มีวีซ่า อย่าคิดว่าแน่!

มีวีซ่า อย่าคิดว่าแน่!

เรื่องนี้ต้องเขียนครับ เพื่อเป็นบทเรียนสำหรับนักเดินทาง

ก่อนเดินทาง ผมได้นอนเพียง 3 ชั่วโมง เพื่อจะรีบออกจากบ้านก่อนรุ่งสาง เพราะอยากรีบพาครอบครัวไปสนามบินเร็วหน่อย คาดว่าผู้คนจะคับคั่งในช่วง เทศกาลสงกรานต์

ไปถึงสนามบินตั้งแต่ไก่โห่ คิดว่าจะมีเวลาไปนั่ง Lounge เพื่อทานอาหารเช้ากันสบายๆ แต่ที่ไหนได้ เกือบไม่ได้ขึ้นเครื่องบิน

แม้ในชั้นธุรกิจ ผู้คนก็เข้าคิวกันมากมาย แต่นั่นพอไหวครับ ปัญหาก็คือลูกสาวผม ซึ่งมีวีซ่าแบบชัวร์ๆ แต่เจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์การบินไทยบอกว่า เธอจะออกบอร์ดดิ้งพาสให้ไม่ได้ เพราะถูกเครื่องล็อคไว้ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องวีซ่า

อ้าว ก็ลูกสาวผมเอาพาสปอร์ตเล่มนี้นี่แหละ ไปขอวีซ่าพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่ แล้วเราทั้งสามคนก็ได้วีซ่ามาครบถ้วน ผมกับภรรยาก็เช็คอินสบายๆ ไม่เห็นมีปัญหาอะไร

เจ้าหน้าที่บอกว่า เลขที่ในพาสปอร์ต ของลูกสาวผม กับ เลขที่ซึ่งระบุไว้ในวีซ่า ตรงกันทั้งหมด แต่ที่เป็นปัญหาก็คือ “อักษรนำ” ต่างกันครับ ในเล่มพาสปอร์ตเป็น AC…….แต่ที่ปรากฎในวีซ่า พิมพ์ไว้ว่า AB……

ถ้าเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็แปลว่าตัวเลขรางวัลที่หนึ่งตรงกันทุกตัวเลข เพียงแต่คนละหมวดกัน แต่เมื่อเป็นสลากกินแบ่งฯ​ยังได้รับรางวัลปลอบใจนะครับ ส่วนของเรามันหมายถึงพาสปอร์ตคนละเล่ม และจะไม่ได้เดินทาง!

อ้าว….ก็เรายื่นเอกสารครบถ้วนเพื่อขอวีซ่า แล้วเมื่อได้วีซ่ามา เราก็ดีใจเพราะถือว่าจบแล้ว นอกจากนั้นวีซ่าของออสเตรเลีย ไม่ได้พิมพ์สั้นๆลงไปในเล่มพาสปอร์ต แต่เขาส่งเป็นอีเมลมาให้ ข้อความเต็มหน้ากระดาษ A4 

แล้วใครจะไปเฉลียวใจล่ะครับว่า เจ้าหน้าที่จะพิมพ์ผิดตรงไหน ผู้ขอวีซ่ามีหน้าที่ทำเอกสารของตนเองให้ถูกต้อง และเจ้าหน้าที่ก็ต้องออกเอกสารให้ถูกต้อง…ใช่ไหมครับ

เจ้าหน้าที่การบินไทยบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่จริงๆ คือจะออกบอร์ดดิ้งพาสให้ลูกสาวผมขึ้นเครื่องไม่ได้เลย ซึ่งสำหรับเราก็เป็นเรื่องใหญ่มาก 

เพราะหมายถึงการเดินทางของครอบครัว ที่ได้วางแผนล่วงหน้ามานาน จองที่พักต่างๆไว้หลายแห่ง อาจจะต้องล้มเลิกกันที่สนามบินนี่แหละ

เจ้าหน้าที่การบินไทย บอกว่าเขาจะต้องติดต่อไปยัง สนงตรวจคนเข้าเมือง ที่ประเทศออสเตรเลียอย่างเดียวเท่านั้น ทำอย่างอื่นไม่ได้ และเราต้องนั่งรอคำตอบจากออสเตรเลีย นั่งลุ้นกันทั้งครอบครัว รอที่หน้าเค้าน์เตอร์ข้างๆนั่นแหละ

รออย่างเดียวเลยครับ ทำอะไรอย่างอื่นไม่ได้จริงๆ เหลือเวลารอบอร์ดดิ้งอีก 40 นาทีเท่านั้น ทุกอย่างอยู่ที่ออสเตรเลีย รอว่าเขาจะใช้เวลาค้นเรื่องนานไหม และจะตอบกลับมาเมื่อไร จะทันเวลาขึ้นเครื่องไหม ฯลฯ

โชคยังเข้าข้างเรา เพราะเราได้รับข่าวดีมาเกือบนาทีสุดท้าย และต้องรีบไปขึ้นเครื่องบินทันที!

ที่ผมเล่าเรื่องนี้ ก็เพื่อเป็นบทเรียนสำหรับนักเดินทางครับ เพราะน้องที่เคาน์เตอร์การบินไทยบอกเราว่า ความผิดพลาดแบบนี้ เกิดขึ้นบ่อยมาก และเกิดได้ในการขอวีซ่าจากทุกประเทศ ไม่ว่าประเทศพัฒนาแล้ว หรือกำลังพัฒนา

มันเป็น Human Error ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งไม่ใช่แค่สะกดผิด แต่บางทีก็ลงวันที่คลาดเคลื่อน เช่นพิมพ์วันที่ต่างกันเพียงวันเดียว ก็ทำให้เราเดินทาง ไม่ได้เหมือนกัน 

บทเรียนก็คือ…"มีวีซ่า อย่านึกว่าแน่" ไม่ว่าวีซ่าของประเทศไหนๆ เราต้องตรวจให้รอบคอบทุกรายการ ในทันทีที่ได้มาเลยครับ เพราะต่อให้เจ้าหน้าที่พิมพ์มาผิด แต่ในที่สุดก็กลายเป็นปัญหาของเราอยู่ดี

สุดท้ายอยากจะบอกว่า เวลาเดินทาง อย่าระวังเพียงเรื่องวีซ่าเท่านั้นครับ ต้องดูเรื่องพาสปอร์ตด้วย เพราะถึงมีพาสปอร์ต… ก็จอดเหมือนกัน 

ถ้าไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน!