“น้ำลวกมือ กับ งบลวกใจ”

“น้ำลวกมือ กับ งบลวกใจ”

การเมืองตึงเครียด วันนี้เรามาคุยเรื่องเบาๆกันดีกว่า… เรื่องห้องน้ำที่อังกฤษครับ

ใครไปถึงอังกฤษ ก่อนออกจากสนามบินฮีทโรว์ ส่วนใหญ่คงจะแวะเข้าห้องน้ำก่อน เพราะว่าต้องนั่งรถเข้าเมืองอีกไกล

ห้องน้ำก็คือห้องน้ำ แต่ห้องน้ำที่นี่แตกต่าง และทำให้ผมงุนงงมานานหลายปีแล้ว คือน้ำที่ไหลจากก๊อก มีแต่น้ำร้อนครับ และร้อนมากเสียด้วย

ช่วงโควิดที่ผ่านมา เราคนไทยได้เรียนรู้ว่าการล้างมือให้ถูกสุขลักษณะนั้น จะต้องฟอกสบู่ให้ทั่วทุกซอกนิ้ว ซอกเล็บ และล้างมืออย่างน้อย 20 วินาที

แต่ห้องน้ำที่สนามบินแห่งนี้ ถ้าเราจะล้างมือนานถึง 20 วินาที คงทำได้ยาก เพราะน้ำจากก๊อกร้อนประมาณ 50℃ ร้อนจนแทบลวกมือ!

ไม่ใช่แค่ที่สนามบินนะครับ ห้องน้ำสาธารณะในอังกฤษ เช่นที่พิพิธภัณฑ์ หรือสถานที่ทันสมัยอย่าง “ชิงช้าสวรรค์ลอนดอน” (London Eye) น้ำก๊อกก็ร้อนอย่างนี้นี่แหละ

บ่อยครั้งที่ผมล้างมือ ฟองสบู่ยังออกไม่หมด ก็ต้องรีบดึงมือออกจากก๊อก เพราะน้ำร้อนจี๋ จนทนไม่ไหวไม่มีระบบน้ำผสม ไม่มีก๊อกน้ำเย็นให้เลือก ก๊อกทุกหัวในห้องน้ำ เป็นน้ำร้อนครับ

แต่ละคนต้องหาวิธีกันเองว่า จะล้างมือแบบลวกๆ หรือยอมให้น้ำลวกมือ?

วิธีของผมก็คือ ใช้ฟองสบู่ถูมือให้ทั่วก่อนจากนั้นรีบล้างน้ำอย่างรวดเร็ว 3-4 วินาที ในช่วงแรกที่น้ำยังร้อนไม่มากนัก แต่น้ำก็จะร้อนเร็วมากๆ จนต้องขยับไปที่ก๊อกข้างๆ อีก 2-3 ก๊อก เพื่อล้างก๊อกละ3-4 วินาที อย่างรวดเร็ว

แบบนี้พอไปได้ แต่ล้างยังไงก็ไม่สะใจ และจะทำแบบนี้ได้ ก็เฉพาะกรณีที่ก๊อกข้างๆ ไม่มีใครใช้งานอยู่นะครับ!

บินจากเมืองไทยไป 12 ชั่วโมง บางคนอาจรู้สึกเหนอะหนะ คิดว่าจะไปล้างหน้าล้างตาให้สะอาด เหมือนที่ห้องน้ำบ้านเรา แต่ต้องคิดให้ดีนะครับว่า น้ำร้อนๆอย่างนี้ คุณจะล้างหน้าด้วยวิธีใด

ผมไม่เคยหาคำตอบสักทีว่า ทำไมน้ำจึงต้องร้อนขนาดนี้ จนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พาผู้บริหารไปเรียนหนังสือที่อ๊อกซ์ฟอร์ด ทั้งๆที่เป็นฤดูร้อน แต่น้ำจากก๊อก ก็ยังร้อนมากเหมือนเดิม

เลยถึงเวลาที่ต้องหาคำตอบอย่างจริงจัง เสียที

ผมได้คำตอบมาว่า…เป็นเรื่องของกฎหมายสุขอนามัย ของอังกฤษครับซึ่งกำหนดว่าในสถานที่สาธารณะ น้ำก๊อกจะต้องมีความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย “Legionella” ได้ โดยต้องเก็บน้ำร้อนไว้ที่ ≥ 60°C และต้องจ่ายน้ำถึงผู้ใช้ที่ ≥ 50°C

