ประเทศไทย เข้าโหมดการเลือกตั้ง

ประเทศไทย เข้าโหมดการเลือกตั้ง

การยุบสภาผู้แทนราษฎรและเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งครั้งนี้หลังจาก อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ยุบสภาเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2568 เป็นช่วงที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ

กับความท้าทายที่ซับซ้อนหลายมิติ ทั้งในด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดน และความคาดหวังของประชาชนที่ต้องการเห็นทิศทางที่ชัดเจนของประเทศ

การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงจึงไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองตามปกติ แต่เป็นโอกาสสำคัญที่จะกำหนดอนาคตประเทศในระยะ 4 ปี ข้างหน้า

การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยเป็นประเด็นเร่งด่วนที่รัฐบาลชุดใหม่จะต้องเผชิญทันทีหลังการเลือกตั้ง เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยังคงพึ่งพาภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวเป็นหลัก ซึ่งเปราะบางต่อความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงเกิน 90% ของ GDP การขาดแคลนแรงงานฝีมือในยุคดิจิทัล ดังนั้นนโยบายประชานิยมระยะสั้นที่มุ่งหาเสียงไม่เพียงพอต่อการขับเคลื่อนประเทศที่จำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ
    
ขณะที่ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชายังคงเป็นประเด็นความมั่นคงที่มีผลกระทบ โดยเป็นปัญหาที่ลากยาวมานานจากการปักปันแนวเขตชายแดนที่หลายจุดยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งการปะทะกันที่โยงไปถึง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ต้องการแสดงบทบาทนำด้านสันติภาพ ซึ่งรัฐบาลชุดใหม่จะต้องแสดงให้เห็นว่ามีความสามารถในการรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ โดยไม่ทำให้ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านแย่ลง
    
การเลือกตั้งที่มาเร็วจะเป็นโอกาสให้ประชาชนได้เลือกพรรคการเมืองที่มีความหวังต่ออนาคตประเทศ หลังจากนี้คงต้องรอดูนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองที่จะนำเสนอออกมา พรรคการเมืองทุกพรรคควรนำเสนอแผนงานที่แสดงให้เห็นว่าจะจัดการกับปัญหาเศรษฐกิจ ความมั่นคง และการพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่างไร พร้อมทั้งมีความพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ในการขับเคลื่อนประเทศที่ไม่ใช่เพียงการนำเสนอนโยบายระยะสั้น
    
การยุบสภาและการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของประเทศไทยในอีก 4 ปีข้างหน้า ประชาชนคือผู้มีอำนาจสูงสุดในการเลือกผู้นำที่จะพาประเทศข้ามความท้าทายต่างๆ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปหรือการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่โครงสร้างปัจจุบันไม่ตอบโจทย์การแข่งขันระหว่างประเทศแล้ว ดังนั้นจึงอยากเห็นนโยบายที่ชี้ให้เห็นอนาคตของประเทศ โดยเฉพาะการยกระดับและการก้าวสู่เป้าหมายประเทศรายได้สูง