โบเดกัส โครัล ดูเอโร กระทิงดุกลางมวลบุปผา

โบเดกัส โครัล ดูเอโร กระทิงดุกลางมวลบุปผา

ทำความรู้จัก โบเดกัส โครัล ดูเอโร ไวน์โตโร "กระทิงดุ" จากสเปน! เพิ่งเข้าไทยฉลากดอกไม้สีสันสดใส บ่มจากเถาองุ่นร้อยปีรอดฟิลลอกเซรา พลาดไม่ได้!

ต้นเดือนกรกฎาคม 2568 ข่าวการเสียชีวิตของ ดิโอโก โชตา (Diogo Jota) นักฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกสของสโมสรลิเวอร์พูลในอังกฤษ จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ถนน A52- กิโลเมตร 65 เทศบาลปาลาซิออส เด ซานาเบรีย จังหวัดซาโมรา (Zamora) ทางเหนือของประเทศสเปน เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกอยู่หลายวัน 

จังหวัดซาโมราอยู่ในแคว้น “กาสติลยา อี เลอง” (Castilla y León) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศสเปน และอยู่ห่างจากพรมแดนประเทศโปรตุเกสประมาณ 65 กิโลเมตร มีแหล่งผลิตไวน์ชื่อดังคือ โตโร (Toro) 

เรื่องของ “โตโร” นั้นผมเคยเขียนไปหลายครั้ง และครั้งนี้ก็จำต้องเขียนอีก เพราะได้ชิม ไวน์โตโร ฉลากสีสันสดใสน่ารัก ซึ่งดูผ่อนคลายจากน้ำเนื้อของไวน์โตโรซึ่งบังคับปริมาณแอลกอฮอล์ 15% เป็นไวน์ที่เพิ่งถูกนำเข้ามาเมืองไทยล่าสุดในช่วงกรกฎาคม 2568 นี่เอง 

โบเดกัส โครัล ดูเอโร กระทิงดุกลางมวลบุปผา เขตผลิตไวน์โตโร 

โตโรเป็นดินแดนปลูกองุ่นทำไวน์เก่าแก่มาก เริ่มปลูกองุ่นมาตั้งแต่ก่อนศตวรรษที่ 1 โดยมีแกนหลักคือชาวโรมัน

กระทั่งมาทำกันอย่างจริงจังสมัย พระเจ้าอัลฟองโซ ที่ 9 (Alfonso IX) แห่ง León ที่พระราชทานที่ดินสำหรับปลูกองุ่นจำนวนมากในช่วงศตวรรษที่ 13

หลังจากนั้นจึงส่งไวน์เข้าไปถวายพระองค์ในพระราชวัง ทรงตรัสกับผู้ที่นำไวน์โตโรไปถวายว่า.... "tengo un Toro que me da vino y un León que me lo bebe"

แปลได้ว่า "I have a bull who gives me wine and a lion who drinks it".

โตโรได้รับการประกาศเป็นดีโอ (DO = Denominación de Origen) เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 1987 ปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2004 มีพื้นที่ปลูกองุ่น 5,625 เฮกตาร์ มีเกษตรกรผู้ปลูกองุ่น 1,200 ราย ผู้ผลิตไวน์ประมาณ 40 กว่าราย 

โบเดกัส โครัล ดูเอโร กระทิงดุกลางมวลบุปผา

องุ่นดินตา เด โตโร

องุ่นพันธุ์หลักที่ใช้ทำไวน์แดงคือ ตินตา เด โตโร (Tinta de Toro) ซึ่งเป็นโคลนของเตมปรานิลโย (Tempranillo) องุ่นแดงประจำชาติสเปน รองลงมาเป็นพันธุ์ การ์นาชา (Garnacha) ซึ่งในเขตนี้เรียกว่านาบาร์โร (Navarro) เพราะนำมาจากเขต Navarra ทางเหนือของสเปนในช่วงศตวรรษที่ 15

ส่วนไวน์ขาวใช้องุ่นมาลเบเซีย (Malvasía) และแวร์เดโฆ (Verdejo)

โบเดกัส โครัล ดูเอโร กระทิงดุกลางมวลบุปผา โบเดกัส โครัล ดูเอโร

สำหรับไวน์โตโรที่ผมเพิ่งได้ชิมดังกล่าวเป็นของ โบเดกัส โครัล ดูเอโร (Bodegas Coral Duero) ซึ่งก่อตั้งโดย เฆซุส แฟร์นันเดซ (Jesús Fernández) ชาวโตโรโดยกำเนิด ซึ่งที่ผ่านมาประกอบอาชีพทางการขนส่งทางทะเล อยู่กับทะเลเป็นส่วนใหญ่ จริง ๆ แล้วเขามีความรักและสนใจในไวน์มาโดยตลอด แต่ยังไม่มีโอกาสและไม่พร้อมในหลายประการ

กระทั่งปี 2003 เขาอำลาธุรกิจกลับมาบ้านและซื้อไร่ไวเนอะรีขนาด 30 เฮกตาร์ ในเมืองเปโก (El Pego) เมืองซาโมรา ซึ่งอยู่ในเขตควบคุมการผลิตโตโร (D.O Toro) ไร่นี้มีอายุเก่าแก่ประมาณ 140 ปี เป็นหนึ่งไร่เก่าแก่ของเขตนี้ 

โบเดกัส โครัล ดูเอโร กระทิงดุกลางมวลบุปผา ที่ทำการโบเดกัส โครัล ดูเอโร

โบเดกัส โครัล ดูเอโร เป็นที่รู้จักกันดีคือไวน์รุ่น รอมเปเซดาส (Rompesedas) ซึ่งได้เหรียญทองจากนิตยสาร “Wine and Spirit Awards” ในปี 2008 และในปี  2017 ก็ได้ 93/100 คะแนนจากโรเบิร์ต ปาร์คเกอร์ (Robert Parker) นักวิจารณ์ไวน์ชื่อดัง

เดือนกรกฎาคม 2019 เฆซุส แฟร์นันเดซ ตัดสินใจเกษียณอายุในวัยประมาณ 80 ปี กิจการถูกขายให้กับ GHI Holdings ซึ่งบริหารจัดการมาจนถึงปัจจุบัน

ปรัชญาของ โบเดกัส โครัล ดูเอโร คือ 'ธรรมชาติคือรากฐานของไวน์' การสังเคราะห์แสงนำพาแสงอาทิตย์และน้ำฝนผ่านใบองุ่นสู่ราก น้ำจะถูกกักเก็บลึกลงไปในดิน มอบสารอาหารที่ดีที่สุดให้กับองุ่น ซึ่งสามารถมอบสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ รสชาติของชีวิต ความจริงใจ และสัมผัสแห่งอารมณ์ให้กับชีวิตของผู้คน

โบเดกัส โครัล ดูเอโร กระทิงดุกลางมวลบุปผา องุ่นอายุเก่าแก่

ปัจจุบัน โบเดกัส โครัล ดูเอโร เป็นเจ้าของไร่องุ่นซิงเกิ้ล วินเยิร์ด 4 แห่งคือ Las Parvas, Rompesedas, Salgadero และ Los Lastros แต่ละแห่งใช้พื้นที่เพาะปลูกที่แตกต่างกันเพื่อผลิตไวน์ซิงเกิ้ล วินเยิร์ด 4 ชนิด และไวน์ฉลากที่สอง 1 ชนิด ส่วน R'Sedas ผลิตจากองุ่นอายุน้อย แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของพื้นที่เพาะปลูกอันเป็นเอกลักษณ์ของโตโร

นอกจากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เลวร้ายแล้ว โบเดกัส โครัล ดูเอโร ยังมีเถาองุ่นหายากอายุกว่าร้อยปีบางส่วนที่รอดพ้นจากการระบาดของเพลี้ยฟีฟิลลอกเซรามาอย่างยาวนาน เป็นสมบัติล้ำค่าของโบเดกัส โครัล ดูเอโร

ไวน์โตโรของโบเดกัส โครัล ดูเอโรที่ผมได้ชิมทั้ง 3 รุ่นไล่จากตัวรองไปหาตัวท็อปสุดมีดังนี้ 

โบเดกัส โครัล ดูเอโร กระทิงดุกลางมวลบุปผา

Bodegas Coral Duero Grace’s Harvest – Carnation Toro 2022

โบเดกัส โครัล ดูเอโร เกรซส์ ฮาร์เวสต์ คาร์เนชั่น โตโร 2022 (Bodegas Coral Duero Grace’s Harvest – Carnation Toro 2022) : รุ่นนี้เป็นดอกคาร์เนชั่น เป็นตัวเบสิกเพื่อจะทำความรู้จักกับโตโรและองุ่นที่ใช้ทำ

ทำจากองุ่นตินตา เด โตโร (Tinta de Toro) 100% ซึ่งองุ่นนี้ก็คือโคลนหนึ่งของเตมปรานีลโย (Tempranillo) องุ่นแดงประจำชาติสเปน หลังจากหมักแล้วบ่ม 8 เดือนในถังโอ๊คฝรั่งเศสและอเมริกัน อยากจะรู้ว่าเตมปรานีลโย กับตินตา เด โตโร รสชาติต่างกันอย่างไรต้องหามาชิม

  • สีแดงทับทิม สดใส
  • หอมกลิ่นผลไม้ แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี ดอกไม้แห้ง ดอกกุหลาบ ดอกไวโอเลต เฮิร์ธตี้ สไปซี่เฮิร์บ ยี่หร่า กานพลู ใบชาแห้ง ๆ ใบยาสูบ วานิลลา สโมคกี้
  • ฟูลบอดี้ แอซสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่น จบยาวด้วยผลไม้ เอิร์ธตี้ สไปซี่เฮิร์บ วานิลลา
  • เหมาะกับอาหารประเภทปิ้งย่าง ไก่ หมู แกะ
  • 19/20 คะแนน 

โบเดกัส โครัล ดูเอโร กระทิงดุกลางมวลบุปผา Bodegas Coral Duero Grace’s Harvest – Black Rose Toro 2020

โบเดกัส โครัล ดูเอโร เกรซส์ ฮาร์เวสต์ แบล็คโรส โตโร 2020 (Bodegas Coral Duero Grace’s Harvest – Black Rose Toro 2020) : รุ่นนี้เป็นแบล็คโรสหรือกุหลาบดำ เป็นรุ่นสูงกว่ารุ่นคาร์เนชั่น (Carnation) เป็นรุ่นขายดีในฮ่องกงและบ้านเราขายถูกกว่าหลายร้อยบาท

ทำจากองุ่นตินตา เด โตโร (Tinta de Toro) 100% ซึ่งองุ่นนี้ก็คือโคลนหนึ่งของเตมปรานีลโย (Tempranillo) องุ่นแดงประจำชาติสเปน หลังจากผ่านกระบวนการหมักแล้วจึงบ่มในถังโอ๊คฝรั่งเศสและอเมริกัน 12 เดือน

  • สีแดงทับทิมเข้ม สดใส
  • หอมกลิ่นผลไม้ แบล็คเชอร์รี ราสพ์เบอร์รี บลูเบอร์รี แบล็คเบอร์รี ดอกไวโอเลต มิเนอรัล ช็อกโกแลต สไปซี่เฮิร์บ เปปเปอร์ อบเชย ใบชาแห้ง  ใบยาสูบ วานิลลา สโมคกี้โอ๊ค
  • ฟูลบอดี้ แอซสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่นนุ่มหวาน จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซี่เฮิร์บ วานิลลา โอ๊คหอมหวาน
  • เหมาะกับอาหารประเภทปิ้งย่าง เนื้อ ไก่ หมู แกะ
  • 19/20 คะแนน 

โบเดกัส โครัล ดูเอโร กระทิงดุกลางมวลบุปผา

Bodegas Coral Duero Grace’s Harvest – Peony Toro 2020

โบเดกัส โครัล ดูเอโร เกรซส์ ฮาร์เวสต์ พีโอนี โตโร 2020 (Bodegas Coral Duero Grace’s Harvest – Peony Toro 2020) รุ่นนี้ดอกพีโอนี หรือดอกโบตั๋น หรือชื่อในภาษาไทยว่า "นางพญานิรมล" เป็นรุ่นสูงสุด โดยรองลงไปคือแบล็คโรส และคาร์เนชั่น  เป็นอีกรุ่นหนึ่งขายดีในฮ่องกงและบ้านเราขายถูกกว่าหลายร้อยบาทเช่นกัน

ทำจากองุ่นตินตา เด โตโร (Tinta de Toro) 100% ซึ่งองุ่นนี้ก็คือโคลนหนึ่งของเตมปรานีลโย (Tempranillo) องุ่นแดงประจำชาติสเปน องุ่นพวกนี้เก็บด้วยมือ เก็บมาแล้วใส่ภาชนะควบคุมอุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียสมาถึงห้องหมัก หลังจากผ่านกระบวนการหมักแล้วจึงบ่ม 18 เดือนในถังโอ๊คใหม่ โดย 90% ในโอ๊คฝรั่งเศสและ 10% ในโอ๊คอเมริกัน บ่มอีก 36 เดือนในขวด ตัวนี้เกรดเป็นเรแซร์บา (Reserva)

  • สีแดงทับทิมเข้มเกือบจะโกเมน สดใส
  • หอมกลิ่นผลไม้สุกปนแยมผลไม้ แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี ราสพ์เบอร์รี ยูคาลิปตัส ดอกไวโอเลต มิเนอรัล บัลซามิก มอคคา สไปซี่เฮิร์บ เปปเปอร์ อบเชย ซีดาร์ ใบยาสูบ วานิลลา  สโมคกี้โอ๊ค
  • ฟูลบอดี้ แอซสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่นนุ่ม จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซี่เฮิร์บ วานิลลา โอ๊คหอมหวาน
  • เหมาะกับอาหารประเภทปิ้งย่าง เนื้อ ไก่ หมู แกะ ที่มีซอสหรือน้ำจิ้มแบบไทย ๆ เป็นรุ่นที่ควรชิมเป็นอย่างยิ่ง
  • 19.5/20 คะแนน 

นั่นเป็น 3 ไวน์ฉลากดอกไม้สีสันฉูดฉาด สดใส น่ารักน่าชัง ชิมแล้วเคลิบเคลิ้ม แต่ต้องไม่ลืมว่าไวน์โตโรคือ “Most promising wine region,black,stout,ripe and powerful”

ท่านที่สนใจใคร่ชิมสอบถามที่ผู้นำเข้า The Wine Boutique by Rojratchai Cellar โทร.09 3860 8627