เตรียมตัวก่อนเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศ

ก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีเงินฝาก FCD นอกจากในส่วนของผลตอบแทนแล้วนั้น นักลงทุนควรทำการเปรียบเทียบ ความต่างของราคาซื้อขายสกุลเงิน , ค่าธรรมเนียมต่างๆ ของแต่ละธนาคารเสียก่อน และ ต้องไม่ลืมวิเคราะห์ถึงทิศทางของค่าเงินบาทก่อนลงทุน เพราะปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อผลตอบแทนจากการลงทุน
KEY
POINTS
- ศึกษาประเภทบัญชีที่มีให้เลือก 3 รูปแบบ (ออมทรัพย์, ประจำ, กระแสรายวัน) และอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน โดยบัญชีฝากประจำมักให้ดอกเบี้ยสูงที่สุด
- ตรวจสอบเงื่อนไขการฝาก-ถอนเงิน ซึ่งโดยทั่วไปต้องทำผ่านการแลกเปลี่ยนเงินบาทที่ธนาคาร และถอนออกมาเป็นเงินบาทเท่านั้น
- พิจารณาอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคาร ซึ่งมีส่วนต่างของราคาซื้อ-ขาย (Spread) ที่ส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนโดยตรง
- ตรวจสอบค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าธรรมเนียมการโอน, การถอน, หรือค่าปรับกรณีถอนก่อนกำหนด
- ทำความเข้าใจเรื่องภาษี โดยดอกเบี้ยที่ได้รับจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15%
- ประเมินความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เพราะหากค่าเงินบาทแข็งขึ้นอาจทำให้ผลตอบแทนที่แท้จริงลดลงหรือขาดทุนได้
ในช่วงที่ผ่านมา มีคำถามถามเข้ามาหาผมเป็นจำนวนมากเลยครับว่า เห็นหลายๆ ธนาคารเปิดรับฝากเงินในรูปแบบ สกุลเงินดอลลาร์ โดยให้ดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง (3%-5% ต่อปี) จึงอยากทราบว่า เงินฝากประเภทนี้เป็นอย่างไร มีความเสี่ยงอะไรบ้าง และน่าสนใจหรือไม่ วันนี้ผมจะขอให้คุณปิติพงษ์ รุ่งเรืองวุฒิกุล CFP® ผู้เชี่ยวชาญในด้านการวางแผนการเงินของบริษัท Wealth Creation International Investment Advisory Security Co., Ltd. จะมาเล่าเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกันครับ
สำหรับ “บัญชีเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศ” หรือ “Foreign Currency Deposit” หรือ “เงินฝาก FCD” นั้นก็คือบัญชีเงินฝากที่จะเก็บเงินฝากของเราในรูปแบบของสกุลเงินต่างประเทศ โดยผู้ฝากสามารถเลือกได้ครับ ว่าต้องเปิดบัญชีเพื่อกฝากเงินในสกุลเงินอะไร โดยบัญชีนี้ ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีได้ ที่ธนาคารพาณิชย์ทั่วไป โดยเงื่อนไขในการเปิดบัญชี อาจจะแตกต่างกันไปตาม แต่ละธนาคาร โดยมีข้อสังเกตและพิจารณาดังนี้ครับ
ประเภทของบัญชี และ อัตราดอกเบี้ย : สำหรับบัญชีเงินฝาก FCD จะมีรูปแบบบัญชีด้วยกัน 3 รูปแบบได้ แก่ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ , บัญชีเงินฝากประจำ และบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน โดยอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายสำหรับบัญชีเงินฝาก FCD ประเภทเงินฝากประจำ จะสูงกว่า บัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์ ส่วนบัญชีเงินฝากกระแสรายวันนั้นจะไม่มีการจ่ายดอกเบี้ย ทั้งนี้ประเภทของบัญชีที่สามารถเปิดได้ จะแตกต่างกันไปตามแต่ละธนาคาร
การฝากเงินเข้าบัญชี : โดยส่วนมากแล้ว การนำเงินเข้าบัญชีเงินฝาก FCD จะต้องทำทำได้โดยการนำเงิน สกุลบาท ไปฝากที่ธนาคารที่เปิดบัญชีไว้ เพื่อให้ธนาคารแปลงเป็นเงินสกุลต่างประเทศ ของบัญชีนั้นๆ อีกที่ ลูกค้า ไม่สามารถที่จะนำเงินสกุลต่างประเทศไปฝากเข้าบัญชีได้ โดยตรง
