‘กองทัพ’ค้ำยันอธิปไตย การเมืองขึงพืด‘แพทองธาร’

‘กองทัพ’ค้ำยันอธิปไตย  การเมืองขึงพืด‘แพทองธาร’

“กองทัพ”มีจุดยืนชัดเจน คือต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตย ส่วนเรื่องการเมืองให้เป็นไปตามวิถีในระบบประชาธิปไตย “ประชาชน” เพราะจะเป็นผู้ชี้ชะตา“นายกฯแพทองธาร”เอง

KEY

POINTS

  • สัญญาณ พรรคร่วมรัฐบาล แม้ปัจจุบันจะมีเพียง “ภูมิใจไทย”ประกาศถอนตัว ขณะที่พรรคร่วมอื่นๆ แสดงจุดยืนในนามพรรค และส่วนตัว 
  • ผู้นำฝ่ายค้าน เรียกร้อง นายกฯคืนอำนาจปนะชาชนลาออก-ยุบสภา
  • คนส่วนหนึ่งรับไม่ได้ เหตุเนื้อหาปรากฎในคลิป เสมือน “ผู้นำไทย”สยบยอม เป็นลูกไล่“ผู้นำกัมพูชา”ไม่ใช่วิสัยการเจรจาที่ดี
  •  

การเมืองไทยร้อนฉ่า ปมคลิป “ผู้นำไทย”เจรจา “ฮุน เซน” เรื่องพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา สั่นสะเทือนเก้าอี้นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการ “ลาออก-ยุบสภา

คนส่วนหนึ่งรับไม่ได้ เหตุเนื้อหาปรากฎในคลิป เสมือน “ผู้นำไทย”สยบยอม เป็นลูกไล่ “ผู้นำกัมพูชา” ไม่ใช่วิสัยการเจรจาที่ดี ทั้งที่ไพ่ในมือของไทย หากเล่นเกมกดดัน ย่อมสร้างแต้มต่อ

ยิ่งตอกย้ำข้อครหาความสัมพันธ์สองตระกูล “ชินวัตร-ฮุน เซน” ส่งผลต่อการแก้ไขปัญหาชายแดน ซึ่งมีอธิปไตยชาติเป็นเดิมพันติดขัดอย่างที่ไม่ควรจะเป็น นำมาซึ่งความไม่ไว้วางใจ “แพทองธาร”

จนเริ่มเห็นสัญญาณ พรรคร่วมรัฐบาล แม้ปัจจุบันจะมีเพียง “ภูมิใจไทย”ประกาศถอนตัว ขณะที่พรรคร่วมอื่นๆ ยังสงวนท่าที แต่มีการแสดงจุดยืนทั้งในนามพรรค และในนามส่วนตัว 

อาทิ พรรครวมไทยสร้างชาติ แสดงจุดยืน ขอธำรงและพิทักษ์ อำนาจอธิปไตย เกียรติภูมิ ผลประโยชน์ของชาติและประชาชน

กัญจนา ศิลปอาชา” ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา โพสต์ยืนยัน ชทพ. รักศักดิ์ศรีชาติ ไม่หนุนสิ่งไม่ดีต่อประเทศ และเชื่อมั่นว่า พรรค และหัวหน้าพรรคจะตัดสินใจที่ชัดเจน ในการไม่สนับสนุนการกระทำใดที่ไม่ดีต่อชาติบ้านเมือง ทำในสิ่งที่ควรทำ

ฟากผู้นำฝ่ายค้าน “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรคประชาชน เรียกร้อง นายกฯ คืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการยุบสภา จัดเลือกตั้งใหม่ พร้อมเสนอให้พรรคร่วมถอนตัวจากรัฐบาล

ตลอดจนถึงปฏิบัติการล่ารายชื่อของกลุ่ม สว.เพื่อถอดถอนนายกฯออกจากตำแหน่ง เพราะเข้าข่ายความผิด ต่อรัฐธรรมนูญ หลายมาตรา รวมถึงความผิดจริยธรรมร้ายแรง

นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวกลุ่ม คปท.ปักหลักใกล้ทำเนียบรัฐบาล ขับไล่แพทองธาร ออกจากตำแหน่งนายกฯ รวมถึง“จตุพร พรหมพันธุ์” ประกาศชุมนุมอนุสาวรีย์ชัยฯ

ขณะที่“กองทัพ” ถูกจับตาความเคลื่อนไหว หลังจากหน่วยทหารทั่วประเทศ พร้อมใจแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ให้กำลังใจ “พลโทบุญสิน พาดกลาง” แม่ทัพภาคที่ 2 ท่ามกลางข้อเรียกร้อง“รัฐประหาร”รัฐบาลที่ไม่แข็งแกร่งพอจะสู้ศึกกัมพูชา รักษาแผ่นดินไทยไว้ได้

ส่วนฝ่ายต่อต้านกองทัพ หวาดระแวงทหารจะฉวยจังหวะสถานการณ์ความขัดแย้งกับกัมพูชา สร้างคะแนนนิยม ปูทางไปสู่การรัฐประหารในอนาคตหรือไม่

ท่ามกลางติดแฮชแท็กในโซเชียลมีเดีย “ไม่เอารัฐประหาร” ส่งผลให้ชาวเน็ตเกือบ 1 แสนคน แห่คอมเมนต์เห็นด้วย พร้อมเรียกร้องให้ นายกฯ ยุบสภา หรือลาออก สะท้อนพลังเสียงประชาชนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง

ทว่า ก่อนสถานการณ์จะกลายเป็นไฟลามทุ่ง ซ้ำเติมวิฤติการเมืองจากปมร้อนไทย-กัมพูชา สร้างความแตกแยกหมู่คนไทย สั่นคลอนความมั่นคงภายในประเทศ ดังเป้าประสงค์ “ฮุน เซน” 

ผบ.ทบ.ได้ประกาศจุดยืน แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในประเทศที่เกิดขึ้น โดยขอให้คนไทยเชื่อมั่นในกองทัพบก ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างสุดความสามารถ ภายใต้กลไกที่มีอยู่

“หากพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้คือ “คนไทยต้องสามัคคี” ร่วมกันปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดี โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ” ผบ.ทบ.กล่าวย้ำ

จึงปรากฎภาพ พล.อ.พนา ผู้กุมกำลังรัฐประหาร มายืนแนวหลังเป็นครั้งที่ 2 ให้ “นายกฯแพทองธาร” แถลงขออภัยประชาชน ตามด้วย พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ส่วน ผบ.ทร.และ ผบ.ทอ. ติดภารกิจต่างประเทศ จึงส่งผู้แทน

มีรายงานว่า หลังคลิปเสียงสนทนาถูกแชร์ในโซเชียล นายกฯแพทองธาร ไม่ได้โทรศัพท์ชี้แจง ปรับความเข้าใจกับ “มทภ.2” เพียงคนเดียว แต่ได้โทรศัพท์ไปหา ผบ.ทบ.ด้วย เพื่ออธิบายว่า เจตนาที่แท้จริง ไม่ได้หมายความตามเนื้อหาที่ปรากฎในคลิปเสียง

แม้เนื้อหาระหว่าง นายกฯแพทองธารกับ ผบ.ทบ. จะไม่ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่สะท้อนผ่านท่าที และคำพูด “มทภ.2” ซึ่งเปรียบเป็นตัวแทนกองทัพและ ผบ.ทบ.ว่า “ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ ” โดยนายกฯ ได้ขอบคุณที่เข้าใจ

ถือว่าคุยแล้ว เข้าใจแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไร ผมทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของพี่น้องประชาชน"

ทั้งนี้ “พล.อ.พนา” มีท่าทีชัดเจนตั้งแต่รับตำแหน่งว่า ตลอด 3 ปี ในเก้าอี้ ผบ.ทบ.จะเป็นทหารอาชีพ มุ่งเน้นภารกิจในหน้าที่ตามกรอบรัฐธรรมนูญ นำพากองทัพบกสู่ความเชื่อมั่นของประชาชน

ดังนั้น“กองทัพ”มีจุดยืนชัดเจน คือ ต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตย ส่วนเรื่องการเมืองให้เป็นไปตามวิถีในระบบประชาธิปไตย “ประชาชน” เพราะจะเป็นผู้ชี้ชะตา“นายกฯแพทองธาร”เอง