สแกน‘กองทัพกัมพูชา’ ‘จีบีซี’ช่องทางระบาย

สแกน‘กองทัพกัมพูชา’  ‘จีบีซี’ช่องทางระบาย

แม้ระดับนโนบายคาดหวัง การประชุมGBC อาจทำให้ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม ผ่อนคลายลง แต่ระดับฝ่ายปฏิบัติ กลับพบข้อมูลทหารทั้ง 2 ฝ่าย มีการเตรียมกำลัง

KEY

POINTS

  • เวทีถกปัญหาชายแดน จีบีซี ฝ่ายไทย ผบ.เหล่าทัพมาไม่ครบ แต่ฝ่ายกัมพูชายกมาเต็มรูปแบบ แต่ได้ข้อสรุปให้กำลัง2ฝ่ายลดการเผชิญหน้า
  • ปัจุบัน พบ ทหารกัมพูชาเพิ่มกำลังมาประชิดชายแดนไทย บริเวณปราสาทตาเมือนธม ฝ่ายไทยระดมกำลังทหารราบ ม้า ปืน รบพิเศษ เข้าพื้นที่
  • สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา การรบอาจเปิดฉากได้ทุกเมื่อ เหตุเพราะการจุดกระแสชาตินิยม ปั่นกระแสรักชาติ ซึ่งเป็นการเมืองภายในประเทศของแต่ละฝ่าย

คณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา (GBC) มีโครงสร้างแตกต่างกับจีบีซีประเทศอื่นที่ติดกับชายแดนไทย เหตุมี “ผบ.เหล่าทัพ” นั่งเป็นกรรมการ

แม้การประชุมจีบีซี เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 3 ผบ.เหล่าทัพ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.พันภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. จะติดภารกิจ โดยส่งผู้แทนมาร่วมคณะของ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด

แต่ฟากกัมพูชา “เตีย เซ็ยฮา” รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ก็ขนมาครบทีม พล.อ.วงศ์ ปิเซน ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.เมียส ซปเฮีย รองผบ.ทหารสูงสุด และผบ.ทบ. พล.อ.อ.เซิง ซ็อมนาง รองผบ.ทหารสูงสุด และผบ.ทอ. และพล.ร.อ.เตีย วินห์ ผบ.ทร.

ทั้งนี้ ผบ.เหล่าทัพ ฝ่ายไทยไม่ได้มาร่วม ไม่ได้เป็นการส่งนัยใดๆ เนื่องจากการประชุมจีบีซี เป็นเรื่องระดับนโยบายของ รมว.กลาโหม ทั้งสองประเทศ

อีกทั้งเลขาธิการชายแดน ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ได้กำหนดหัวข้อการประชุม 3 ประเด็น คือ ปัญหาชายแดน แก๊งคอลเซนเตอร์ และการปักปันเขตแดน ซึ่งได้ข้อตกลงเรียบร้อยหมดแล้ว แค่เพียงนำเรียนที่ประชุมรับทราบ และให้ รมว.กลาโหม 2 ประเทศลงนาม

นอกจากนี้ ยังมีการประชุมระหว่าง ภูมิธรรม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม กับ เตีย เซ็ยฮา และพล.อ.ทรงวิทย์ กับ พล.อ.วงศ์ ปิเซน เพื่อหารือ เรื่องลดความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

"ปัญหาบริเวณปราสาทตาเมือนธม จะลดการเผชิญหน้า ทหารทั้งสองฝ่ายถอยกลับไปอยู่จุดเดิม ให้ใช้ความอดทนอดกลั้น ซึ่งในระดับนโยบาย คือรัฐบาล ได้มีการพูดคุยกันแล้ว รวมถึงระดับของผู้บัญชาการทหารสูงสุดของ 2 ประเทศ รวมถึงผู้บัญชาการทหารบกทั้ง 2 ฝ่าย และให้ไปประสานงานกับแม่ทัพนายกองในพื้นที่ พร้อมกำชับกำลังพลของตัวเองให้ถอยห่าง และยึดมั่นในหลักการเดิม คือให้กลับไปอยู่ที่เดิมทั้งสองฝ่าย ทหารไทยก็อยู่ในจุดเดิมที่เคยอยู่ แต่ให้ทั้งสองฝ่ายแยกออกมาก่อน แล้วให้ไปพูดคุยในเรื่องรายละเอียด หากมีการขยับ ให้แจ้งกัน ให้รอระดับปฏิบัติคุยกันก่อน ขอย้ำว่า จุดเดิมที่เราอยู่ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการปะทะกัน" ภูมิธรรม กล่าว

แม้ฝ่ายระดับนโนบายคาดหวังว่า การประชุมจีบีซี อาจทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เขตแดนไทยผ่อนคลายลง แต่ระดับฝ่ายปฏิบัติ กลับพบข้อมูลทหารทั้ง 2 ฝ่าย มีการเตรียมกำลัง

โดยฝ่ายทหารกัมพูชาเพิ่มกำลังมาประชิดชายแดนไทย บริเวณปราสาทตาเมือนธม ฝ่ายไทยระดมกำลังทหารราบ ม้า ปืน รบพิเศษ เข้าพื้นที่ แต่รักษาระยะห่าง เพื่อไม่ให้เกิดการวางกำลังเผชิญหน้า แต่ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ 

หลังมีการประเมินการรบว่า อาจเปิดฉากได้ทุกเมื่อ เหตุเพราะการจุดกระแสชาตินิยม ปั่นกระแสรักชาติ ซึ่งเป็นการเมืองภายในประเทศของแต่ละฝ่าย

นอกจากนี้ ยังมีประเด็น “ลองของ” เพราะช่วง 10 ปีให้หลัง กองทัพกัมพูชาได้พัฒนา ทั้งเพิ่มกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ๆ ที่ได้รับจากประเทศมหาอำนาจจำนวนมาก จนเกิดความมั่นใจว่า มีศักยภาพมากพอจะต่อกรกับชาติใดก็ได้ เช่น 

  • ปืนใหญ่อัตตาจร SH-1 ระยะยิง 30-53 กิโลเมตร และสามารถยิงกระสุนนำวิถีด้วยเลเซอร์ได้ 
  • จรวดหลายลำกล้อง Type 90B/RM-70/BM-21 มีระยะยิง 20-40 กิโลเมตร 
  • จรวดหลายลำกล้อง PHL-03 ระยะยิง 70-130 กิโลเมตร 
  • จรวดต่อสู้อากาศยาน KS-1C ระยะยิง 70 กิโลเมตร

ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบกำลังรบไทยกับกัมพูชา วัดจากการสู้รบเมื่อปี 2554 พบว่าในขณะนั้นกำลังรบไทย 1 กัมพูชา 0.3 แต่ปัจจุบันกำลังรบไทย 1 กัมพูชา 0.8-0.9

ส่วนอาวุธสำรอง หมายความว่า จะสามารถรบได้กี่วัน ต้องมีกระสุนเท่าไหร่ โดยการสู้รบปี 2554 ทหารไทยใช้เวลารบกับทหารกัมพูชา 10 วัน จนล่าถอย แต่ปัจจุบันทหารไทยอาจต้องใช้เวลา 20 วัน และต้องระดมกำลังรบเป็น 3 เท่าของปี 2554

ขณะที่ยุทธศาสตร์กองทัพกัมพูชายังใช้รูปแบบเดิม คือ สร้างสิ่งปลูกสร้าง หมู่บ้าน ถนน มาเป็นกันชน ส่งผลให้พื้นที่ชายแดนฝั่งกัมพูชาเปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่อเทียบปี 2554

เช่นเดียวกับกองทัพไทย ยึดยุทธศาสตร์ต่อสู้เบ็ดเสร็จตามแนวชายแดนตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีป่า ภูเขา อ่างเก็บน้ำเป็นกันชน สภาพชายแดนจึงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก

เวทีเจบีซี ภาษาทหารเรียกว่า“รูระบาย” ช่องทางสื่อสารเมื่อเกิดความตึงเครียดตามแนวชายแดนของระดับนโยบาย แต่กองทัพไม่มีหน้าที่เจรจา

ดังนั้น จึงไม่มีนโยบายการเมืองใดๆ มากดดัน แม่ทัพ ผบ.พล ผู้การกรม ได้ นอกจากทำตามหน้าที่ปกป้องอธิปไตยได้ ตามรัฐธรรมนูญที่ระบุไว้ เช่นเดียวกับกองทัพกัมพูชา ก็ไม่ต่างกัน