ภูมิใจไทย-ปชป.-กล้าธรรม ชิง'เมืองคอน' ศึกวัดบารมี

ภูมิใจไทย-ปชป.-กล้าธรรม    ชิง'เมืองคอน' ศึกวัดบารมี

ศึกเลือกตั้งซ่อมเมืองคอน ใครจะแพ้หรือชนะ อาจต้องวัดกันในช่วงโค้งสุดท้าย ใครมือหนัก เกทับบลัฟแหลก หรือยิงซ้ำเข้าเป้า เก้าอี้สส.มีโอกาสสูงจะตกเป็นของคนนั้น

KEY

POINTS

  •  สภากาแฟในพื้นที่ จัดเรตให้ “สจ.บิ๊กโอ” ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ เบอร์ 5 พรรคกล้าธรรม เป็นเต็งหนึ่ง
  •  ไสว เลื่องสีนิล เบอร์ 1 พรรคภูมิใจไทย เต็งสอง ส่วน ณัฐกิตต์ อยู่ด้วง เบอร์ 3 พรรคประชาชน เต็งสาม และชินวรณ์ บุณยเกียรติ เบอร์ 2 พรรค ปชป. เต็งสี่
  • กลยุทธ์ของชินวรณ์ และประชาธิปัตย์ ที่ประกาศไม่ซื้อเสียงหวังฝ่าดงกระสุน การหาเสียงรอบนี้

เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม นครศรีธรรมราช เขต 8 ก่อนเปิดคูหาเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 27 เม.ย.2568 แทน “มุกดาวรรณ เลื่องสีนิล” สส.แชมป์เก่า จากภูมิใจไทย ที่โดน กกต. แจกใบแดง ก่อนศาลฎีกาพิพากษาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ฐานทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง สืบเนื่องจากมีส่วนรู้เห็นให้เงินจูงใจผู้มีสิทธิลงคะแนน

 ไสว เสภากาแฟในพื้นที่ จัดเรตให้ “สจ.บิ๊กโอ” ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ เบอร์ 5 พรรคกล้าธรรม เป็นเต็งหนึ่ง ไสว เลื่องสีนิล เบอร์ 1 พรรคภูมิใจไทย เต็งสอง ส่วน ณัฐกิตต์ อยู่ด้วง เบอร์ 3 พรรคประชาชน เต็งสาม และชินวรณ์ บุณยเกียรติ เบอร์ 2 พรรค ปชป. เต็งสี่

โดยพื้นที่ เขต 8 ประกอบด้วย 4 อำเภอ ได้แก่ อ.นาบอน อ.ช้างกลาง อ.ฉวาง และอ.พิปูน ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพทำการเกษตร ลักษณะภูมิประเทศของพื้นที่ จึงค่อนข้างเอื้อต่อระบบหัวคะแนน และแกนจัดตั้ง ในการเดินเกมกระจายกระสุน

เมื่อมุกดาวรรณ เจอพิษใบแดง ค่ายน้ำเงินจึงส่ง "ไสว เลื่องสีนิล" สามีลงแทน โดยมีคู่แข่งจากพรรคร่วมฯ ต่างรุมแย่งชิงพื้นที่

“ครูไหว” ไสว เลื่องสีนิล ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ที่เปิดปราศรัยครบทุกอำเภอในเขต 8 เมื่อคืนวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา ค่ายสีน้ำเงินเปิดเวทีปราศรัยท่ามกลางสายฝนที่ อ.ฉวาง โดยมี ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ภราดร ปริศนานันทกุล สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง และณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ มาขึ้นเวทีหาเสียงด้วย

ที่ขาดไม่ได้คือ “น้ำ” วาริน ชิณวงศ์ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช เจ้าของแบรนด์การเมืองสีขาว ก็มาขึ้นปราศรัยทุกเวที

ถือได้ว่า แกนหลักสีน้ำเงิน รวมถึงนายกฯ อบจ.เมืองคอน ลุยหาเสียงช่วย“ไสว”อย่างเต็มที่ 

ส่วนคู่แข่งสำคัญ ที่ตีคู่สูสีกับครูไหว คือ สจ.บิ๊กโอ"ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ" อดีต สจ.ฉวาง พรรคกล้าธรรม 

 เวลานี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ปักหลักอยู่ในพื้นที่เขต 8 ทั้งเดินเคาะประตูบ้าน ขึ้นรถแห่ และเปิดเวทีปราศรัยด้วย

วันที่ 24 เม.ย. 2568 ธรรมนัส นำทีมขึ้นเวทีหาเสียงช่วย สจ.บิ๊กโอ ก้องเกียรติ ที่ อ.พิปูน ก่อนจะปิดท้ายการหาเสียงที่เวทีปราศรัยใหญ่ที่ อ.ช้างกลาง

ก้องเกียรติ นักการเมืองหน้าใหม่ใจนักเลง เจ้าของวลี “กล้าคิด กล้าทำ ทำเป็น ช่วยใครไม่เคยจำ ใครช่วยจำไม่ลืม” ถูกกล่าวขวัญมากที่สุด ในสมรภูมิเลือกซ่อมเมืองคอน เขต 8

ก้องเกียรติ กล่าวเปิดใจบนเวทีหาเสียงตอนหนึ่ง ว่าเมื่อปี 2566 กกต.ได้แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ผมก็เห็นว่า เขตนี้ว่าง ไม่มีใครลง จึงได้ลาออกจาก สจ. แล้วก็ไปเสนอกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตอนนั้น เขาบอกว่า ผมน่าจะยังลงสมัครไม่ได้ ยังเป็นเด็ก อายุยังน้อย วันนั้นก็เลยไม่ได้สมัคร

ความจริงแล้ว “ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป. ในฐานะพ่อตาของ สจ.บิ๊กโอ เป็นผู้จัดทีมผู้สมัคร สส.เขต 7 และเขต 8 

สำหรับเขต 8 ชินวรณ์ เลือกลูกสาว ปุณณ์สิริ บุณยเกียรติ ลงสนาม ซึ่งเป็นน้องสาวภรรยา สจ.บิ๊กโอ ส่วนชินวรณ์ ไปลงเขต 7 ก็สอบตกทั้งคู่ 

อนึ่ง ภรรยาของ สจ.บิ๊กโอคือ “กำนันชุ” ชุตินธร บุณยเกียรติ กำนัน ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง

พลันที่ กกต.แจกใบแดง สจ.บิ๊กโอ จึงไปเสนอตัวกับพรรค ปชป. แต่ติดขัดตรงที่ ชินวรณ์ ผู้เป็นพ่อตา อยากลงสมัครแก้มือ เจ้าตัวเลยย้ายไปหาพรรคกล้าธรรม โดยมี“กำนันศักดิ์” พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว อดีตนายก อบจ.สุราษฎ์ธานี เป็นผู้ชักนำไปหา ร.อ.ธรรมนัส จึงสมหวังได้ลงสมัคร สส.

ด้าน ประชาธิปัตย์ ที่ครองพื้นที่นครศรีฯ มายาวนานหลายทศวรรษ โดยเฉพาะเขต 8 “ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” ผูกขาดเป็น สส.มา 9 สมัย แต่พลาดท่าในการเลือกตั้งปี 2566 เพราะตัดสินใจโยกตัวเองไปลงเขต 7 จนมุกดาวรรณ สร้างเซอร์ไพรส์ในเขตนี้สำเร็จ

ชินวรณ์ ลงสนามสู้เพื่อศักดิ์ศรี อดีต สส.นครศรีธรรมราช 9 สมัย และประกาศว่า “คนละอุดมการณ์กับลูกเขย” สจ.บิ๊กโอ 

