“ฝุ่นอะไร… แพ้ง แพง”

ประเทศไทยเต็มไปด้วยฝุ่น PM 2.5 ที่ไม่มีใครต้องการ แต่ฝุ่นที่ผมจะพูดถึงนี้ หายากและแพงมากเลยครับ
ต้องใช้เงินถึง 40,000,000,000 ลบ. (“4 หมื่นล้านบาท”) เพื่อให้ได้ฝุ่นเพียง 122 กรัมเท่านั้นนี่มันฝุ่นอะไรกันตามผมมาสิครับ จะเล่าให้ฟังชัดๆ แบบวรภัทร คัดมาคุย
เรื่องของเรื่องก็คือมีดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่ง ชื่อว่า “Bennu” เจ้าดาวดวงนี้มีขนาดเล็กมาก เส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 500 เมตรเท่านั้นเองหรือเท่ากับเส้นผ่าศูนย์กลาง ของฐานปล่องภูเขาไฟฟูจิ หรือ ความยาวของสนามฟุตบอลแค่ 5 สนาม
เทียบกับโลก ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบ 13,000 กิโลเมตรBennu จึงมีขนาดเล็กกว่าโลกนับหมื่นเท่า แถมยังอยู่ห่างจากโลกในช่วงที่ไกลที่สุด ถึง 300 ล้านกิโลเมตร
ถ้าต่างคนต่างอยู่ เอ๊ย…! ต่าง “ดาว” ต่างอยู่ เบนนูก็อยู่ส่วนของเบนนู โลกก็อยู่ส่วนของโลก แบบนี้คงไม่มีประเด็นอะไร
แต่อยู่ดีๆ มนุษย์เกิดมีความใฝ่ฝัน อยากจะได้ “ฝุ่น” จากเบนนู เอามาดูให้เห็นกับตา
ก็เลยต้องหาวิธีทำความฝันให้เป็นจริง ด้วยการสร้างยานอวกาศ OSIRIS-REx เพื่อเดินทางไป“เก็บฝุ่น” มาจากที่นั่น
ยาน OSIRIS-REx ออกเดินทางเมื่อเดือนกันยายน 2016 กว่าจะไปถึงเบนนู ใช้เวลานานถึง 2 ปี 3 เดือน เห็นไหมครับว่าดาวดวงนี้ อยู่ไกลมากจริงๆ และเมื่อไปถึงแล้ว ก็ยังต้องอยู่ที่นั่นเกือบ 2 ปี เพื่อเก็บหินเก็บฝุ่น
ก็ไม่รู้ว่าทำไมอยู่นานนัก คงอยู่เพื่อทำการทดลองอะไรต่างๆด้วยแหละ แต่เอาเป็นว่า เมื่อสำเร็จภารกิจแล้ว ก็บินกลับมาถึงโลกเมื่อกันยายน 2023รวมเวลาไปกลับ นานถึง 7 ปีใช้เงินไป 40,000 ล้านบาท เดินทางไปไกลขนาดนี้ และนานขนาดนั้นได้ฝุ่นรวมทั้งเศษหิน กลับมาเพียง 122 กรัม ถือว่าราคาแพงมากเลยนะ
ทำไมต้องลงทุนมากมาย แล้วจะเอาฝุ่นกับเศษหินเหล่านั้นมาทำอะไร ทำไมไม่เอาฝุ่นไปจากเมืองไทย เพราะเรามีเหลือเฟือ เต็มบ้านเต็มเมือง ยินดีให้ฟรีด้วยนะ นาซ่าที่รัก
คำตอบก็คือ ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้เป็นดาวเก่าแก่ ดังนั้นฝุ่นและเศษหินต่างๆจากเบนนู จะทำให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจการเริ่มต้นของระบบสุริยะเมื่อประมาณ 4,500 ล้านปีที่แล้วรวมทั้งเข้าใจปัจจัยที่อาจจะก่อให้เกิด “จุดเริ่มต้นของชีวิต” บนโลกนี้ด้วย
นักวิทยาศาสตร์มีแนวคิดมานานแล้วว่า “สารตั้งต้นของชีวิตบนโลก” น่าจะมาจาก “อวกาศ” และถูกนำมายังโลกโดยดาวเคราะห์น้อยหรืออุกกาบาต ในยุคแรกเริ่มของระบบสุริยะ
