'เชื่อไหม…ตำรวจ น่าเชื่อถือที่สุด'

'เชื่อไหม…ตำรวจ น่าเชื่อถือที่สุด'

ไม่เชื่อ ก็ต้องเชื่อ… เมื่อคนที่ประชาชนเชื่อถือที่สุด คือ “ตำรวจ”

ไม่ได้ฝันกลางวัน ไม่ได้พูดตลก แต่มีตัวเลขยืนยันว่า  ประชาชนมากถึง 90% บอกว่าพวกเขา “เชื่อถือตำรวจมากที่สุด”

รองลงไปคือ เชื่อถือ ระบบการศึกษา กองทัพ ระบบสุขภาพ และ กระบวนการยุติธรรม ที่ 89% 83% 72% และ 72% ตามลำดับ

ทั้งหมดนี้เป็นความจริง แต่ขออภัยนะครับ ผมลืมบอกไปว่า มันเป็นตัวเลขของ ประเทศฟินแลนด์ ไม่ใช่ประเทศไทยครับ

ขอโทษด้วย…ที่ทำให้ผิดหวัง

 

ตำรวจฟินแลนด์ ทำไมจึงยอดเยี่ยมขนาดนั้น เป็นไปได้จริงๆหรือที่ตำรวจของเขา ต่างกับตำรวจไทยมากขนาดนั้น

คงจะต่างกันมากแหละครับ แต่มากแค่ไหน คุณคงต้องตอบตัวเองก่อนว่า คุณคิดว่าน่าจะมี คนไทยกี่เปอร์เซ็นต์ ที่จะตอบว่า “ตำรวจน่าเชื่อถือที่สุด”

ถ้าคุณคิดว่าคนไทยครึ่งประเทศ หรือ 50% เชื่อถือตำรวจมากที่สุด ก็เอาตัวเลขนี้ไปลบออกจาก 90% ของฟินแลนด์ ก็จะได้ความแตกต่าง 40%

แต่ก็น่าห่วงอยู่เหมือนกันนะครับ ว่าตัวเลขจะออกมาเป็นเช่นใด เพราะมีข่าวเทาๆออกมาเรื่อยๆ เช่นข่าวตำรวจตบทรัพย์นักท่องเที่ยว หรือสัปดาห์ที่แล้ว ก็มีเรื่องส่วยกลับมาอีกแล้ว และ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกมายอมรับว่า เรื่องส่วยรถบรรทุกนั้น มีจริง

ถ้าหากคุณให้ตัวเลขต่ำ ผลก็จะออกมาแตกต่างกับตำรวจฟินแลนด์อย่างมาก ถ้าเป็นแบบนั้นคุณก็ต้องทำใจนะครับ เพราะคุณเป็นคนใส่ตัวเลขความน่าเชื่อถือของตำรวจไทย ด้วยตัวคุณเอง

ฝรั่งชาวฟินแลนด์ ทำงานสถานฑูต และอยู่เมืองไทยมาหลายปี รู้จักเมืองไทยเป็นอย่างดี เขาบอกกับผมว่า ถ้าคนไทยไปขับรถผิดกฎจราจรที่ฟินแลนด์ แล้วถูกตำรวจที่นั่นจับ ถ้าหากพยายามยื่น “เงินสด” ให้ตำรวจ

รับรองว่าเจอ “ข้อหาหนัก” แน่ๆ

ทำไมประชาชนฟินแลนด์ จึงเชื่อถือตำรวจฟินแลนด์มากที่สุดขนาดนั้น ถ้าจะตอบคำถามนี้ ผมต้องฉายภาพใหญ่ให้คุณเห็นครับ

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นฟินแลนด์ ได้สอบถามประชาชนหลายประเทศในยุโรป จำนวน 28,000 คน ซึ่งรวมทั้งคนฟินแลนด์ด้วย และได้ข้อสรุปเรื่อง “ความเชื่อถือของประชาชน ที่มีต่อคนในชาติเดียวกัน” ว่าชาวฟินแลนด์ ได้คะแนนมาอันดับ 1

เขาอธิบายว่า สังคมของคนฟินแลนด์ เป็นสังคมที่ตั้งอยู่บน “ความเชื่อพื้นฐาน” ของคำว่า “TRUST” ซึ่งหมายถึง “ความเชื่อถือไว้วางใจกัน” จึงน่าทึ่งมากที่ชาวฟินแลนด์ ซึ่งตอบว่าเชื่อถือคนฟินแลนด์ด้วยกัน มีมากถึง 80%

