืองนี้ อำนาจที่แท้จริงอยู่ที่ใคร
ระบอบการปกครอง หรือรัฐธรรมนูญของเรา คงเรียกว่าประชาธิปไตยไม่ได้ เพราะหลักการสูงสุดไม่มีอยู่จริง คือ เป็นการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงมันเห็นทนโท่ว่าไม่ได้เป็นแบบนั้น อย่างน้อยอำนาจก็ไม่ได้เป็น “ของประชาชน” จริงๆ
ประชาชนอยากเลือก และลองให้รัฐบาลที่เลือกมาได้ลองบริหารประเทศดูว่ามันจะฉิบหายขนาดไหน เพราะที่ผ่านมาพวกท่านๆ ก็ทำฉิบหายกันมามากแล้วจากรัฐบาลหรือผู้ปกครองที่พวกท่านจัดมาให้ ทำไมพวกท่านถึงดูถูกพลังของประชาชน วันนี้พรรคเพื่อไทยนำกฎหมายเอนเทอร์เมนต์คอมเพล็กซ์เข้าสภาได้จริงหรือเปล่า นี่คือตัวอย่างของพลังทางสังคม ซึ่งพวกท่านควรเลิกปรามาส เลิกทำเป็นห่วงใย และเลิกคิดแทน
6.นโยบายที่พรรคการเมืองใช้หาเสียง ชนะเลือกตั้งมาท่วมท้น แต่พอจะนำมาใช้จริง กลับใช้ไม่ได้ โดนร้อง โดนนิติสงครามเล่นงาน เผลอๆ อาจถึงขั้น “ล้างบาง” จนนักการเมืองทั้งหมดถูกตัดสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ฝ่ายค้าน สส. สว. (คำร้องมาตรา 144)
7. มีประเทศไหนในโลกเขียนกฎหมายแบบนี้บ้าง
สส. หรือ ครม.โยกงบ จะโดนศาลสั่งพ้นจากตำแหน่งทั้งหมด อยู่รักษาการก็ยังไม่ได้ แถมตามไปตัดสิทธิ์ทางการเมืองอีก เหมือนต้องการล้างบาง ต้องการสุญญากาศ ต้องการให้มีอำนาจรัฐประหารแบบไม่ต้องใช้รถถัง
โกงเลือกตั้งแค่คนเดียว โดน กกต.จับได้ โดนยุบทั้งพรรค สมาชิกทั่วประเทศต้องรับผิดชอบด้วย แต่พรรคที่โกงทั้งพรรค โกงไปถึงเลือก สว. แต่ไม่ถูก กกต.จับ ไม่เป็นไร ตัวเลขซื้อเสียง กระสุนดินดำหลักพันล้าน หรือหลายพันล้าน ถูกนำมาพูดกันโจ๋งครึ่มเป็นเรื่องขำขัน ไม่มีใครว่าอะไร ลอยหน้าบริหารประเทศได้ต่อไป
หัวหน้าพรรคการเมืองถือหุ้นสื่อ ซึ่งเป็นแค่นิตยสาร ไม่ได้เกี่ยวข้องสร้างความนิยมทางการเมืองอะไรได้ หรือถือหุ้นสถานีโทรทัศน์สัดส่วนเล็กน้อยจนไม่สามารถกำหนดทิศทางข่าว หรือครอบงำได้ ต้องพ้นจากตำแหน่ง แต่บางคน บางพรรค ใช้นอมินีเป็นเจ้าของสื่อใหญ่ หรือแทรกแซงสื่อด้วยวิธีอื่นมหาศาล กลับไม่เป็นไร กฎหมายเอื้อมไม่ถึง เพราะท่านตีความตามตัวอักษรเท่านั้น
8.กฎหมายประเทศไหนบ้างที่เขียนให้อำนาจศาลตีความและประหารชีวิตทางการเมืองจากเรื่องที่เป็นนามธรรม เช่น ความดี จริยธรรม หรือความถูกต้องชอบธรรม อุดมการณ์รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
เรื่องแบบนี้มันมีมาตรวัดที่เป็นมาตรฐานเดียวกันด้วยหรือ
การเขียนกฎหมายแบบนี้ เท่ากับการเปิดช่องให้ตีความ และเลือกใช้เพื่อเล่นงานศัตรูทางการเมืองโดยอ้างกฎหมายใช่หรือไม่
9.บรรดาพรรคการเมืองที่เข้ามามีอำนาจ หรือรอเข้ามามีอำนาจ ช่วยทำงานทำการ ทำนโยบายเพื่อประชาชนจริงๆ บ้างได้ไหม อย่าทำอะไรให้มันเป็นเงื่อนไขไปเข้าทาง ติดกับดักที่บรรดาท่านๆ เขาวางรอเอาไว้
รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเว้นว่างตำแหน่ง รมว.กลาโหม ไว้ทำไม ไม่เข้าใจ ไม่อายกัมพูชาหรือ ไม่ต้องเร่งรีบให้น้ำหนัก ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความมั่นคงชายแดน ทั้งชายแดนเขมร ชายแดนใต้หรอกหรือ
ตั้งรัฐมนตรีเข้ามาทำงาน มีแต่ชาวบ้านส่ายหน้า มีแต่ตัวแทนบ้านใหญ่ ผู้มีอิทธิพลสีเทา ถูกติฉินนินทาในเรื่องลบๆ หลายคนก็มีคดีติดตัว จนน่าคิดว่าหาคนดีกว่านี้ไม่มีแล้วหรือ
คุณทักษิณกลับประเทศมาได้ ทำไมไม่อยู่เงียบๆ เลี้ยงหลานตามที่ประกาศไว้ หรือถ้าจะมีบทบาทในทางการเมืองก็ไปแอบๆ ทำบ้างได้ไหม ทำไมต้องสร้างเงื่อนไขสุ่มเสี่ยงให้เกิดความวุ่นวาย
คุณแพทองธารทำผิดพลาดเรื่องการพูดโทรศัพท์ด้วยเนื้อหาไม่เหมาะสมกับฮุนเซนขนาดนี้ ไม่น่าจะมีทางอื่น นอกจากลาออกแสดงความรับผิดชอบ ทำไมไม่ช่วยทำ เพื่อสร้างบรรทัดฐานการเมือง และบ้านเมืองมีความหวัง ประชาชนเชื่อมั่นนักการเมือง และประเทศเดินต่อไปได้
พรรคคนรุ่นใหม่ก็สร้างเงื่อนไขน้อยๆ หน่อยได้ไหม อะไรละวางได้ ปล่อยไปก่อนได้ รอเวลาได้ ก็ช่วยทำหน่อย แล้วใช้ความสามารถ ความตั้งใจดีอย่างอื่นที่มีอีกเยอะ เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาประเทศ ดูแลพี่น้องประชาชนก่อนได้หรือเปล่า
10.นักการเมืองประเภทบริสุทธิ์ สะอาด ดีเลิศ ประเสริฐ ถือศีล กินเจ ไม่เคยโกหก ไม่เคยแปดเปื้อน ไม่เคยผิดพลาดอะไรเลย เป็นอัศวินม้าขาว เกิดมาเพื่อกอบกู้บ้านเมือง มันมีอยู่จริงๆ หรือ
หรือว่าเราต้องทำสังคมเรา ประชาชนของเราให้เข้มแข็ง พร้อมรับมือ พร้อมตรวจสอบ พร้อมกำกับให้นักการเมืองทำเพื่อประชาชนบ้าง ไม่มากก็น้อย
จะได้ไม่ต้องมี “ผู้กำกับการแสดง” หรือ “ผู้กำกับการเมือง” มาเขียนบท กำหนดทิศทาง สร้างวงจรอุบาทว์ แพทเทิร์นซ้ำๆ ซากๆ ทำประเทศไม่ก้าวไปไหน กลายเป็น“ประเทศห้ามพัฒนา” เหมือนอย่างทุกวันนี้!







