"สงครามร้อน หุ้นฟื้น โควิดค้าง : เราอยู่ได้อย่างสามัญ"

"สงครามร้อน หุ้นฟื้น โควิดค้าง : เราอยู่ได้อย่างสามัญ"

วันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 2022 สหประชาชาติลงมติให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คุ้มครองความปลอดภัยชาวยูเครน เปิดทางให้นำปัจจัยบรรเทาทุกข์ และตำหนิรัสเซียว่าเป็นผู้สร้างปัญหาความรุนแรงต่อมนุษยชน คะแนนเสียงสนับสนุน 140 ประเทศนั้นรวมทั้งไทย, 5 ประเทศคัดค้าน, และอีก 38 ประเทศงดลงคะแนนเสียง

นี่เป็นครั้งที่สอง ที่ประชาคมโลกประกาศจุดยืนชัดเจน ครั้งแรกลงมติเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ประณามการรุกราน เรียกร้องให้ยุติการหยุดยิง และถอนทหาร

และในวันนี้เช่นกัน มีการประชุมพิเศษของกลุ่มG7ที่เบลเยี่ยม เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะรุนแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากสงครามต่อเนื่องมาครบหนึ่งเดือน ความเสียหายทั้งการทหารและพลเรือนหนักขึ้นทุกวัน สงครามอาจขยายวงกว้างไปประเทศเพื่อนบ้าน

โดยเฉพาะสมาชิกNATOทางตะวันตก และหากเกิดการใช้อาวุธสงครามเคมี หรือมีการยิงเครื่องบินหรือเรือ รวมทั้งการใช้อาวุธนิวเคลียร์แม้เพียงจำกัด ก็จะนำไปสู่ความเข้าใจผิด กลายเป็นสงครามโลกครั้งที่สามได้

ความเป็นปึกแผ่นของพันธมิตรตะวันตก และผู้นำยูเครนร่วมกับประชาชนปกป้องอธิปไตย และได้ความช่วยเหลือทางอาวุธและทรัพยากร ทำให้การต่อสู้ยืดเยื้อมาถึงหนึ่งเดือน โดยไม่มีบทสรุปชัดเจน นอกจากการสูญเสียของชีวิตและทรัพย์สินทั้งสองฝ่าย 

UNICEF เพิ่งรายงานว่าเด็ก 1,800,000 คน อพยพออกจากยูเครนแล้ว และอีก 2,500,000 คนต้องลี้ภัยภายในประเทศ 

พันธมิตรทางตะวันตกคว่ำบาตรเศรษฐกิจต่อรัสเซียในระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ผลกระทบเริ่มเห็นชัดในรัสเซีย ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น 3-15% อัตราดอกเบี้ย 20% รัฐบาลรัสเซียเพิ่งประกาศเปิดตลาดหุ้น หลังจากที่ปิดไปเป็นเวลานาน ดัชนีหุ้นขยับขึ้นบ้าง และมูลค่าเงินรูเบิ้ลเริ่มแข็งตัวขึ้นมา เพราะผู้นำรัสเซียผลักดันให้ลูกค้าต่างประเทศ ที่ซื้อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ชำระด้วยเงินรูเบิ้ล 

อินเดีย จีน และบางประเทศในเอเชีย ถือโอกาสซื้อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียในราคาพิเศษ การพยายามจ่ายค่าสินค้าด้วยเงินตราอื่น นอกเหนือจากอเมริกันดอลล่าร์ ยังเป็นสิ่งที่ต้องปรับตัว อินเดียและจีนกำลังดำเนินการเรื่องนี้อยู่ อาจขลุกขลักระยะหนึ่ง

แต่กระแสการเมืองพร้อมทั้งการพัฒนาของเทคโนโลยี ก็จะช่วยให้สำเร็จ แม้ปริมาณการแลกเปลี่ยนเงินตราอาจจะยังน้อยอยู่ แต่เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะจะเป็นการเปิดทางเลือกอื่น และลดการผูกขาดของอเมริกันดอลลาร์

สิ่งที่หลายคนเป็นห่วงว่าจะสร้างความเสียหายเป็นลูกโซ่คือพันธบัตรของรัสเซีย แต่ตอนนี้ก็พอโล่งอก เพราะธนาคารชาติของรัสเซียสามารถชำระหนี้ที่ครบวาระในเดือนมีนาคมตามกำหนด เดือนเมษายนต้องจับตาดูอีกครั้ง หากรัสเซียไม่สามารถจะชำระหนี้พันธบัตรได้ตามกำหนด อาจเกิดวิกฤติกระทบเป็นต้มยำกุ้งรอบ2 

ราคาอาหารโลกจะสูงขึ้น เพราะขาดแคลนข้าวสาลีและเมล็ดทานตะวัน เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ส่งออกอันดับหนึ่ง และยูเครนเป็นผู้ส่งออกอันดับห้าของโลก 

จีนกำลังเป็นเป้าสายตาของทั่วโลกในการทำตัวเป็นกลาง แต่มีความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์ใกล้ชิดกับรัสเซีย เงินเป็นจำนวนมากถูกโยกย้ายออกนอกจีนตั้งแต่สงครามเริ่ม บริษัทใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี ยังเกรงกลัวและขาดความเชื่อมั่นกับทิศทางของภาครัฐ ปักกิ่งต้องออกมายืนยันว่าจะใช้นโยบายแทรกแซงเพื่อพยุงเศรษฐกิจในทุกรูปแบบ ข่าวนั้นส่งผลให้หุ้นจีนขยับราคาขึ้น หลังจากตกต่ำมาตั้งแต่ปีใหม่ 

ตลาดหุ้นในอเมริกา น่าสนใจที่ดัชนีเพิ่มขึ้น ในหนึ่งเดือนนับตั้งแต่วันที่รัสเซียบุกยูเครน

                       24 กพ.                24 มีค       

DOW๋             33,131 จุด           34,644 จุด

NASDAQ       13,037 จุด           14,753 จุด

S&P500           4,225 จุด              4,514จุด

น้ำมัน/บาเรล      92.31ดอลลาร์         112.44ดอลลาร์

ทองคำ/ออนซ์    1,910 ดอลลาร์        1,961 ดอลลาร์

สังเกตได้ว่าเงินเฟ้อ ค่าครองชีพสูงขึ้น โควิดยังไม่สิ้นสุด สงครามในยุโรปอาจขยายวงกว้าง และปัญหาอื่นๆรวมกัน ยังไม่สามารถที่จะเขย่าขวัญนักลงทุนให้ดึงเงินออกจากตลาดหุ้น อสังหาริมทรัพย์ในอเมริกาโดยเฉพาะที่อยู่อาศัย เพิ่มราคาขึ้นกว่า 18% ต่อปี ปีนี้มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มอีก 20%  

Bitcoin ภายในหนึ่งเดือนนับตั้งแต่วันเริ่มสงครามยูเครน เพิ่มขึ้น 14.75% ราคากลับมาที่ 43,899ดอลลาร์

แม้จะมีปัญหาอะไรมากมาย แต่เงินไม่มีที่ไป ปริมาณเงินตราแทบทุกสกุลเพิ่มขึ้น ธนาคารกลางของแต่ละประเทศเพิ่มเงินในระบบมากเป็นประวัติศาสตร์ 

ในอดีตปัญหาใหญ่จะทำให้ความมั่นใจในการลงทุนลดลง แต่ปัจจุบันกลับสวนกระแส อย่างไรก็ตามเราอย่าประมาท เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ 

โควิดในจีนกำลังระบาดอีกรอบ มาตรการเข้มงวด ต้องการกำจัดไวรัสให้หมดสิ้น 

อังกฤษและอเมริกาเองก็กำลังเตรียมรับมือโควิดกลายพันธุ์ Omicron BA.2 แต่เลือกใช้นโยบายอยู่กับไวรัสให้ได้

ขอย้ำว่า ดัชนีหุ้นหรือราคาคริบโตสูงขึ้น ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจดีขึ้น ความเหลื่อมล้ำของการเข้าถึงทรัพยากร และโอกาสในการประกอบอาชีพ ยังเป็นสิ่งท้าทายที่เราต้องช่วยกันแก้ต่อไป

ภาวนาให้เรื่องร้ายที่กล่าวมานั้นบรรเทาลง แต่หากสิ่งสุดวิสัยเกิดขึ้น เราต้องพร้อมที่จะรับมือ ฝึกฝนความเป็นอยู่อย่างสามัญที่สุด ลดการพึ่งพาทรัพยากรการเงิน และการบริโภคในระบบโลกาภิวัตน์ครับ