การวิเคราะห์ตัวอย่างฝุ่นที่ได้มาเพียงขีดกว่าๆนั้น นักวิทยาศาสตร์พบสารอินทรีย์หลายพันชนิด รวมถึงกรดอะมิโนที่เป็นองค์ประกอบของโปรตีนในสิ่งมีชีวิต และ “นิวคลีโอเบส” (Nucleobases) อีกด้วย
ผลงานวิจัย ซึ่งได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เองได้รับความสนใจจาก นักวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก
เพราะการพบ “นิวคลีโอเบส” ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของ DNA และ RNA ทำให้ความเชื่อที่ว่าสารตั้งต้นของชีวิตบนโลก น่าจะมาจากดาวหรืออุกาบาตนั้น มีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น
สื่อบางฉบับ ถึงกับพาดหัวการค้นพบครั้งนี้ว่า“มนุษย์เรา ล้วนมาจากต่างดาว”
DNA เป็นตัวกำหนดลักษณะทางกายภาพของมนุษย์ เช่น สีตา สีผม ความสูง หรือ โครงสร้างร่างกาย เช่นคนจากทวีปอาฟริกามักจะมีดีเอ็นเอ ที่ทำให้เต้นเก่ง หรือวิ่งเก่ง เป็นต้น
ส่วนพฤติกรรมและนิสัยใจคอของมนุษย์นั้น อาจถูกกำหนดโดย DNA อยู่บ้าง แต่ปัจจัยหลัก มักมาจากสิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมของสังคมที่แต่ละคนเติบโตมา
สภาพบ้านเราขณะนี้ มีฝุ่นอย่างเหลือเฟือ ถ้าหากนาซ่า อยากได้ฝุ่นอีกเมื่อไร ผมว่ามารับที่เมืองไทยได้เลยนะ เราพร้อมร้องเพลง “เอาไปเลย เอาไป เอาไป เอาไป ได้เลย” แบบให้ฟรีๆเลยครับ
เผื่อนาซ่าจะได้ช่วยวิจัย “ฟันธงฝุ่นไทย” ว่า อาจจะก่อให้เกิดโรคอะไรได้บ้างหรือไม่ หรืออาจพบว่าฝุ่นไทยมีสารโครงสร้าง DNA อะไร ที่ทำให้คนไทย ซึ่งมีผมดำ ผิวสีน้ำตาลอ่อน ตัวเล็กๆ ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส มีความเป็นมิตร จนเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ เช่นนี้
ถ้านาซ่าวิจัยฝุ่นไทยจนได้ความรู้ตรงนี้ ก็อาจทำให้สังคมโลกน่ารักยิ่งขึ้น เพราะเมื่อคน ทุกชาติ มีรอยยิ้มคล้ายคนไทย ความสุขใจก็จะเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเทียบได้ กับรอยยิ้มแบบธรรมชาติ 100% ของคนไทยก็ตาม
แต่ขอเตือนนาซ่าให้ระวังหน่อยนะครับ เพราะฝุ่นของเราเวลานี้ นอกจากจะมีประเด็นเรื่องสุขภาพแล้ว ดูเหมือนว่าจะมีอานุภาพที่เปลี่ยนไปอย่างมากอีกด้วย
เพราะปีที่ผ่านมาจนถึงเวลานี้คนไทยดังๆออกอาการกระทบกระทั่งกัน และมีเรื่องมีราวฟ้องร้องกันอยู่บ่อยๆเริ่มจากตำรวจ ดารา พิธีกร ทนายความ เรื่อยมาจนถึงนักการเมือง ที่ต่างพูดจากันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
สงสัยว่าฝุ่นเบนนู ปลิวออกมาจากห้องแลป จนฝุ่นไทยติดเชื้อ แล้วท่านเหล่านี้ไปโดนเข้าหรือเปล่านะ