การเงินการลงทุน ช่วงเปลี่ยนผ่านการเมือง
ผลการจากเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา สร้างความพอใจให้หลายคน และขณะเดียวกันหลายท่านอาจผิดหวังบ้าง และยังคงสังเกตการณ์จับตาดูครึ่งหลังของปี 2566นี้ ทั้งปัจจัยในและนอกประเทศ เพราะไม่แน่ใจว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
การเปลี่ยนผ่านผู้บริหารประเทศ จากคณะเดิมที่ประชาชนคุ้นเคยหน้าตา ฝีมือ และวิธีการทำงานแล้ว และมองว่าทีมใหม่ที่จะเข้ามาบริหารจะมีมุมมองแตกต่างจากเดิมมาก จะทำให้เราตื่นเต้น กังวลบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งปกติ
หากรัฐบาลไทยชุดใหม่ รับหน้าที่ภายในต้นเดือนส.ค.ตามแนวโน้มที่ค่อนข้างจะเป็นไปได้มากที่สุดในตอนนี้ กลุ่มผู้บริหารกระทรวงสำคัญโดยเฉพาะกระทรวงการคลัง ก็มีเค้าว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีความเฉียบคมสร้างสรรค์ปรับตัวทันโลกและคล่องแคล่วกับการใช้เทคโนโลยี
จากการสัมภาษณ์ของสื่อมวลชนต่อแคนดิเดตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และทีมงานเศรษฐกิจของพรรคร่วมรัฐบาลในกลุ่มเสรีนิยมหรือประชาธิปไตย ทำให้เกิดความมั่นใจมากพอสมควรว่า นโยบายเหมาะสมกับสถานการณ์ภายในและภายนอกประเทศในปัจจุบัน ขณะเดียวกันก็หวังว่าข้าราชการประจำ และนักธุรกิจทางการเงินการลงทุนซึ่งมีประสบการณ์ช่ำชอง จะช่วยเป็นพี่เลี้ยงและที่ปรึกษา หากทีมงานรัฐบาลใหม่ร้องขอมา
บางท่านคงเป็นห่วงเรื่องประสบการณ์ของผู้นำประเทศ และหงุดหงิดกับความโกลาหล เรื่องตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือประธานสภาผู้แทน ซึ่งตามธรรมเนียมของประชาธิปไตย เรามีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น ตราบใดที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมายและมารยาทในสังคม และการเป็นรัฐบาลผสมซึ่งมาจากหลายพรรคการเมืองนั้น เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความอดทนอดกลั้นและมีใจกว้าง รับฟังความคิดเห็นของทุกคน
ตลาดหุ้นในไทย และการลงทุนจากต่างประเทศในไทย จะมั่นคงได้ ก็ต่อเมื่อทุกฝ่ายมีความมั่นใจว่า การเปลี่ยนผ่านผู้บริหารประเทศนั้น จะเป็นไปด้วยความราบรื่นพอสมควร ถึงแม้นโยบายอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่กฎระเบียบ และประเพณีการปฎิบัติ ในวงการเงินการธนาคารในประเทศและสากลนั้น จะยังเป็นบรรทัดฐานที่มีมาตรฐานสูงต่อไป
การเลือกตั้งผ่านมาเพียงแค่ไม่เกิน 2 สัปดาห์ เราจึงควรให้โอกาสการเคลื่อนไหวของเงินตราเข้าออกประเทศ ระบบการค้าเสรีเป็นสิ่งที่เราปฏิบัติมานาน และผ่านช่วงท้าทายและวิกฤติใหญ่มาหลายรอบแล้ว ผมจึงมั่นใจว่าจากวันนี้ไปจนถึงวันที่รัฐบาลใหม่เข้ามารับตำแหน่งนั้น สถานการณ์การเงินของประเทศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงินลงทุนจากสถาบันใหญ่ต่างประเทศ จะปรับเปลี่ยนอยู่ในปริมาณที่เราสามารถจะรับมือได้
ข่าวระทึกใจว่า รัฐบาลสหรัฐจะมีความสามารถในการชำระหนี้ตามกำหนดได้หรือไม่ เพราะหากรัฐสภาของสหรัฐ ยังไม่ยอมอนุมัติการขยับเพดานหนี้ นักการเงินเตือนแล้วว่า รัฐบาลสหรัฐอาจจะไม่มีเงินสำรองเพียงพอที่จะจ่าย เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป หากเป็นเช่นนั้นจะวุ่นทั้งระบบทั่วโลก
แต่อย่างไรก็ตามผมเคยเขียนไว้ในบทความคอลัมน์นี้ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2566 ว่า สหรัฐจะไม่ผิดนัดชำระหนี้อย่างแน่นอน และณ วันนี้ก็ยังยืนยันอยู่ว่าเรื่องนี้จะจบลงด้วยดี
เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 29 พ.ค. 2566 เป็นต้นไป หากพรรครีพับลิกันยังแข็งข้อและยืนกรานไม่ยอมเสนอเรื่องนี้ในสภา ผมคิดว่าประธานาธิบดีไบเดนคงตัดสินใจใช้อำนาจ โดยอ้างอิงมาตรา 14 แห่งการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และสั่งให้กระทรวงการคลังของสหรัฐชำระหนี้ตามกำหนด และยังมีมาตรการอื่นอีกหลายอย่างที่ผมเคยกล่าวไว้ในบทความที่แล้ว และตลาดหุ้นในสหรัฐในช่วงนี้ก็ไม่มีการขายเทหรือวิตกเกินควร แสดงถึงความมั่นใจในกลุ่มนักลงทุนทั้งบุคคลและสถาบัน
การเมืองในสหรัฐฯสะท้อนให้เราเห็นถึงความคิด และความประพฤติของคนทั่วโลก เรามีข้อมูลข่าวสารและความรู้มากมาย แต่การยึดมั่นเชื่อถือบางสิ่งบางอย่างมากเกินไป และขาดการเปิดใจกว้างรับฟังความเห็นจากอีกฝ่ายหนึ่ง ทำให้เราเกิดความลำเอียง และเสียโอกาสในการรักษาความสมดุล และในที่สุดทำให้เราตัดสินใจผิดพลาด
ความเชื่อว่าฝ่ายเราถูกเสมอ ทำให้เรามักแสวงหาข้อมูลมาเสริมกับความคิดของฝ่ายเรา ยิ่งทำบ่อยครั้งก็กลายเป็นนิสัย จากความเชื่อกลายเป็นความหลงใหล
ย้อนไปในอดีตประมาณ 60 ปีที่แล้ว วิทยุยอดนิยมของเมืองไทยมีทรานซิสเตอร์ทั้งหมด 4 ตัว ต่อมาเครื่องเสียงรถยนต์มีทรานซิสเตอร์เก้าตัว อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องใช้ไม้สอยเพื่อสื่อสารและบันเทิงมีราคาสูงและซื้อไว้เพื่อใช้ในครอบครัว การเปิดปิดต้องประหยัดมัธยัสถ์เพราะแบตเตอรี่มีราคาแพง
ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือที่เราใช้อย่างเช่น iPhone 14 Pro เป็นเครื่องมือสำหรับบุคคลคนเดียว และเราไม่แบ่งปันกับสมาชิกอื่นในครอบครัว iPhone รุ่นนี้ใช้คอมพิวเตอร์ชิพ A16 Bionic chip มาตรฐานสูงมากสองชิ้น แต่ละชิ้นสามารถบรรจุทรานซิสเตอร์ได้ทั้งหมด 8,000 ล้านตัว หมายถึง iPhone 14 Pro มีทรานซิสเตอร์ทั้งหมด 16,000 ล้านตัว
ความสามารถของมนุษย์ในการพัฒนานวัตกรรมเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มาก ข้อมูลที่เรารับส่งภายในพริบตาเดียวนั้นต้นทุนน้อย และมีประสิทธิภาพสูงมาก จนบางครั้งเราไม่เข้าใจลึกซึ้งเพียงพอว่า เรามีเครื่องมือมหัศจรรย์และเราควรจะใช้ทำอะไร
บริษัท Apple ซึ่งกำลังมีมูลค่าเพิ่มขึ้นสูงเกือบถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นบริษัทใหญ่ที่สุดในโลกและมีอิทธิพลมหาศาล ในการกำหนดทิศทางของการใช้เทคโนโลยีในการดำรงชีวิตและอยู่ในสังคม บริษัทนี้เพิ่งยืนยันว่า จะใช้ไทยเป็นแหล่งผลิต คอมพิวเตอร์ MacBook Pro ซึ่งนับว่าเป็นข่าวดีมาก
และเป็นการยืนยันว่าบริษัทอันดับหนึ่งของโลกเชื่อมั่นกับโครงสร้างครบวงจรของอุตสาหกรรมด้านนี้ในไทยและทรัพยากรมนุษย์ที่เรามีอยู่ (iPhone 14 Pro ซึ่งขยายจากจีนไปอินเดีย และบราซิล เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง เนื่องจากมหาอำนาจกำลังปะทะกันทางการค้า เวียดนามได้เป็นฐานผลิต iPad เป็นต้น)
เรามาจินตนาการกันว่า เดือนส.ค.นี้รัฐบาลชุดใหม่ นำโดยกลุ่มประชาธิปไตย คนหนุ่มสาวที่มีการศึกษาสูง ใช้ภาษาอังกฤษและวัฒนธรรมสังคมเศรษฐกิจ และการเมืองแบบสากลคล่องแคล่ว นำประเทศสู่บรรยากาศใหม่ที่ปลอดจากคอรัปชั่น และส่งเสริมบทบาทของเยาวชนให้ร่วมสร้างการเมืองที่ดี
อีกทั้งนโยบายเชิงก้าวหน้าสร้างสรรค์ต่างๆ ที่ประชาชนให้ความไว้วางใจจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา ผมคิดว่ามหาอำนาจทางเศรษฐกิจหลายประเทศ ทั้งทางตะวันตกและตะวันออก ก็จะใช้โอกาสแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เพิ่มความสัมพันธ์และการลงทุน
ช่วยกันออกความเห็นและให้กำลังใจคณะรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามา และขอบคุณรัฐบาลรักษาการชุดปัจจุบันที่ได้ทำหน้าที่สุดความสามารถมาเป็นเวลาเกือบทศวรรษ
แม้ว่าเราจะมีความขัดแย้งเรื่องอุดมการณ์ทางการเมืองหรือวิธีการในทางปฏิบัติในบางเรื่อง แต่วัฒนธรรมประเพณีของไทยปลูกฝังค่านิยมประนีประนอม หาช่องทางเดินก้าวไปข้างหน้าโดยปลอดภัย สามัคคี และมั่นคงครับ