'ดูดจนล้น' แผลงฤทธิ์ ส่องพื้นที่ทับซ้อน 'ศรีสะเกษ-อุบล'

สนามอุบลอลวน น้ำเงินคนละสาย ลูกสาว “ชูวิทย์ กุ่ย” ชูเสื้อ ภท. ทับซ้อนบ้านใหญ่ “โภคกุลกานนท์” ทิ้งครูใหญ่ไปสวมเสื้อแดง

ปรากฏการณ์มนต์ขลังสีน้ำเงิน ทำให้มี “อดีต สส.” ปี 2566 จำนวน 65 ชีวิตแห่สมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เพื่อสานฝัน “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นนายกรัฐมนตรีอีกวาระ แต่ใกล้วันเปิดตัวผู้สมัคร สส. 400 เขตกลับมีปัญหา “พื้นที่ทับซ้อน” หลายเขตหลายจังหวัด

กรณี จ.ศรีสะเกษ นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ อดีต สส.ศรีสะเกษ เขต 4 และนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร อดีต สส.ศรีสะเกษ เขต 9 ที่ย้ายออกจากพรรคเพื่อไทย พร้อมกับศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีต สส.กาญจนบุรี ได้มีข้อขัดแย้งกับตระกูล “ไตรสรณกุล” เรื่องการวางตัวผู้สมัคร สส.เขต จนต้องย้ายไปพรรคกล้าธรรม

ทำนองเดียวกัน จ.อุบลราชธานี เขตเลือกตั้งที่ 7 (อ.ศรีเมืองใหม่ อ.โขงเจียม) “สุดารัตน์ พิทักษ์พลพัลลภ” อดีต สส.อุบลฯ

ย้ายจากเพื่อไทยไปภูมิใจไทย ก็ทับซ้อนกับ “ตี๋เล็ก” เชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ อดีตผู้สมัคร สส.ค่ายน้ำเงินสมัยที่แล้ว

ในที่สุด ทายาทบ้านใหญ่ “โภคกุลกานนท์” ตัดสินใจย้ายไปพรรคเพื่อไทย ซึ่ง อดิศักดิ์ โภคกุลกานนท์ บิดาของตี๋เล็ก เคยเป็น สส.อุบลฯ สังกัดพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย 

ปมอดีตไล่หนูตีงูเห่า

การเลือกตั้ง สส.ศรีสะเกษ ครั้งใหม่ บ้านใหญ่ตระกูล “ไตรสรณกุล” ในสีเสื้อพรรคภูมิใจไทย มีความมั่นใจที่จะคว้าเก้าอี้ สส.ได้มากกว่า 3 ที่นั่งจากที่เคยได้ 2 ที่นั่งตอนเลือกตั้งปี 2566 และเลือกตั้งซ่อมปี 2568 อีก 1 ที่นั่ง

ที่สำคัญ “กวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล ลูกสาว วิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ มีตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แถม “โต้ง” สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ยังได้เป็นโฆษกรัฐบาล

ก่อนยุบสภาฯ คนศรีสะเกษรู้สึกประหลาดใจที่เห็น 2 อดีต สส.จากค่ายสีแดง ย้ายไปซบค่ายสีน้ำเงิน 

นั่นคือ นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ อดีต สส.ศรีสะเกษ เขต 4 ที่พลิกเอาชนะอุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ น้องสาวนายกฯวิชิต 

รวมถึง นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร อดีต สส.ศรีสะเกษ เขต 9 ทำเซอร์ไพรส์โค่นแชมป์เก่าหลายสมัยอย่าง ปวีณ แซ่จึง

จะว่าไปแล้ว “ภูมินทร์-นุชนาถ” ได้รับชัยชนะครั้งที่แล้ว กระแส “ไล่หนูตีงูเห่า” ก็มีผลต่อความพ่ายแพ้ของบ้านใหญ่สีน้ำเงิน

เมื่อมีการจัดทีมผู้สมัคร สส.ศรีสะเกษของพรรคภูมิใจไทย ทั้ง 9 เขต ปรากฏว่า ไม่มีที่ว่างให้ “ภูมินทร์-นุชนาถ” จึงทำให้ทั้งคู่ต้องย้ายไปสังกัดพรรคกล้าธรรม

สำหรับว่าที่ผู้สมัคร สส.ศรีสะเกษ เขต 9 (อ.ราษีไศล) ในสายบ้านใหญ่ชื่อ วิทวัส ไตรสรณกุล รองนายก อบจ.ศรีสะเกษ โดยการสนับสนุนของ ปวีณ-ผ่องศรี แซ่จึง อดีตผู้แทนฯหลายสมัย

ส่วนเขต 4 (อ.กันทรลักษ์) บ้านเกิดของตระกูล “ไตรสรณกุล” อาจจะเป็น “หมอเจี๊ยบ” อุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ หรือลูกสาว จิณตพัฒน์ เพ็งนรพัฒน์

ศึกบ้านใหญ่ตระการฯ

ปัญหาพื้นที่ทับซ้อน อันเนื่องจากอดีต สส.ค่ายแดงไหลเข้าค่ายน้ำเงิน ยังเกิดที่ จ.อุบลราชธานี ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 7 (อ.ศรีเมืองใหม่ อ.โขงเจียม)

สมัยที่แล้ว “กานต์” สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ พรรคเพื่อไทย เบียดเอาชนะ “ตี๋เล็ก” เชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ พรรคภูมิใจไทย

พลันที่ ชูวิทย์ กุ่ย พิทักษ์พรพัลลภ ทิ้งนายใหญ่ทักษิณไปอยู่พรรคกล้าธรรม ลูกสาว “กานต์” กลับเลือกที่จะไปอยู่พรรคภูมิใจไทย

ปัญหาที่ตามมาคือ “ตี๋เล็ก” เชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ อดีตผู้สมัคร สส.อุบลฯ ค่ายน้ำเงิน จะไปต่อยังไง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ครูใหญ่เนวิน ชิดชอบ ยังการันตีให้ “ตี๋เล็ก” ลงสมัครในเขตเดิม

เหนืออื่นใด “อดิศักดิ์ โภคกุลกานนท์” บิดาของตี๋เล็ก และ “ชูวิทย์ กุ่ย” ต่างก็เป็นคู่แค้นในสนามการเมืองท้องถิ่นมายาวนาน 

เมื่อการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลตระการพืชผล นาตยา โภคกุลกานนท์ ลูกสาวเสี่ยอดิศักดิ์ ก็ชนะแชมป์เก่า จันทนา พิทักษ์พรพัลลภ ภรรยาเสี่ยชูวิทย์ กุ่ย 

ว่ากันว่า สาเหตุที่ลูกสาว “ชูวิทย์ กุ่ย” ได้เข้าพรรคน้ำเงิน เพราะมีแรงหนุนจากอิสสระ สมชัย บิดาของ แนน บุณย์ธิดา สมชัย อดีต สส.อุบลฯ
คนเมืองดอกบัวรู้ดีว่า เกรียง-กานต์ กัลป์ตินันท์ ,ชูวิทย์ กุ่ย และอิสสระ สมชัย เป็น “เพื่อนมิตร” กันมายาวนาน แม้อยู่คนละพรรคแต่ “พวก” เดียวกัน

ขณะที่บ้านใหญ่ “โภคกุลกานนท์” เดินกันคนละเส้นทางกับบ้านใหญ่ “สมชัย” ถึงแม้ว่าจะสังกัดค่ายเนวิน แต่ก็อยู่กันคนละก๊วน

ด้วยเหตุนี้ “ตี๋เล็ก” จึงตัดสินใจสวมเสื้อเพื่อไทย ลงชน “สส.กานต์” ในสนามเขต 7 ซึ่งจะเป็นศึกเดิมพันล้างตระกูลของ 2 บ้านใหญ่เมืองอุบล 

พื้นที่ทับซ้อนในค่ายน้ำเงิน ไม่ได้เกิดแค่ศรีสะเกษ-อุบลราชธานี หากแต่ยังมีอีกหลายจังหวัดในภาคกลาง และภาคใต้ ซึ่งต้นตอของปัญหาก็มาจากสถานการณ์ “ดูดจนล้น” แผลงฤทธิ์นั่นเอง