เขาไว้วางใจ เชื่อถือคนในชาติเดียวกันมากจริงๆ

ประเด็นนี้ คุณก็น่าจะลองถามตัวเองเหมือนกันนะครับว่า ตัวคุณเอง “เชื่อถือคนไทยด้วยกัน” สักกี่เปอร์เซ็นต์ คือเมื่อพูดคุยอะไรกับใคร ไม่ว่าอาชีพอะไร แม้กับคนที่เราไม่รู้จัก เรารู้สึกเชื่อถือเพียงใด ระแวงบ้างหรือไม่ คิดว่าโอกาสจะถูกปลิ้นปลอกหลอกลวง มีมากน้อยเพียงใด ฯลฯ

คนไทยที่ตอบว่าเชื่อคนในชาติเดียวกันอย่างมาก น่าจะมีสักกี่เปอร์เซ็นต์ครับ จะสูงถึง 80% ไหม เหมือนคนฟินแลนด์ไหม หรืออาจต่ำกว่านั้นสักเพียงใด

นักวิจัยบอกว่า ความเชื่อถือที่สูงมากๆอย่างนี้ เกิดขึ้นเพราะชาวฟินแลนด์ มีรายได้เพียงพอในการดำรงชีวิต และอยู่ในสังคมที่มองเห็น “ความเป็นธรรม” ตลอดมา

นอกจากนั้น ยังมองเห็นสังคมที่มี “ความเท่าเทียมกัน” อีกด้วย รวมทั้งประชาชนทุกคน สามารถเข้าใช้บริการ ซึ่งเป็นสิทธิพื้นฐานในชีวิต และใช้บริการได้อย่างเต็มที่

ฟังแล้วน่าอิจฉาไหมครับ เพราะมันทำให้ผมนึกถึงบางประเทศ ที่ประชาชนมี “ความเชื่อพื้นฐาน” เหมือนกัน แต่ไม่ใช่เรื่อง TRUST กลับเชื่อว่า “ถ้าจะได้รับบริการพื้นฐาน แบบนั้นแบบนี้จากภาครัฐ ก็จะต้องเตรียมซองเงินสดไว้หล่อลื่นด้วย”

ผมลืมชื่อประเทศนั้นไปแล้วครับ

นักวิจัยบอกว่า เมื่อความเชื่อถือกันเองของประชาชนชาวฟินแลนด์ อยู่ในระดับสูง รวมทั้งความเชื่อถือที่ประชาชนมีต่อหน่วยงานและบุคลากรภาครัฐ ก็สูงมากด้วย จึงทำให้ความเชื่อถือโดยรวมของประเทศ เข้มแข็งยิ่งขึ้นไปอีก ประชาชนมีความสุข

ที่เขียนมาทั้งหมด ผมเพียงจะบอกว่า สังคมแบบนี้มีจริง ไม่ใช่ความฝัน

ท่าน ส.ส. ผู้ทรงเกียรติ ที่พยายามฟอร์มรัฐบาลกันมาหลายอาทิตย์แล้ว ถ้าหากจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จเมื่อใด อย่าลืมเข้ามาสร้าง TRUST แบบนี้ ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว

มันเป็นโจทย์ที่ยากมากๆ เพราะเราปล่อยปะละเลยกันมานานมากๆ จนทำให้กลไกภาครัฐ และกลไกสังคม มีสีเทาปนเป กลายเป็นวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตไปแล้ว

แต่เราจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปหรือ?

ผมไม่ได้หวังผลสูงขนาดฟินแลนด์หรอกครับ รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ 4 ปีข้างหน้า ถ้าทำได้แค่ครึ่งหนึ่งของฟินแลนด์ ก็น่าดีใจมากแล้ว

แต่การที่รัฐบาลใหม่จะเข้ามาสร้างความเชื่อถือ ให้เกิดขึ้นในสังคมไทยได้นั้น ก่อนอื่น พรรคการเมืองที่พยายามรวมตัวกันเป็นรัฐบาล ก็จะต้อง “เชื่อถือกันเอง” ให้ได้เสียก่อน คือไม่ระแวงซึ่งกันและกัน

แค่ประเด็นนี้

ก็น่าจะเป็นอุปสรรค แล้ว….มั้ง…?