ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน : กองทุนตราสารหนี้แบบไหนควรมีติดพอร์ตในปี 2025

ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน : กองทุนตราสารหนี้แบบไหนควรมีติดพอร์ตในปี 2025

กลยุทธ์การลงทุนในปี 2025 ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจมีทิศทางชะลอตัวลง การเริ่มต้นลงทุนในกองตราสารหนี้อาจจะพิจารณาเลือกกองทุนตราสารหนี้ที่มีความยืดหยุ่นในการลงทุน อย่างกองทุนในกลุ่ม Global bond เพื่อกระจายความเสี่ยงและมีอันดับความน่าเชื่อถือเฉลี่ย ในระดับ Investment grade ขึ้นไป รวมถึงเสริมด้วยมุมมองระยะสั้น ตามภาพข้างต้นจะช่วยทำให้นักลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารพอร์ตลงทุนได้อย่างชัดเจน

ผ่านช่วง 4 เดือนแรกของการลงทุน เห็นได้ว่าปี 2025 จะเป็นอีกปีที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูงขึ้นจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของประเทศสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายหรือเลื่อนนโยบายแต่ก็ยังคาดเดาได้ยาก ส่งผลให้หลายบริษัทเริ่มชะลอการลงทุน และเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าที่คาด ทิศทางเงินลงทุนเริ่มหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำที่ช่วยลดความผันผวนพร้อมกับสามารถทำให้เงินลงทุนเติบโตไปพร้อมกัน ทำให้ในจังหวะแบบนี้ “กองทุนตราสารหนี้” กลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นคงในพอร์ตได้ดี มีความยืดหยุ่นสูงและตอบโจทย์การเลือกให้เหมาะกับสถานการณ์เศรษฐกิจ

ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน : กองทุนตราสารหนี้แบบไหนควรมีติดพอร์ตในปี 2025

กองทุนตราสารหนี้เลือกลงทุนยังไงให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจ

1.พันธบัตรและตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาล กลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่ำสุด เนื่องจากลูกหนี้คือรัฐบาล เน้นการรักษาเงินต้นและความแน่นอน 2.หุ้นกู้ Investment Grade (AAA ถึง BBB-) มักจะออกโดยบริษัทมั่นคงขนาดใหญ่ มีระดับความเสี่ยงปานกลาง โอกาสผิดนัดชำระหนี้ต่ำและให้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าพันธบัตร และ 3.หุ้นกู้ High Yield (BB+ ถึง D) เป็นบริษัทที่อาจจะมีความเสี่ยงด้านการเงินที่สูงขึ้น แต่ก็ชดเชยด้วยผลตอบแทนที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน

เปรียบเทียบตามความเสี่ยง : พันธบัตรรัฐบาล < Investment Grade < High yield 

ลือกตาม Duration หรือ อายุเฉลี่ยตราสารหนี้

Duration หรือ อายุเฉลี่ยตราสารหนี้ เกิดจากการคำนวณโดยรวมดอกเบี้ยที่ตราสารหนี้จ่ายออกมา และเป็นตัวเลขสำคัญที่บอกถึงผลกระทบราคาตราสารหนี้(Capital gain/Loss) เมื่อดอกเบี้ยในตลาดเปลี่ยนไป โดยกองทุนตราสารหนี้ที่มี Duration ยาว มักจะมีราคาเปลี่ยนแปลงมากกว่า เช่น หากมองว่าแนวโน้มดอกเบี้ยช่วงที่ลงทุนจะปรับตัวลงในช่วง 1-2 ปี ข้างหน้า การเลือกกองทุนที่มี Duration กลางถึงยาว จะได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า เปรียบเทียบตามความผันผวนของราคเมื่ออัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนไป : Duration สั้น < Duration ยาว 

กองทุนตราสารหนี้ยืดหยุ่นและช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดี

การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้อาจจะไม่ได้เหมือนการลงทุนตราสารหนี้รายตัว เนื่องจากนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้มีการซื้อขายทุกวันทำให้กองทุนต้องมีการ Mark to Market เพื่อปรับ NAV ของสินทรัพย์ในกองทุนให้เหมาะสม ผลคือ นักลงทุนมีโอกาสที่ได้ส่วนต่างกำไร (Capital Gain) เมื่อดอกเบี้ยปรับตัวลงหรืออาจจะกลายเป็น (Capital Loss) ได้เมื่อดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น ดังนั้น การเลือกกองทุนตราสารหนี้ที่มีความยืดหยุ่นของการลงทุนในชนิดกองทุนตราสารหนี้และช่วงเวลาลงทุนที่เหมาะสมจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญ 

กลยุทธ์การลงทุนในปี 2025 สำหรับภาพการลงทุนในปี 2025 ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจมีทิศทางชะลอตัวลง การเริ่มต้นลงทุนในกองตราสารหนี้อาจจะพิจารณาเลือกกองทุนตราสารหนี้ที่มีความยืดหยุ่นในการลงทุน อย่างกองทุนในกลุ่ม Global bond เพื่อกระจายความเสี่ยงและมีอันดับความน่าเชื่อถือเฉลี่ย (Avg Credit rating) ในระดับ Investment grade ขึ้นไป รวมถึงเสริมด้วยมุมมองระยะสั้น (Tactical) ตามภาพข้างต้นจะช่วยทำให้นักลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารพอร์ตลงทุนได้อย่างชัดเจน