เป้าปีใหม่มักจะล้มเหลวเพราะ...

ในช่วงปลายปีนี้ หนึ่งในสามของคนทั่วโลกจะตั้งเป้าหมายสำหรับปีใหม่ที่จะมาถึง หรือถ้านึกง่ายๆ คือทุก 3 คนที่เราพบจะมีอย่างน้อย 1 คนที่ตั้งเป้าหมายปีใหม่

อย่างไรก็ดี ภายในเดือนก.พ.เป้าหมายเหล่านี้ก็มักจะเลือนหายไป และสุดท้ายเมื่อถึงสิ้นปีมีเพียงแค่ 10% ของเป้าที่ตั้งไว้เท่านั้นที่บรรลุเป้า ทำให้การตั้งเป้าปีใหม่เป็นเสมือนประเพณีปฏิบัติที่ทำกันมาทุกทีมากกว่าตั้งเป้าเพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงและสิ่งที่ดีขึ้น

ในต่างประเทศได้ศึกษากันอย่างแพร่หลายว่าทำไมเป้าที่ตั้งในช่วงปีใหม่จึงมักจะไม่บรรลุ และพบว่าโดยพื้นฐานแล้วปัญหาและอุปสรรคก็คล้ายๆ กับการตั้งเป้าหมายในระดับองค์กร ดังนั้น แนวทางแก้ไขก็สามารถนำแนวคิดในการบริหารจัดการมาใช้กับการตั้งเป้าปีใหม่ได้เช่นเดียวกัน

จากงานวิจัยต่างๆ พอสรุปได้ว่าสาเหตุที่ทำให้การตั้งเป้าปีใหม่ล้มเหลวเกิดขึ้นจาก

1.การตั้งเป้าหมายที่เป็นไม่ได้ หรือ Unrealistic Goals มีวิจัยหนึ่งที่พบว่า 35% ของสาเหตุที่เป้าหมายปีใหม่ไม่บรรลุเกิดเนื่องจากเป้าหมายที่ยากเกินไปหรือจับต้องไม่ได้

ตัวอย่างของเป้าที่จับต้องไม่ได้ เช่น “มีความเชี่ยวชาญในภาษาใหม่” หรือ “ไม่กินน้ำตาล” ซึ่งเป็นเป้าที่เลื่อนลอย จับต้องไม่ได้ และท้าทายเกินไป ซึ่งเป้าลักษณะเหล่านี้นำไปสู่ความหมดกำลังใจที่จะทำต่อ

2.การขาดระบบในการติดตาม งานวิจัยพบว่า 33% ของเป้าปีใหม่ไม่บรรลุเนื่องจากขาดระบบในการติดตามความคืบหน้า ซึ่งก็สอดคล้องกับหลักการพื้นฐานในการประเมินผลที่รู้กันมานานแล้วว่า “If you can’t measured, you can’t managed”

เช่น ถ้าตั้งเป้าปีใหม่ว่า “ทำตัวให้แข็งแรงขึ้น” หรือ “ออมเงินให้มากขึ้น” แต่ขาดระบบในการวัดและติดตามผลที่ชัดเจน เป้าดังกล่าวก็ยากที่จะบรรลุ

3.การลืมหรือสูญเสียความสนใจในเป้าที่ตั้งไว้ ซึ่งพบว่า 23% ของคนจะลืมหรือสูญเสียความสนใจต่อเป้าปีใหม่ที่ตั้งไว้ หลังจากความตื่นเต้นในช่วงปีใหม่จางหายไป งานประจำก็เริ่มเข้ามาและเป้าปีใหม่ที่ตั้งเอาไว้ก็เริ่มถูกลืมเลือนไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป้าที่ตั้งไว้ ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตหรืองานประจำ ยิ่งถ้ามีเป้าปีใหม่ที่มากเกินไปก็ทำให้สูญเสียความมุ่งเน้น จากงานวิจัยพบว่าหนึ่งในสิบของคนทั่วไประบุว่าเป้าปีใหม่ไม่บรรลุเนื่องจากตั้งเป้าหลายข้อเกินไป

4.การขาดแรงจูงใจอย่างแท้จริง เป้าปีใหม่ที่ตั้งไว้ไม่ได้มาจากความต้องการจริงๆ แต่อาจจะได้รับแรงกดดันทางสังคมที่จะต้องตั้งเป้าในช่วงปีใหม่มากกว่า เป้าปีใหม่จำนวนไม่น้อยถูกตั้งขึ้นมาเนื่องจากเป็นประเพณี มากกว่าความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง

และเมื่อขาดแรงจูงใจ ความกระตือรือร้นและความสนใจต่อเป้าหมายดังกล่าวก็จะหายไปอย่างง่ายดาย

5.การขาดแผนงานมารองรับ เป้าปีใหม่จำนวนไม่น้อยเป็นเสมือนความหวังหรือความฝันมากกว่าเป้าที่มีแผนงานมารองรับ เป้าปีใหม่จำนวนไม่น้อยที่ขาดแผนงานมารองรับ เป็นเป้าที่ไร้แผนที่จะทำเพื่อให้เป้าดังกล่าวบรรลุ

ทำให้เป้าปีใหม่เป็นเพียงแค่ความฝันในช่วงเวลาหนึ่งที่ขาดแผน ขาดระบบติดตามและประเมินผล

ปัจจุบันหลายคนเริ่มปรับแนวคิดทางการบริหารองค์กรมาใช้กับการตั้งเป้าปีใหม่ เช่น การนำ OKR (Objectives and Key Results) มาปรับใช้กับการตั้งเป้าปีใหม่

เป้าปีใหม่ควรจะต้องวัดได้และมีระบบในการติดตามความคืบหน้าที่ชัดเจน เป้าปีใหม่มักจะเป็นเป้าใหญ่สำหรับทั้งปี ซึ่งก็ควรจะถูกแตกออกมาให้ชัดเจนและสามารถปฏิบัติได้ เช่น แทนที่จะตั้งเป้าว่า “อยากจะแข็งแรงขึ้น” ก็ควรจะแตกออกมาเป็น “ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 ครั้ง” เป็นต้น

ประเด็นสำคัญคือต้องระลึกไว้ว่าเป้าปีใหม่ ไม่ควรจะเป็นการทำเพราะเป็นประเพณีหรือคนอื่นทำ แต่เป็นเพราะตนเองต้องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวควรจะต้องมีระบบเข้ามารองรับเพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้า ดังนั้น ถ้ามีระบบที่ดีเป้าปีใหม่ก็ไม่ยากที่จะบรรลุ และสามารถนำไปสู่ความเป็น New Year, New Me ได้.