ดังนั้น สนามบิน สถานีรถไฟ พิพิธภัณฑ์ ฯลฯน้ำจึงร้อนมากอย่างที่เห็นแต่อาคารบางแห่งก็มีวิธีลดความร้อน โดยติดตั้งTMVs (Thermostatic Mixing Valves) ผสมน้ำเย็นให้น้ำร้อนน้อยลงหน่อย เช่นต่ำกว่า 44°C

ถึงแม้อุปกรณ์ TMVs จะราคาไม่แพงนัก แต่เมื่อต้องติดตั้งหลายจุดในอาคาร เมื่อรวมค่าแรงและอื่นๆแล้ว ก็ทำให้ต้นทุนสูงมาก เลยไม่ค่อยมีใครทำ คนอังกฤษรวมทั้งนักท่องเที่ยวทั้งหลาย จึงเจอแต่ก๊อกน้ำร้อนเพียงอย่างเดียวในที่สาธารณะ

แล้วประเทศอื่นๆในยุโรป เป็นเช่นนี้หรือเปล่า คำตอบคือไม่ใช่ครับ เพราะว่าที่ฝรั่งเศส เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ หรือ สวีเดน น้ำก๊อกก็ผสมกันออกมาดี ไม่ได้ร้อนอย่างนี้ 

ดูเหมือนว่า น้ำก๊อกที่ร้อน จนเหมือนจะเอาไว้ลวกไข่ มันกลายเป็น ‘เอกลักษณ์ของอังกฤษ’ อีกอย่างหนึ่งไปเสียแล้วกระมัง

ทำไมจึงไม่มีการแก้ไข

คำตอบคืออังกฤษเป็นระบบท่อน้ำที่เก่าแก่ แยกน้ำร้อน-น้ำเย็น มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 แล้ว เนื่องจากมีปัญหาน้ำปนเปื้อนในอดีต จึงไม่อนุญาตให้ผสมน้ำร้อนกับน้ำเย็นในท่อเดียวกัน

การแก้ไขระบบของอาคารเก่าๆ ก็แพงมาก ส่วนใหญ่จึงไม่ได้มีการแก้ไข ในขณะที่เพื่อนบ้านในยุโรปตะวันตก อุณหภูมิน้ำล้างมือในระดับอุ่นพอดีๆ ประมาณ 38°C

ส่วนคนอังกฤษนั้น ตั้งแต่เกิดมาก็คง “เคยชิน” กับน้ำร้อนที่ร้อนจัดอย่างนี้ และเมื่อเคยชินแล้วก็ปรับตัวปรับใจกันไป พวกเขาคงใช้ห้องน้ำสาธารณะ เพื่อล้างมือแบบแตะน้ำประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นไม่ได้ล้างกันนานๆแบบเอาจริงเอาจัง เหมือนที่เราทำกัน

ความ “เคยชิน” เช่นนี้ ฟังดูคล้ายๆบางอย่างในบ้านเราไหมครับ…. 

เพราะคนไทยก็มีเรื่องที่เรา “เคยชิน” เหมือนกัน เช่นทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง เราก็มีความหวังว่าระบบจะดีขึ้น นักการเมืองจะใสสะอาดขึ้น

แต่พอลงคะแนนแล้ว เราก็ได้แบบเดิมๆ คนเดิมๆ พฤติกรรมเดิมๆ สุดท้ายเราก็รู้สึก ‘เคยชิน’ว่าทำอะไรไม่ได้มากนัก การเมืองไทยก็เป็นแบบนี้แหละ…. เหมือนที่คนอังกฤษเคยชินกับน้ำร้อน 60°C

น้ำร้อน 60°C จากก๊อกของคนอังกฤษ อาจคล้ายกับ การเมือง 60% ของคนไทยก็ได้

คือคนไทยก็เริ่ม “เคยชิน” แล้วกับ งบประมาณที่ตกมาถึงพวกเรา ในบางกรณีอาจเหลือเพียง 60% หายไป 30-40% ซึ่งประชาชนเชื่อว่าเกิดจากนักการเมืองและข้าราชการฉ้อฉลบางคน เอาไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว หรือเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องของตนเอง

จากอดีต ที่เราเคยได้ยินว่า หัวคิว 10–20% เป็นเรื่องปกติ ปัจจุบันบางแหล่งข้อมูลบอกว่า ไปถึง 30–40% แล้วนะ ซึ่งเราฟังแล้วก็รู้สึกเคยชิน รังเกียจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้จริงและหยุดยั้งไม่ได้ เราจะอยู่กันอย่างไร

น้ำ 60°C ที่ลวกมือ กับ งบที่เหลือเพียง 60% จนลวกใจ….. เรารับไม่ได้ทั้งคู่ครับ

เอ..ผมเขียนเรื่องน้ำร้อนอยู่ดีๆ วกมาเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน