วิธีการทำงานดิจิทัลรูปแบบใหม่ – การทำงานรูปแบบดิจิทัล

วิธีการทำงานดิจิทัลรูปแบบใหม่ – การทำงานรูปแบบดิจิทัล

การทำงานรูปแบบดิจิทัลไม่ได้เป็นเพียงแค่คำพูดยอดนิยมอีกต่อไป โควิด-19 ได้สร้างผลกระทบอันยิ่งใหญ่ในการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นวงกว้าง ทำให้องค์กรธุรกิจต้องนำรูปแบบการทำงานดิจิทัลแบบใหม่

ทั้งการทำงานแบบเสมือนจริง (Virtual) และแบบผสมผสาน (Hybrid) มาใช้เพื่อความคล่องตัวทางดิจิทัลให้มากยิ่งขึ้น เพื่อปรับตัวและเติบโตในสภาวะตลาดที่ผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

  เมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงแรกของการระบาด เราได้เห็นแล้วว่าการทำงานแบบดิจิทัล (Digitalization) ช่วยขับเคลื่อนการนำเทคโนโลยีมาใช้ในผลิตภัณฑ์และการให้บริการอย่างไร และยังได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในการทำงานรูปแบบดิจิทัลในองค์กร การทำงานรูปแบบดิจิทัลช่วยให้บุคลากรได้เรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของตน

รวมไปถึงการสำรวจโอกาสใหม่ๆ อีกทั้งยังได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในทางที่เป็นประโยชน์ ส่งเสริมความสามารถของพนักงาน สร้างโอกาสในการปรับปรุงกระบวนการ และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานภายในองค์กรอีกด้วย

 ทัศนวิสัยในการจัดการกระแสเงินสดและการจัดทำงบประมาณในการดำเนินงานกลายเป็นสิ่งสำคัญของหลายองค์กรในการจัดการวิกฤติการแพร่ระบาดที่ยืดเยื้อ คลื่นลูกต่อไปในการปรับการทำงานให้เป็นดิจิทัล (Digitalization) ควรมุ่งเน้นไปที่การทำงานด้านการเงินให้มากขึ้น 

ความท้าทายหลายอย่างที่หน่วยงานด้านการเงินต้องเผชิญเป็นผลมาจากวิธีการดำเนินงานทางการเงินแบบผสมผสานดิจิทัล-แมนนวล (Digital-manual hybrid) ซึ่งส่งผลให้เกิดการทำงานในช่วงเวลาดึกดื่นที่น่าเบื่อหน่ายและต้องลงมือทำด้วยตนเอง

 

การเปลี่ยนผ่านสู่องค์กรทางด้านการเงินไปสู่รูปแบบดิจิทัลจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร และช่วยให้ทีมการเงินสามารถดำเนินงานไปได้อย่างราบรื่นแม้ในยามวิกฤติ การกำจัดสถานที่ทำงานด้านการเงินที่ใช้แรงงานคนแบบดั้งเดิมเพื่อดำเนินการทางดิจิทัลอาจเป็นข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์

การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการประมวลผลการเงินดิจิทัลเพื่อโต้ตอบกับผู้อื่นและขับเคลื่อนกระบวนการธุรกิจการเงิน พนักงานทางการเงินเสมือนสามารถรวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินเพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึกอันมีค่า ยกตัวอย่างเช่น การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี OCR (Optical Character Recognition) เพื่อจัดการและประมวลผลการเดินทางและค่าใช้จ่ายสามารถทำให้การสร้างรายงานค่าใช้จ่ายเป็นไปได้โดยอัตโนมัติ เพื่อนำไปจัดการและควบคุมค่าใช้จ่ายให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น

       โดยพื้นฐานแล้ว ทีมการทำงานแบบเสมือนจริงต้องการสภาพแวดล้อมด้านดิจิทัลที่ใช้ร่วมกันอย่างสอดคล้องเพื่อที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิผล หากสมาชิกในทีมมาจากสถานที่ทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมอันหลากหลาย หรือองค์กรที่มีสภาพแวดล้อมด้านดิจิทัลที่แตกต่างกัน องค์กรจำเป็นต้องเจรจาและกำหนดว่าเครื่องมือใดที่ควรใช้ร่วมกันในสภาพแวดล้อมด้านดิจิทัล

คุณสมบัติสำคัญ 3 ประการที่สามารถช่วยสนับสนุนทีมการทำงานแบบเสมือนจริงเพื่อความก้าวหน้าในสภาพแวดล้อมด้านการทำงานดิจิทัล

      • สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับการแสดงความคิดเห็นจะถูกสร้างขึ้นจากการหล่อหลอมทางวัฒนธรรมจากสมาชิกในทีมเพื่อให้เชื่อว่า พวกเขาจะสามารถพูดได้อย่างมีอิสระโดยไม่ต้องถูกตัดสิน และสร้างความมั่นใจในการแบ่งปันความคิดเห็นที่เป็นเอกลักษณ์ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน การที่พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็นของตนได้ จะช่วยให้องค์กรรับรู้และนำมุมมองของพวกเขาไปปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโดยรวม และช่วยองค์กรในการปรับตัวอย่างฉับไวในกระบวนการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าความเห็นของทุกคนจะถูกหรือผิด ความคิดเห็นใหม่ๆที่มาจากผู้มีประสบการณ์ในการทำงานจะช่วยปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของคนในองค์กรได้

• ความสามารถทางเทคโนโลยีที่หลากหลายของพนักงาน

ปัจจัยที่สองที่อยู่เบื้องหลังประสิทธิภาพการทำงานระยะไกลของทีม คือความสามารถทางเทคโนโลยีของพนักงาน ซึ่งเป็นความสามารถในการใช้เครื่องมือทางธุรกิจและแพลตฟอร์ม และการใช้การสื่อสารด้านดิจิทัล เราอาจสังเกตได้จากการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล (Digital Transformation) แต่พนักงานแต่ละคนอาจมีความรู้ทางเทคโนโลยีในระดับที่แตกต่างกันทำให้ต้องเผชิญกับข้อจำกัดเมื่อต้องจัดการเทคโนโลยีเหล่านั้น ดังนั้นการเสริมทักษะทางเทคโนโลยีจึงจำเป็นสำหรับการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานขององค์กร

• การสนับสนุนจากผู้บริหาร

ปัจจัยสุดท้ายและอาจเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในงานดิจิทัลคือการสนับสนุนจากผู้บริหาร การสนับสนุนจากผู้บริหารเป็นสิ่งที่จำเป็นในการปรับปรุงความยืดหยุ่นและเพิ่มขีดความสามารถให้ทีมในการสำรวจและใช้วิธีการทำงานที่แตกต่างกันซึ่งอาจเป็นขั้นตอนที่ดีกว่า รวมถึงกระบวนการทำงานที่อาจปรับเปลี่ยนมาตรฐานสภาพแวดล้อมในการทำงานของบริษัท

     โดยสรุป การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลขององค์กรไม่สามารถเกิดขึ้นโดยปราศจากการสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้เปลี่ยนวิธีการทำงานแบบเดิมๆซึ่งจะไม่มีทางหวนกลับไปเป็นแบบเก่า ดังนั้นการให้ “ความยืดหยุ่น” กับพนักงานในการทำงานจากที่ใดก็ได้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับพนักงาน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับองค์กรในการสร้างความแข็งแกร่งของการทำงานแบบเสมือนจริงและแบบผสมผสาน การทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ และลดกระบวนการที่น่าเบื่อหน่ายและต้องลงมือทำด้วยตนเองลง เมื่องานเกิดขึ้นในโลกดิจิทัลแล้ว แนวคิดด้านสถานที่ทำงานของเราจึงต้องปรับเปลี่ยนตาม ไม่งั้นเราอาจจะต้องพลาดโอกาสที่จะช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จ