It’s Time for (Quality) Mid-Caps
บริษัทในกลุ่มหุ้นขนาดกลาง ควรเน้นเลือกบริษัทที่มีคุณภาพสูงและมีศักยภาพที่จะเติบโตในระยะยาว บริษัทดังกล่าวควรอยู่ในช่วงการเติบโตสูงก่อนที่จะเข้าสู่ระยะการเติบโตสูงสุด นอกจากนี้ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความแข็งแกร่งของงบดุล กำไรสุทธิ และการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS) ก็ควรนำมาพิจารณาด้วย
ภาพการลงทุนในเดือนกรกฎาคมที่เพิ่งผ่านไปถูกขับเคลื่อนด้วย 1.ตัวเลขเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประชุมเฟดครั้งล่าสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมาเฟดส่งสัญญานพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน 2. ตลาดหุ้นเริ่มมีการปรับตัวลงในระหว่างเดือนจากการขายทำกำไรของหุ้นขนาดใหญ่ก่อนการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 และเปลี่ยนกลุ่ม Rotation ไปในกลุ่มหุ้นขนาดกลางขนาดเล็ก รวมถึงความกังวลต่อหุ้นกลุ่ม AI ที่การเติบโตอาจจะเริ่มชะลอลงและมีคำถามมากขึ้นต่อรายได้หรือกำไรที่เกิดจากด้าน AI ที่มีการลงทุนอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
3.ความไม่แน่นอนในเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีหลากหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีและผู้ลงสมัครตัวแทนพรรครีพับลิคกันนายโดนัลด์ ทรัมป์ และการประกาศถอนตัวของประธานาธิบดีโจ ไบเดน 4.การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น 0.15% มาอยู่ที่ระดับ 0.25% จากปัจจัยข้างต้นส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุโดยพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ10 ปี ปัจจุบันอัตราผลตอบแทนหรือยีลด์ลงมาอยู่ที่ 4.05% จากระดับ 4.5% ดัชนีหุ้นสหรัฐ S&P500 กลับมาฟื้นตัวช่วงสัปดาห์สุดท้ายทำให้กลับมาปิดบวก 0.9%
ที่น่าสนใจคือ ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขนาดกลางและเล็ก ดัชนี Russell 2000 ปรับตัวขึ้น 11.27% สวนทางดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหรือ Nasdaq ที่ปรับลดลง 1.54% (ที่มา Bloomberg ณ วันที่ 31 ก.ค. 2024) การเคลื่อนไหวข้างต้นสอดคล้องกับมุมมองการลงทุนครึ่งปีหลังที่เราได้นำเสนอในเดือนที่ผ่านมาที่เรามองว่าในครึ่งปีหลังหุ้นขนาดกลางมีโอกาสในการปรับตัวขึ้น แต่เรามองว่าควรเน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางที่มีคุณภาพดีมากกว่าดัชนีในภาพรวมซึ่งจะมีบริษัทที่ไม่มีกำไรอยู่เป็นจำนวนมาก
เมื่อเลือกบริษัทในกลุ่มหุ้นขนาดกลาง ควรเน้นเลือกบริษัทที่มีคุณภาพสูงและมีศักยภาพที่จะเติบโตในระยะยาว บริษัทดังกล่าวควรอยู่ในช่วงการเติบโตสูงก่อนที่จะเข้าสู่ระยะการเติบโตสูงสุด นอกจากนี้ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความแข็งแกร่งของงบดุล กำไรสุทธิ และการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS) ก็ควรนำมาพิจารณาด้วย ตัวอย่างเช่น ดัชนี S&P Midcap 400 Index ได้ให้ผลตอบแทนรวมมากกว่า 60% ในช่วงห้าปีระหว่างเดือนมิถุนายน 2019 ถึงมิถุนายน 2024
ขณะที่ดัชนีคุณภาพ S&P Midcap 400 Quality Index ให้ผลตอบแทนเกือบสองเท่าในช่วงเวลาเดียวกัน โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 118% น่าสนใจว่าผลตอบแทนของดัชนี S&P Midcap 400 Quality Index ยังเหนือกว่าดัชนี S&P 500 (+101%) ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่าช่วงเวลาที่อ้างอิงนี้ครอบคลุมในหลากหลายเหตุการณ์เช่นในช่วงโควิด-19 ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และช่วงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ล่าสุดโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
โดยสรุป พอร์ตโฟลิโอที่มีหุ้นขนาดกลางคุณภาพสูงสามารถเป็นอีกทางเลือกการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ปรับความเสี่ยงที่ดีและมีประโยชน์ในเรื่องการกระจายการลงทุน หุ้นขนาดกลางเหล่านี้มีโอกาสที่หลากหลายอีกมากที่นักลงทุนหรือนักวิเคราะห์อาจมองข้ามซึ่งนักลงทุนสามารถลงทุนเพิ่มเติมในพอร์ตนอกเหนือจากหุ้นขนาดใหญ่ได้
ในด้านตลาดหุ้นยุโรปก็มีความผันผวนที่เกิดขึ้นจากด้านการเมืองในฝรั่งเศส นับตั้งแต่ต้นปีดัชนีตลาดหุ้นยุโรปยังตามหลังหุ้นสหรัฐฯ อยู่เกือบ 10% (ดัชนี Stoxx Europe 600 เทียบกับดัชนีS&P 500) เนื่องจากการผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในสหรัฐฯ
ทั้งนี้แม้เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นสหรัฐฯ แต่ด้วยมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นของวัฏจักรเศรษฐกิจโลกทำให้เรามองเห็นเหตุผลที่จะกระจายการลงทุนไปยังตลาดหุ้นยุโรปที่มีความเป็นวัฏจักรมากกว่าตลาดสหรัฐฯ มากขึ้น ตลาดหุ้นยุโรปมีการกระจายการลงทุนมากกว่าและยังมีระดับมูลค่าที่ต่ำกว่า ซึ่งอาจเกิดจากความอ่อนไหวต่อความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและนโยบายทางการเมืองที่สูงกว่า ซึ่งปัจจุบันมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในหลายประเทศยุโรป ความไม่แน่นอนทางการเมืองได้กดดันตลาดหุ้น
แม้ว่าเศรษฐกิจจะมีทิศทางที่ดีขึ้นก็ตาม ซึ่งเราประเมินว่าความเสี่ยงเหล่านี้ได้สะท้อนเข้าไปในราคาหุ้นแล้วทำให้เมื่อสถานการณ์กลับมาปกติหรือไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ตลาดคิดก็มีโอกาสที่ตลาดหุ้นจะฟื้นตัวกลับมาได้ ทั้งนี้เราคาดว่าการประกาศผลประกอบการณ์ไตรมาส 2 จะมีโอกาสสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้
ทั้งนี้ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยงและขอคำแนะนำจากผู้แนะนำการลงทุนของท่านเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน ข้อมูลนี้จัดทำโดยอาศัยที่มาจากแหล่งข้อมูลสาธารณะซึ่งปรากฎขณะจัดทำ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปแต่ละขณะ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน