รายงานสื่อในช่วงนี้ มองดูเรื่องเกี่ยวกับ น้ำและมหาสมุทร อย่างไร

รายงานสื่อในช่วงนี้ มองดูเรื่องเกี่ยวกับ น้ำและมหาสมุทร อย่างไร

มีรายงานเกี่ยวกับน้ำปรากฏใน สื่อ อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ รายงานการประชุมใหญ่ในกรอบงานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องมหาสมุทร ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาในประเทศฝรั่งเศส

คอลัมน์นี้เสนอเรื่องการประชุมดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว และคาดการณ์ไว้ว่าจะไม่บรรลุเป้าหมายพื้นฐาน ซึ่งได้แก่ การจะทำอย่างไรให้มหาสมุทรคงศักยภาพ หรือคุณภาพไว้สำหรับให้มนุษย์เราใช้ต่อไปได้อย่างยั่งยืน   

หลังการประชุม มีแถลงการณ์และการประชาสัมพันธ์อย่างเข้มข้นว่า ได้ผลสำเร็จสูงมาก  แต่หากเราเข้าไปดูรายละเอียดจะพบว่า แถลงการณ์นั้นไม่มีเรื่องเกี่ยวกับการทำเหมืองแร่บนพื้นทะเลลึก

นักวิทยาศาสตร์นับพันมองว่า สำคัญยิ่งและไม่ควรยอมให้ใครทำจนกว่าเราจะได้วิจัยจนมีผลยืนยันว่ามันจะไม่สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อระบบนิเวศของมหาสมุทร

การคาดการณ์นั้นวางอยู่บนฐานของปฏิกิริยาของสหรัฐต่อการประชุมและการชิงประกาศของรัฐบาลอเมริกันไม่นานก่อนการประชุมว่าจะอนุญาตให้ชาวอเมริกันทำเหมืองแร่ดังกล่าวได้ และส่งตัวแทนระดับต่ำไปร่วมการประชุม

โดยเฉพาะเมื่อเปรียบกับหลายสิบประเทศที่ส่งประมุขของประเทศ หรือหัวหน้าคณะรัฐบาลไปร่วม  หากรวมเรื่องการห้ามทำเหมืองแร่ไว้ในแถลงการณ์ รัฐบาลอเมริกันย่อมไม่ยอมลงนามด้วย 

อีกประเด็นหนึ่งได้แก่การให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาทางทะเลซึ่งรัฐบาลต่าง ๆ ลงนามไว้หลังการประชุมครั้งที่แล้วเมื่อ 3 ปีก่อน  สนธิสัญญานั้นจะมีผลบังคับใช้เมื่อสมาชิกที่ลงนามไว้ให้สัตยาบันครบ 60 ประเทศ  ก่อนการประชุมครั้งนี้ 32 ประเทศให้สัตยาบันแล้ว

  ในช่วงการประชุมตลอดสัปดาห์ มีสมาชิกให้สัตยาบันเพิ่ม 18 ประเทศ  ส่วนอีก 10 ประเทศที่ต้องการจะทำเสร็จหรือไม่และเมื่อไรยังไม่เป็นที่แน่นอน  

นอกจากด้านคุณภาพของน้ำทะเลแล้ว มีรายงานด้านปริมาณซึ่งทำให้ระดับของน้ำทะเลยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กล่าวคือ นสพ.วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนว่า

การวิจัยในรัฐแคโรไลนาพบว่าชุมชนตามชายฝั่งได้รับผลกระทบสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้  เนื่องจากอุณหภูมิโลกยังเพิ่มขึ้นอีกมากจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามด้วยการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล ผลกระทบดังกล่าวจะยิ่งร้ายแรงขึ้น

ในเวลาไล่เลี่ยกัน บีบีซีรายงานเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนว่า เมืองจำนวนมากในภาคพื้นต่าง ๆ ของโลกยังทรุดตัวต่อไปในอัตราที่น่าวิตก  เมืองทรุดในภาวะที่ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นย่อมนำความเสียหายร้ายแรงมาสู่เมืองเหล่านั้นรวดเร็วขึ้น 

การทรุดตัวของเมืองเกิดจากการสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ซึ่งยังดำเนินต่อไป เพราะประชากรในเมืองยังมักเพิ่มขึ้น แต่ละคนใช้น้ำมากขึ้นตามฐานะทางเศรษฐกิจและจากการเพิ่มขึ้นของภาวะโลกร้อน  

การเพิ่มขึ้นของประชากรและการใช้น้ำเพิ่มขึ้นในภาวะโลกร้อนมิได้เกิดขึ้นเฉพาะในเมืองเท่านั้น หากเกิดขึ้นทั่วไป  มีรายงานทั้งในอังกฤษและในสหรัฐเกี่ยวกับเรื่องนี้ กล่าวคือ บีบีซีรายงานเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมว่า อังกฤษจะขาดน้ำดื่มน้ำใช้ภายใน 10 ปีข้างหน้าซึ่งจะแก้ได้ด้วยการสร้างอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้น

  การสร้างอ่างเก็บน้ำจะถูกต่อต้านอย่างหนักจากชุมชนรอบข้างเนื่องจากมันสร้างผลกระทบสูงต่อระบบนิเวศ  ส่วนในสหรัฐ วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมว่า น้ำในแม่น้ำโคโลราโดซึ่งเป็นเสมือนเส้นเลือดของหลายรัฐยังลดลงอย่างต่อเนื่อง 

ร้ายยิ่งกว่านั้น การวิจัยชิ้นใหม่พบว่า น้ำบาดาลในย่านเดียวกันยังหมดไปในอัตราเร่งจากการสูบขึ้นมาใช้ทั้งในบ้านและในกิจการของภาคเศรษฐกิจ  

เมื่อดูเผินๆ เรื่องราวในรายงานดังกล่าวไม่น่าจะเกี่ยวเนื่องกันมากนัก  แต่มันเกี่ยวเนื่องกันมากหากมองจากมุมของปัจจัยพื้นฐานในด้านปัญญาและเจตนาของมนุษย์เรา 

เรื่องความเป็นไปและผลการวิจัยเกี่ยวกับน้ำเป็นที่รับรู้กันในวงแคบ ส่งผลให้ปัญญาของมนุษย์เกี่ยวกับน้ำยังมีเพียงจำกัด นอกจากเราจะปฏิบัติต่อน้ำบนฐานของการมีปัญญาเพียงจำกัดแล้ว

เรายังมักเจตนาทำอะไรแบบไม่แยแสต่อผลร้าย หรือแบบไปตายดาบหน้าอีกด้วย รวมทั้งการทำเหมืองแร่ในมหาสมุทร ก่อนจะมีผลของการวิจัยยืนยันว่า มันจะไม่สร้างปัญหาร้ายแรง.