แลนด์สไลด์ร้อยเอ็ด “อุ๊งอิ๊ง” พ่ายศึกนี้ แพ้ทั้งกระดาน

แลนด์สไลด์ร้อยเอ็ด “อุ๊งอิ๊ง” พ่ายศึกนี้ แพ้ทั้งกระดาน

คอลัมน์ มังกรซ่อนพยัคฆ์ โดย ประชา บูรพาวิถี / ศึกนี้มีเดิมพันสูง “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” ลุยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ปลุกแลนด์สไลด์ ปูทางสู่แผนการยึดอีสานเบ็ดเสร็จสมัยหน้า

ทำไม “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” ต้องมาร้อยเอ็ด เพราะศึกท้องถิ่นเที่ยวนี้ เป็นสงครามตัวแทน 3 ขั้วการเมืองระดับชาติ ถ้าเพื่อไทยแพ้ ก็พ่ายทั้งกระดาน

คำว่า “โรคร้อยเอ็ด” ที่โด่งดังในอดีต หมายถึงการเมืองแบบธนาธิปไตย แต่ในบริบทการเมือง พ.ศ.ปัจจุบัน โรคร้อยเอ็ดคือ สัญลักษณ์แลนด์สไลด์ หากพรรคเพื่อไทยสามารถกุมชัยชนะในการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ จะเป็นหมุดหมายแรกของการทะยานสู่แลนด์สไลด์ทั้งประเทศ 

ก่อนเดินทางไป จ.ร้อยเอ็ด ในวันอาทิตย์ที่ 18 ก.ย.2565 อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้จัดทำคลิปฝากถึงแฟนคลับเพื่อไทยว่า

“..เราเคยเกิดแลนด์สไลด์ที่ จ.กาฬสินธุ์ มันต้องเกิดขึ้นที่ จ.ร้อยเอ็ด จริงไหมคะ”

อุ๊งอิ๊งขอให้ชาวร้อยเอ็ด สนับสนุน เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ ผู้สมัครนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ให้ได้รับชัยชนะเหมือนไข่มุก-เฉลิมขวัญ หล่อตระกูล ว่าที่นายก อบจ.กาฬสินธุ์

แลนด์สไลด์ร้อยเอ็ด “อุ๊งอิ๊ง” พ่ายศึกนี้ แพ้ทั้งกระดาน

“วันนี้แลนด์สไลด์ร้อยเอ็ด ทำให้ดูกันหน่อยได้ไหมคะพี่น้อง” อุ๊งอิ๊งกล่าวย้ำในคลิปตอนท้าย ซึ่งในวันที่ 18 ก.ย.นี้ อุ๊งอิ๊งมีคิวลงพื้นที่หาเสียง 4 อำเภอคือ อ.โพนทอง ,อ.เสลภูมิ ,อ.สุวรรณภูมิ และอ.เมืองร้อยเอ็ด 

เมื่อครั้งการเลือกตั้งนายก อบจ.กาฬสินธุ์ อุ๊งอิ๊ง ไม่ได้เดินทางไปช่วยหาเสียงให้ไข่มุก-เฉลิมขวัญ เพียงแต่ส่งณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไปแทน แต่ที่สนามร้อยเอ็ด อุ๊งอิ๊งไม่มาหาเสียงไม่ได้ เพราะเพื่อไทยเจอคู่แข่งที่มีชื่อชั้น แถมมีท่อน้ำเลี้ยงจากขั้วการเมืองระดับชาติ

การเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด จะมีการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ย. 2565 มีผู้สมัครทั้งหมด 4 คน แต่ที่เป็นตัวเต็งเพียง 3 คนคือ รัชนี พลซื่อ ผู้สมัครหมายเลข 1 , เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคเพื่อไทย และ จุรีพร สินธุไพร ผู้สมัครหมายเลข 4  

 

ศึกสามเส้า

ภาพรวมการเลือกตั้ง ส.ส.ร้อยเอ็ด ปี 2562 พรรคเพื่อไทย คว้าเก้าอี้ ส.ส.ไป 6 ที่นั่งจากทั้งหมด 7 ที่นั่ง โดยพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ 1 ที่นั่ง 

แลนด์สไลด์ร้อยเอ็ด “อุ๊งอิ๊ง” พ่ายศึกนี้ แพ้ทั้งกระดาน

ส่วนการเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด เมื่อปลายปี 2563 เอกภาพ พลซื่อ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด ชนะมังกร ยนต์ตระกูล อดีตนายก อบจ.ร้อยเอ็ด จากค่ายเพื่อไทย โดยมีคะแนนไม่ทิ้งห่างกันมากนัก

เมื่อเอกภาพเจอใบแดง พ้นจากตำแหน่ง และถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี กกต.จึงจัดการเลือกตั้งซ่อมนายก อบจ.ร้อยเอ็ด โดยพรรคเพื่อไทย เปลี่ยนตัวจากมังกร เป็นเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ เป็นตัวเต็งที่จะชนะเลือกตั้ง

เต็งสองในสนามนี้คือ จุรีพร สินธุไพร ที่ลาออกจากกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และพรรคประชารัฐ มาสมัครนายก อบจ.ในนามผู้สมัครอิสระ


ศึกท้องถิ่นหนนี้ จุรีพร หวนกลับสู่ฐานเสียงเดิม ชูภาพตระกูลเสื้อแดง “สินธุไพร” พ่วงด้วยการสนับสนุนจากคณะก้าวหน้า ในร้อยเอ็ด

เต็งสามคือ รัชนี พลซื่อ อดีตนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ภรรยาเอกภาพ อาศัยความเป็นตระกูล “พลซื่อ” นักการเมืองลูกชาวบ้านมาอ้อนขอคะแนนเสียง

เดิมที “จุรีพร-รัชนี” เคยสังกัดพรรคพลังประชารัฐ แต่ทั้งคู่ก็ทิ้งพรรคลุงป้อม มาลงสนามท้องถิ่นแข่งกันเอง 


ศึกนี้แพ้ไม่ได้

ดังที่ทราบการเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด กับนายก อบจ.กาฬสินธุ์ ต่างกันที่ปูมหลังผู้สมัคร โดยเฉพาะที่สนามร้อยเอ็ด ตัวเต็ง 3 คน ล้วนเป็นนักการเมืองระดับชาติ และมีสีเสื้อชัดเจน


เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ดหลายสมัย และคนสนิทของจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำเพื่อไทย เลือกตั้งนายก อบจ.สมัยที่แล้ว ก็หนุนช่วยมังกร ยนต์ตระกูล แต่พ่ายเอกภาพ พลซื่อ

เที่ยวนี้ เศกสิทธิ์ตั้งใจลงสนามท้องถิ่น และพรรคเพื่อไทย พร้อมสนับสนุนเต็มที่ เนื่องจากกระแสกาฬสินธุ์แลนด์สไลด์ ส่งผลดีต่อแคมเปญ “เพื่อไทยแลนด์สไลด์” ในระดับประเทศ

โค้งสุดท้ายการหาเสียง พรรคเพื่อไทยวางแผนเปิดเวทีปราศรัยทุกอำเภอภายใน 4 วัน(16-19 ก.ย.) โดยส่งณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มาเป็นตัวยืนทุกเวทีเสริมด้วย จาตุรนต์ ฉายแสง 

แลนด์สไลด์ร้อยเอ็ด “อุ๊งอิ๊ง” พ่ายศึกนี้ แพ้ทั้งกระดาน

ไม้เด็ดของเพื่อไทยคือ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินทางมาพบคนเสื้อแดง 4 อำเภอ ซึ่งเป็นจุดชี้ขาดชัยชนะ เพราะ อ.โพนทอง เป็นฐานเสียงของเอกภาพ พลซื่อ และ อ.เมืองร้อยเอ็ด ฐานเสียงของตระกูลจุรีมาศ ก้างขวางคอเพื่อไทย

ส่วน อ.เสลภูมิ และ อ.สุวรรณภูมิ เป็นฐานเสียงเพื่อไทย แต่ประมาทไม่ได้ เพราะคู่แข่งของเศกสิทธิ์ มาเหนือเมฆ ปลุกกระแสเสื้อแดงคืนถิ่น 

เหนืออื่นใด การปรากฏตัวของอุ๊งอิ๊ง ในร้อยเอ็ด เหมือนส่งสัญญาณถึง ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ให้คำนึงผลแพ้-ชนะในเลือกตั้งท้องถิ่น อย่าปล่อยให้เหมือนปี 2563 เหตุที่มังกรแพ้เอกภาพ เพราะ ส.ส.เพื่อไทยร้อยเอ็ด ไม่มีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

แผนลึกเกมลับ

เหตุใด จุรีพร สินธุไพร จึงกลายเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ พรรคเพื่อไทย และความแรงของจุรีพร ทำให้อุ๊งอิ๊งต้องมาหาเสียงด้วยตัวเอง

จุรีพร เตรียมตัวลงสมัครนายก อบจ.ร้อยเอ็ด นับตั้งแต่รู้ข่าวศาลสั่งให้เอกภาพ พลซื่อ หยุดปฏิบัติหน้าที่ และรอฟังคำวินิจฉัย 

แลนด์สไลด์ร้อยเอ็ด “อุ๊งอิ๊ง” พ่ายศึกนี้ แพ้ทั้งกระดาน

คนร้อยเอ็ดต่างรู้ว่า จุรีพรเป็นตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งหากเธอแบกป้ายลุงตู่-ลุงป้อมหาเสียง พบความพ่ายแพ้แน่นอน จึงเกิดกระบวน การสร้างรีแบรนด์ จากสีเสื้อ พปชร. กลับเป็นเสื้อแดงคนเดิม

จุรีพร อดีตแกนนำ นปช.แดงพัทยา มีน้องชายชื่อ วิเชียรชนินทร์ สินธุไพร อดีตแกนนำ นปช.แดงภาคอีสาน และปัจจุบัน วิเชียรชนินทร์สังกัดพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้า

วิเชียรชนินทร์ รับบทเสนาธิการการเลือกตั้งให้พี่สาว วางกลยุทธ์ฟื้นขบวนการเสื้อแดงร้อยเอ็ด ทุกเวทีหาเสียงจะชูภาพจุรีพร ในฐานะแกนนำเสื้อแดงตัวจริง และน้องสาวของ นิสิต สินธุไพร อดีตแกนนำ นปช.

แลนด์สไลด์ร้อยเอ็ด “อุ๊งอิ๊ง” พ่ายศึกนี้ แพ้ทั้งกระดาน

แม้พรรคก้าวไกล จะแถลงว่า พรรคไม่ได้สนับสนุนจุรีพร สินธุไพร เป็นเรื่องของคนในพื้นที่ และพรรคก็ไม่ส่งผู้สมัครนายก อบจ.ร้อยเอ็ด รวมถึงคณะก้าวหน้า ก็ไม่ส่งผู้สมัครเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การหาเสียงโค้งสุดท้ายของจุรีพร ได้สร้างความประหลาดใจให้แก่กองเชียร์เพื่อไทย เมื่อพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้า ร้อยเอ็ด เปิดเวทีปราศรัยสนับสนุนจุรีพรในบางอำเภอ

เหนืออื่นใด กองเชียร์บางพรรคที่อยู่ขั้วตรงข้ามเพื่อไทย สนับสนุนจุรีพรอย่างเปิดเผย โดยเฉพาะ “บ้านใหญ่ร้อยเอ็ด” ที่มี สจ.อยู่ในมือเกือบทั้งสภา อบจ. ก็ประกาศตัวเป็นกองหนุนจุรีพร

แลนด์สไลด์ร้อยเอ็ด “อุ๊งอิ๊ง” พ่ายศึกนี้ แพ้ทั้งกระดาน

ดังนั้น ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด จึงมีความหมายอย่างยิ่งยวดต่ออนาคตของเพื่อไทยในภาคอีสาน ถ้าเศกสิทธิ์พ่าย พรรคขั้วตรงข้ามจะขยายผลประเด็น “ดับฝันแลนด์สไลด์” ทันที

การแพ้เลือกตั้งท้องถิ่นร้อยเอ็ด อาจส่งผลต่อศึกใหญ่ในปีหน้า ด้วยเหตุนี้ ทักษิณจึงต้องส่งอุ๊งอิ๊งมาตรึงฐานเสียง และหวังผลที่สร้างร้อยเอ็ดแลนด์สไลด์ต่อจากกาฬสินธุ์แลนด์สไลด์