“โตโร” ไวน์สเปนพลังกระทิง

“โตโร” ไวน์สเปนพลังกระทิง

รู้จัก "โตโร" ภูมิภาคการผลิตไวน์สเปนที่มีชื่อเสียงในบริเวณใกล้เคียงจุด "ดีโอโก โชตา" เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์

KEY

POINTS

  • ไวน์โตโร (Toro) จากประเทศสเปน มีความหมายว่า “วัวกระทิง” สื่อถึงรสชาติไวน์ที่หนักแน่น ทรงพลัง และเข้มแข็ง
  • ผลิตในเขตควบคุมการผลิตไวน์ (DO) โตโร แคว้นกาสติลยา อี เลอง โดยใช้องุ่นพันธุ์หลักคือ “ตินตา เด โตโร” ซึ่งเป็นโคลนของเตมปรานิลโย
  • สภาพอากาศและพื้นที่เพาะปลูกส่งผลให้ไวน์แดงโตโรมีแอลกอฮอล์สูงตามธรรมชาติ ซึ่งอาจสูงถึง 16-17%
  • ไวน์โตโรมีประวัติศาสตร์ยาวนาน เคยถูกส่งไปทดแทนไวน์ฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษที่ 19 ได้รับการยอมรับในคุณภาพจากนักวิจารณ์ไวน์ระดับโลก

จากกรณี ดีโอโก โชตา (Diogo Jota) นักฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกสของสโมสรลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่ถนน A52- กิโลเมตร 65 เทศบาลปาลาซิออส เด ซานาเบรีย จังหวัดซาโมรา ทางเหนือของประเทศสเปน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก 

ถนนเส้นนี้และบริเวณที่เกิดเหตุผมเคยผ่านไปมาแล้ว ขออนุญาตเล่าสู่กันฟัง ไม่ใช่เรื่องความสูญเสีย แต่เป็นเรื่องของ ไวน์ (Wine) เพราะพื้นที่รอบ ๆ นี้เป็นหนึ่งในเขตผลิตไวน์ชั้นเยี่ยมของประเทศสเปน และมีขายในเมืองไทยมากขึ้น จากประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วไม่มีเลย !

“โตโร” ไวน์สเปนพลังกระทิง ดีโอโก โชตา

จังหวัดซาโมรา (Zamora) อยู่ในแคว้นกาสติลยา อี เลอง (Castilla y León) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศสเปน และอยู่ห่างจากพรมแดนประเทศโปรตุเกสประมาณ 65 กิโลเมตร

นักฟุตบอลคนดังกล่าวก็ได้ขับรถยนต์หรูมาจากโปรตุเกสข้ามมาสเปน เพื่อจะไปลงเรือเดินทางไปรายงานตัวกับสโมสรลิเวอร์พูลในอังกฤษ

“โตโร” ไวน์สเปนพลังกระทิง เขตผลิตไวน์โตโร

จังหวัดซาโมรามีเขตผลิตไวน์ชื่อดังคือ โตโร (Toro) สำหรับคนไทยอาจจะรู้จักกันน้อย แต่นักท่องเที่ยวแถวยุโรปจะรู้จักกันดีในฐานะแหล่งท่องเที่ยวโบราณ และแหล่งผลิตไวน์ชั้นเยี่ยม  

ผมไปโตโรครั้งแรกเมื่อปี 2011 สมาคมผู้ผลิตไวน์โตโรนำไวน์จากผู้ผลิตต่าง ๆ 20 กว่าราย ๆ ละ 5 - 10 รุ่น รวมแล้วกว่า 200 ตัวมาให้ชิม จัดที่โรงแรมฮวน 2 (Hotel Juan II) เป็นโรงแรมเก่าแก่อายุนับพันปี ตั้งอยู่บนเขาสูง สามารถมองลงมาเห็นแม่น้ำดูเอโร (Duero) เส้นเลือดสำคัญของการผลิตไวน์ในเขตนี้ได้อย่างชัดเจน แม่น้ำสายนี้เชื่อมต่อไปยังโปรตุเกส