การถอนเงินออกจากบัญชี : เช่นเดียวกับการนำเงินเข้าบัญชี การที่จะนำเงินออกจากบัญชีเงินฝาก FCD นั้น จะต้องทำการถอนออกมาเป็นเงินบาท โดยธนาคารเจ้าของบัญชี จะใช้อัตราแลกเปลี่ยนของ ธนาคารเป็นหลักในการคำนวนว่าจะถอนออกมาเป็นเงินบาทได้เท่าไร
การโอนเงินเข้า-ออก บัญชี : หากผู้ลงทุนมีเงินสกุลต่างประเทศอยู่แล้ว หากอยากจะนำเงินเข้าบัญชี FCD จะสามารถทำได้ โดยการโอนระหว่างบัญชี FCD ด้วยกัน หรือ โอนจากบัญชีต่างประเทศเท่านั้น ทั้งนี้การโอนเข้า ออก จะมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันในแต่ละธนาคาร และบางธนาคารจะเปิดให้โอนเงินได้เฉพาะระหว่างธนาคารเดียวกันเท่านั้น หรืออาจจะไม่เปิดให้โอนเลยก็มีเช่นกัน
อัตราแลกเปลี่ยน : อย่างที่กล่าวมาก่อนหน้านี้แล้วนั้น การจะนำเงินเข้าหรือออกจากบัญชีเงินฝาก FCD จะต้องนำเงินบาท ไปแปลงเป็นสกุลเงินต่างประเทศที่ธนาคารเจ้าของบัญชี ดังนั้น อัตราแลกเปลี่ยน จะขึ้นอยู่กับประกาศของธนาคารนั้นๆ ซึ่ง จะมีความต่างระหว่างราคาซื้อ ขาย ของสกุลเงินต่างประเทศ มากกว่า อัตราแลกเปลี่ยนของร้านรับแลกเงินข้างนอก
ค่าธรรมเนียม : ได้แก่ค่าธรรมเนียมการโอนออก, ค่าธรรมเนียมการรับการโอน, ค่าธรรมเนียมการถอนเงิน, ค่าปรับหากคงเงินไว้ไม่ถึงระยะเวลาตามเงื่อนไขสำหรับบัญชีประเภทเงินฝากประจำ
ภาษี : สำหรับดอกเบี้ยที่เกิดจากบัญชีเงินฝาก FCD จะโดนหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% และถือเป็น Final Tax ผู้โดนหักภาษี สามารถ เลือกได้ว่าจะนำรายได้ ไปรวมคำนวนภาษีเพื่อขอภาษีคืนหรือไม่
จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า ถึงแม้ บัญชีเงินฝาก FCD จะให้ผลตอบแทนที่สูง แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงด้วยเช่นกัน โดยค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างมีผลต่อผลตอบแทนค่อนข้างมากก็คืออัตราแลกเปลี่ยน โดยทั่วไป ส่วนต่างของราคาซื้อขายเงินตราต่างประเทศ เช่นสกุลดอลลาร์ อยู่ที่ประมาณ 1%-5% และรวมไปถึงต้องเสียภาษีอีก 15% อีกด้วย
เพื่อยกตัวอย่างให้เห็นชัดขึ้น เช่นนักลงทุนท่านหนึ่งเลือกฝากเงินเข้าบัญชี FCD 100,000 USD เป็นระยะเวลา 6 เดือนดอกเบี้ย 5%ต่อปี โดยให้อัตราแลกเปลี่ยน ซื้ออยู่ที่ 32.51 ขายอยู่ที่ 32.22 นักลงทุนท่านนี้จะต้องใช้เงินต้นอยู่ที่ 3,251,000 บาท และในวันที่ครบ 6 เดือน จะได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ (5%/2)*100,000 = 2,500 USD และเมื่อหักภาษี ณ ที่จ่ายแล้วจะเหลือ เงินต้นรวมดอกเบี้ยอยู่ที่ 102,125 USD และเมื่อแลกกลับเป็นเงินไทย จะได้ เป็นยอด 3,290,467.5 บาท คิดเป็นกำไร 39,467.5 บาท หรือ 1.21% หรือ ประมาณ 2.42%ต่อปี โดยตัวอย่างนี้ไม่ได้นำเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาเป็นปัจจัย โดยหากค่าเงินบาทมีการปรับตัว ค่าเงินบาทแข็งขึ้น ก็จะทำให้กำไรที่ได้ลดน้อยลงไปอีกด้วย
โดยสรุปแล้วก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีเงินฝาก FCD นอกจากในส่วนของผลตอบแทนแล้วนั้น นักลงทุนควรทำการเปรียบเทียบ ความต่างของราคาซื้อขายสกุลเงิน , ค่าธรรมเนียมต่างๆ ของแต่ละธนาคารเสียก่อน และ ต้องไม่ลืมวิเคราะห์ถึงทิศทางของค่าเงินบาทก่อนลงทุน เพราะปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อผลตอบแทนจากการลงทุน”