ทุกเวทีปราศรัย ชินวรณ์จะพูดถึงยุทธศาสตร์ “ก้าวต่อไปเพื่อสังคม เพื่อประชาธิปไตยสุจริต เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของชาวนครศรีธรรมราช”

เย็นวันที่ 24 เม.ย.นี้ พรรค ปชป.เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ อ.ฉวาง โดยการนำของ ชวน หลีกภัย และจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรค

ก่อนหน้านั้น วันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา ชวน หลีกภัย บัญญัติ บรรทัดฐาน สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ “อดีตนายกฯต้อย” กนกพร เดชเดโช และพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช ก็มาขึ้นเวทีช่วยหาเสียง

ดูเหมือนว่า ชวน หลีกภัย ตั้งใจมาช่วยชินวรณ์ ตั้งแต่วันแรกๆ ซึ่งการอาสาของ “นายชวน” กระตุ้นให้ เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. ทุ่มทรัพยากรไปจัดเวทีปราศรัยใหญ่ในสัปดาห์สุดท้าย

กลยุทธ์ของชินวรณ์ และประชาธิปัตย์ ที่ประกาศไม่ซื้อเสียงหวังฝ่าดงกระสุน การหาเสียงรอบนี้ พรรคเก่าแก่งัดไม้ตายใช้นายหัวชวน หลีกภัย เดินสายปูพรมขอคะแนน

ป้ายหาเสียงของชินวรณ์ เน้นขึ้นรูปคู่นายหัว หวังตอกย้ำแบรนด์ที่คนใต้เคยนิยมอย่างขีดสุด และลีลาจูงใจชาวบ้านทำนองว่า ขอโอกาสคนดีมีที่ยืน ประกาศขายความดีต่อไป

โค้งสุดท้ายของการหาเสียง ชินวรณ์ ปลุกชาวบ้าน พร้อมเดิมพันจุดยืนระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล กับนโยบายเรือธงอย่างเอนเทอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ที่พ่วงกาสิโนเอาไว้ ว่า ถึงอย่างไรก็ไม่เอาแน่นอน เพราะเป็นหายนะ กลับมาทำลายอนาคตลูกหลานเรา

ที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์ เด้งเชือกกับนโยบายนี้ ภูมิใจไทย ที่โชว์จุดยืนกันไปคนละทาง เลขาฯพรรค ไชยชนก ชิดชอบ ลูกชายเนวิน ชิดชอบ ประกาศไม่มีวันเห็นด้วยกับกาสิโน แต่ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ย้ำนักย้ำหนา สนับสนุนนโยบายรัฐบาล ส่วนกล้าธรรม นั้นนับว่าเป็นเด็กดีของรัฐบาล นายกฯ ว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น

จะเห็นได้ว่า ชินวรณ์ เหมือนพยายามกำหนดเกม ลากเอาเรื่องร้อนในการเมืองใหญ่ อย่างกาสิโน พ่วงไปกับความเป็นคนดี เข้าสู้กับกระสุนดินดำในศึกนี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่า สนามเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ถูกจับตาค่อนข้างมากว่า เดิมพันของแต่ละพรรคร่วมฯ นั้นสูงลิบ เนื่องจากมีผลต่อการเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป 

ปัจจัยชี้ขาดสำคัญ ดูจะหนีไม่พ้นเรื่องกระสุน ไม่ใช่กระแส ขุมกำลังของหัวคะแนน หรือแกนฐานยิงในพื้นที่ มีส่วนอย่างมาก สามารถเป็นตัวชี้ขาดได้เลยทีเดียว

ว่ากันว่า ใครจะแพ้หรือชนะ อาจต้องวัดกันในช่วงโค้งสุดท้าย ใครมือหนัก เกทับบลัฟแหลก หรือยิงซ้ำเข้าเป้า เก้าอี้สส.มีโอกาสสูงจะตกเป็นของคนนั้น เพราะหลายพรรคตั้งความหวังไว้สูง ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม สังเวียนนี้ต่างต้องการปักธงยึดให้ได้