“โตโร” ไวน์สเปนพลังกระทิง วัวกระทิงเก่าแก่ใจกลางเมือง

โตโร หมายถึง วัวกระทิง (Bull) จึงมีสัญลักษณ์เป็นรูปวัวกระทิง ซึ่งที่มาของชื่อไม่ปรากฏแน่ชัดว่ามาจากไหน แต่ชาวไวน์มีการสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากรสชาติของไวน์ที่หนักแน่น ทรงพลัง เข้มแข็ง ฯลฯ คล้ายอุปนิสัยของวัวกระทิงอะไรประมาณนั้น

ขณะที่สัญลักษณ์ของแคว้นกาสติลยา อี เลอง (Castilla y León) คือสิงโต จากความหมายของแคว้นคือ “ปราสาทและสิงโต” (Castilla = ประสาท, León = สิงโต)

“โตโร” ไวน์สเปนพลังกระทิง มุมหนึ่งในโตโร

โตโรเป็นดินแดนปลูกองุ่นทำไวน์เก่าแก่มาก เริ่มปลูกองุ่นมาตั้งแต่ก่อนศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช โดยมีแกนหลักคือชาวโรมัน

กระทั่งทำกันอย่างจริงจังสมัยพระเจ้าอัลฟองโซ ที่ 9 (Alfonso IX) แห่ง León ที่พระราชทานที่ดินสำหรับปลูกองุ่นจำนวนมากในช่วงศตวรรษที่ 13 โดยมีการส่งไวน์เข้าไปถวายในพระราชวัง ซึ่งพระองค์ได้กล่าวว่า "tengo un Toro que me da vino y un León que me lo bebe"

แปลได้ว่า "I have a bull who gives me wine and a lion who drinks it"

“โตโร” ไวน์สเปนพลังกระทิง

ต้นองุ่นตินตา เด โตโร อายุมาก

ปลายศตวรรษที่ 19 องุ่นในยุโรปโดยเฉพาะในฝรั่งเศสถูกแมลงฟีลล็อกซีรา (Phylloxera) ทำลายจนเกือบราบเรียบ ไวน์โตโรจึงถูกส่งไปทดแทนไวน์ฝรั่งเศส คอไวน์ยุโรปจึงประจักษ์ว่าแท้ที่จริงแล้วสเปนยังมีไวน์เยี่ยม ๆ อีกเยอะ...

โตโรได้รับการประกาศเป็นเขตควบคุมการผลิตไวน์หรือดีโอ (DO = Denominación de Origen) เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 1987 ปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2004 มีพื้นที่ปลูกองุ่น 5,625 เฮกตาร์ มีเกษตรกรผู้ปลูกองุ่น 1,200 ราย ผู้ผลิตไวน์ประมาณ 40 กว่าราย 

องุ่นพันธุ์หลักที่ใช้ทำไวน์แดงคือ ตินตา เด โตโร (Tinta de Toro) ซึ่งเป็นโคลนของเตมปรานิลโย (Tempranillo) รองลงมาเป็นพันธุ์การ์นาชา (Garnacha) ซึ่งในเขตนี้เรียกว่านาบาร์โร (Navarro) เพราะนำมาจากเขต Navarra ทางเหนือของสเปนในช่วงศตวรรษที่ 15 ส่วนไวน์ขาวใช้องุ่นมาลเบเซีย (Malvasía) และแวร์เดโฆ (Verdejo)

“โตโร” ไวน์สเปนพลังกระทิง หนึ่งในไร่องุ่นในโตโร

ไร่องุ่นในโตโรส่วนใหญ่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 600 - 800 เมตร อุณหภูมิประมาณ –11°C - 36°C สภาพอากาศได้อิทธิพลมาจากมหาสมุทรแอตแลนติกทั้งจากทิศเหนือและตะวันตก อีกส่วนหนึ่งมาจากแม่น้ำดูเอโร (Duero River)

ขณะที่อุณหภูมิหน้าร้อนโดยเฉพาะกลางวันค่อนข้างร้อน มีส่วนทำให้ไวน์แดงโตโรมีแอลกอฮอล์สูงถึง 16-17 % ซึ่งตามกฏหมายของท้องถิ่นโตโร (Consejo Regulador de Toro) กำหนดให้ไวน์แดงต้องมีแอลกอฮอล์สูงกว่า 15% แต่ผู้ผลิตส่วนใหญ่จะพยายามทำให้แอลกอฮอล์อยู่ที่ 13.5 % เพื่อดื่มง่ายขึ้นและบาลานซ์

ไวน์แดงที่ระบุ Toro ต้องผลิตจากองุ่นตินตา เด โตโร 100 % แต่ก็มีบางรายผสมองุ่นพันธุ์อื่นด้วย เช่น แวร์เดโฮ (Verdejo) การ์นาชา (Garnacha) หรือแม้กระทั่งกาแบร์กเนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon)

“โตโร” ไวน์สเปนพลังกระทิง องุ่นตินตา เด โตโร

ตามปัจจัยทางสภาพภูมิอากาศ ตินตา เดอ โตโร สามารถทำ ยังไวน์ (Young Wine) ยอดเยี่ยมมาก ขณะที่ไวน์แดง 1 ใน 4 ถูกนำไปบ่มโอ๊คที่ต้องอยู่ภายใต้มาตรฐานของรัฐบาลคือ

  1. ยังไวน์หรือไวน์ใหม่ (Young Red) ควรดื่มในปีที่ผลิต 
  2. โรเบล (Roble) เป็นไวน์ใหม่ (Young Red) ที่ต้องบ่ม 3-6 เดือน สามารถเบลนด์องุ่นการ์นาชา (Garnacha) ได้เล็กน้อย
  3. กริอันซา (Crianza) ต้องบ่มอย่างน้อย 2 ปีในจำนวนนี้ 6 เดือนต้องบ่มในถังโอ๊ค 
  4. เรแซร์บา (Reserva) ต้องบ่มอย่างน้อย 3 ปีในจำนวนนี้ 1 ปีต้องบ่มในถังโอ๊ค 
  5. กราน เรแซร์บา (Gran Reserva) ต้องบ่มอย่างน้อย 5 ปี ในจำนวนนี้ 2 ปีต้องบ่มในถังโอ๊ค 

ส่วนไวน์โรเซหรือโรซาโด (Rosado) ต้องทำจากองุ่นตินตา เด โตโร 50% และการ์นาชา 50% และ ไวน์ขาวต้องทำจากองุ่นแวร์เดโฆ (Verdejo) 100% หรือมาลวาเซีย (Malvasía) 100%

“โตโร” ไวน์สเปนพลังกระทิง เตโซ ลา มอนฆา

เตโซ ลา มอนฆา (Teso La Monja) เป็น 1 ใน 10 ไวน์ที่ได้รับการจัดอันดับว่ามีราคาแพงที่สุดของสเปนและของโตโร ก่อตั้งในปี 2007 โดยตระกูล Eguren คือ Marcos และ Miquel Eguren ใช้ความพยายามกว่า 20 ปีในการดึงศักยภาพของแตร์รัวเขตโตโรออกมาให้ชาวโลกได้รับรู้รส 

Teso La Monja ทำจากองุ่นตินตา เด โตโร อายุมากนับร้อยปี ที่รอดพ้นจากแมลงร้ายฟีลล็อกซีรา ผลิตเพียง 800 ขวด ราคาขวดละประมาณ 1,000 เหรียญสหรัฐ นอกจากนั้นยังมีไวน์ในเครืออีก 3-4 รุ่น ซึ่งได้คะแนนสูง ๆ ทั้งสิ้น

ผลงานความสำเร็จชิ้นแรกของพวกเขาเกิดในปี 1998 เมื่อไวน์โบเดกาส นูมันเธีย แตร์เมส (Bodega Numanthia Termes) ได้ 100 คะแนนเต็มจากนิตยสาร Wine Advocate 2004 ของโรเบิร์ต ปาร์คเกอร์ (Robert Parker)

“โตโร” ไวน์สเปนพลังกระทิง

ปินเตีย โตโร 2016

สุดท้ายมาชิมไวน์โตโรที่มีขายในบ้านเราสัก 2-3 ยี่ห้อ....

โบเดกาส อี วีเยโดส ปินเตีย โตโร 2016 (Bodegas y Vinedos Pintia Toro 2016) : ไวน์ในเครือเบกา ซิซิเลีย (Vega Sicilia) อภิมหาไวน์แพงแห่งริเบรา เดล ดูเอโร (Ribera del Duero) ทางเหนือของสเปน ไปลงทุนในโตโร ที่มีอาณาเขตติดกัน 

  • ทำจากองุ่น ตินตา เด โตโร 100 % บ่ม 12 เดือนในโอคฝรั่งเศสและอเมริกันโอ๊ค จากนั้นบ่มอีก 36 เดือนในขวด ผลิตขวดธรรมดา 230,032 ขวด แม็กนั่มอีก 6,517 ขวด
  • สีแดงโกเมน เข้มปึ๊ก สดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก แบล็คเบอร์รี บลูเบอร์รี มัลเบอร์รี และแบล็คเชอร์รี เอิร์ธตี้ ดอกลาเวนเดอร์ ซีดาร์ สโมคกี้โอ๊ค ใบยาสูบ สไปซีเฮิร์บแห้ง ๆ อบเชย มินต์ วานิลลา
  • ครีมมี ฟูลบอดี้ แอซสิดปานกลางและกำลังกลมกล่อม แทนนินแน่นแต่นุ่มเนียนพลิ้ว จบยาวด้วยผลไม้สุก เอิร์ธตี้ วานิลลา สไปซีเฮิร์บชุ่มคอ กำลังดื่มพีก เป็นอีกหนึ่งในไวน์สเปนที่ต้องชิมสักครั้งในชีวิต
  • 19.5/20 คะแนน

“โตโร” ไวน์สเปนพลังกระทิง

โบเดกาส ซาน โรมัน 2017

โบเดกาส ซาน โรมัน โตโร 2017 (Bodegas San Román Toro  2017) : เจ้าของไวน์ตัวนี้ไม่ธรรมดาเขาคือ มาเรียโน การ์เซีย (Mariano García) เคยเป็น Technical Director ทำหน้าที่ไวน์เมกเกอร์อยู่กับเบกา ซิซิเลีย  สุดยอดไวน์สเปนถึง 30 ปี ก่อนจะมาซื้อไวเนอะรีและทำไวน์แบบครอบครัวเมื่อปี 1998

  • สีแดงโกเมนเข้ม สดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น พลัม แบล็คเชอร์รี บลูเบอร์รี และลูกเกด ฟรุตเค้ก ดอกไม้ โกโก้ วานิลลา มอคคา สโมคกี้โอ๊ค นัตตี้ หนังสัตว์ใหม่ ๆ สไปซี่เฮิร์บ อบเชย ชะเอมเทศ เอิร์ธตี้
  • แอซสิดสดชื่น แทนนินนุ่มเนียนจบยาวด้วยผลไม้สุก สไปซี่เฮิร์บ วานิลลา กำลังสุกพร้อมดื่ม เป็นอีกหนึ่งในไวน์สเปนที่ควรชิมสักครั้ง
  • 19.25/20 คะแนน

นักเขียนเรื่องไวน์ชาวสเปนเชื่อกันว่า ไวน์เขตโตโร เป็นไวน์สเปนที่ “most promising wine region, black, stout, ripe and powerful” แข็งแรง บึกบึน หนักแน่น เต็มไปด้วยพละกำลัง เหมือนวัวกระทิง..

จริงหรือไม่เป็นหน้าที่ของท่านต้องหามาชิมพิสูจน์ !