คืนร่าง'กาสิโน-คอมเพล็กซ์' ‘แก๊งค์คอลฯ’รอคัมแบ็ก

คืนร่าง'กาสิโน-คอมเพล็กซ์'  ‘แก๊งค์คอลฯ’รอคัมแบ็ก

นับตั้งแต่ "รัฐบาลไทย" เอาจริงเอาจริงกวาดล้าง "แก๊งคอลเซนเตอร์" โดยการบูรณาการทำงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน แม้สถานการณ์เบาบางลง แต่ไม่ได้ทำให้แก๊งคอลเซนเตอร์หมดไป

KEY

POINTS

  • การปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์และอาชญากรรมข้ามชาติชายแดนไทยติดประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ห้วงที่ 2 ของการประเมินผล (KPI)
  • ตัวเลขต่างชาติติดค้างในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา รอส่งตัวกลับประเทศต้นทางมีประมาณ 50,000 คน
  • ส่วนฝั่งปอยเกต ประเทศกัมพูชา ยังมีคนไทยเข้าร่วมกระบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ อยู่ระหว่างดำเนินการขั้นตอนกฎหมายกัมพูชา ส่งตัวกลับไทย
  • ทั้งฝั่งเมียนมาและฝั่งกัมพูชา ประสบปัญหามีการขนคนออกจากพื้นที่ ก็มีคนลักลอบกลับเข้าไปไม่ขาดสาย ผ่านช่องทางธรรมชาติเอื้ออำนวย

“ไม่จบ ไม่เลิก” ประกาศิต นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ในการเดินหน้าปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ชายแดนไทย เรื่องเร่งด่วนที่รวมอยู่ในปฏิบัติการป้องกันยาเสพติด Seal Stop Safe ดูไม่ใช่เรื่องง่าย

ปัจจุบันการดำเนินการเข้าสู่ห้วงที่ 2 ของการประเมินผล (KPI) ที่รัฐบาลกำหนดไว้ 3 ระยะ ได้แก่ ก.พ.-มี.ค.  เม.ย.-พ.ค. และ มิ.ย.-ก.ค. โดยจะเรียกประชุมประเมินผลภาพใหญ่อีกครั้ง เพื่อปรับแผน วางกรอบทำงานต่อไปในอนาคต

แน่นอนว่า มาตรการตัดไฟฟ้า น้ำมัน และอินเทอร์เน็ต ชายแดนไทยเมียนมาตลอดแนว ยังคงดำเนินการอยู่ จนส่งผลให้เมืองชเวโก๊กโก่ เคเคพาร์ค ที่ถูกมองว่าเป็นที่ตั้งแก๊งคอลเซนเตอร์ ตกอยู่ในสภาพผึ้งแตกรัง

โดยมีคณะกรรมการ ปชด. หรือคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่มี พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน บูรณาการขับเคลื่อนแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ-คอลเซนเตอร์ ชายแดนไทยติดประเทศเพื่อนบ้าน

ล่าสุด ตัวเลขชาวต่างชาติที่ตกเป็นเหยื่อและผู้ร่วมขบวนการถูกส่งกลับประเทศต้นทาง 8,200 คน ขึ้นทะเบียนรอส่งตัว 1,700 คน และมีตัวเลขยังไม่ได้มาขึ้นทะเบียน กว่า 50,000 คน

ส่วนสาเหตุความล่าช้า เนื่องจากประเทศต้นทางไม่ติดต่อประสานรับตัวคนของตัวเอง ประจวบเหมาะเหตุแผ่นดินไหวเมียนมา และการสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับชนกลุ่มน้อย เป็นปัจจัยแทรกซ้อนส่งผลการทำงานสะดุดลง

เมื่อ 13 เม.ย.เกิดจลาจลหวิดปะทะหลังชาวต่างชาติประมาณ 275 คน ก่อหวอดประท้วงและพยายามหลบหนีจากเขตควบคุมของกลุ่มกะเหรี่ยง DKBA พื้นที่ไท่ซาง 1 จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ข้ามมาฝั่ง อ.พบพระ จ.ตาก ของไทย

ส่งผลทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พบพระ ได้ตรึงกำลังแนวชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดน โดยใช้เวลาไม่นานควบคุมสถานการณ์เข้าสู่ภาวปกติ

ทว่า ในขณะที่ทางการไทยทำหน้าที่เป็นตัวกลางส่งชาวต่างชาติในเมียนมากลับคืนประเทศต้นทาง กลับพบคนต่างชาติลักลอบเข้าพื้นที่เป็นระยะ ส่งผลตัวเลขชาวต่างชาติไม่ลดลงเท่าที่ควรจะเป็น

แม้ พล.อ.ทรงวิทย์ เสนอให้กำหนด 5 อำเภอ จ.ตาก เป็นพื้นที่พิเศษ นักท่องเที่ยวต้องมีใบอนุญาตจากสถานทูตประเทศต้นสังกัดสามารถเข้าพื้นที่ได้ แต่ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯและรมว.กลาโหม ยังไม่ไฟเขียว หวั่นกระทบการค้าชายแดน

ฟากตรงข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มี 5 สถานที่บ่งชี้เข้าองค์ประกอบแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยมีฐานบัญชาการใหญ่ ตึก 25 ที่ อดีตนายกฯ “ทักษิณ ชินวัตร” เคยชี้เป้า และ 90% คนไทยโดนดูดเงินจากบัญชีฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา

ในขณะ “บิ๊กหวาน” พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานงานบูรณาการ กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติประเทศกัมพูชา

จากข้อมูลพบว่าคนไทยเข้าร่วม ขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ปอยเปต กว่า 5,000 คน อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายประเทศกัมพูชา เช่น การออกหมายค้น เตรียมส่งกลับประเทศไทย ขยายผลและดำเนินคดี

อีกทั้งฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ประสบปัญหาไม่ต่างจากฝั่งเมียนมา มีการส่งคนไทยกลับประเทศ ในขณะเดียวกันมีคนไทยลักลอบผ่านช่องทางธรรมชาติเข้าไปร่วมขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ไม่ขาดสาย

ต้องยอมรับว่า นับตั้งแต่รัฐบาลไทยเอาจริงเอาจริงกวาดล้างแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยการบูรณาการทำงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน แม้จะทำให้สถานการณ์เบาบางลง แต่ไม่ได้ทำให้แก๊งคอลเซนเตอร์หมดไป

เนื่องจาก ระบบสาธารณูปโภค สถานที่ อุปกรณ์และกำลังคนยังคงอยู่ เพียงแต่ปรับสภาพเป็น “เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” โครงการตั้งต้นก่อนจะกลายเป็นแหล่งแก๊งคอลเซนเตอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติ ในช่วงโควิดระบาด 

หวังลดแรงกดดันนานาประเทศ รวมถึงรัฐบาลไทย เพราะเป็นที่รับรู้กันว่า “แก๊งคอลเซนเตอร์” นำมาซึ่งผลประโยชน์มหาศาลตามแนวชายแดนไทย

ดังนั้นมาตรการรัฐบาลไทย แค่ทำให้การขับเคลื่อนแก๊งคอลเซนเตอร์หยุดชะงัก เมื่อผ่อนคลายก็พร้อมฟื้นตัวกลับมา