ความลับ ของ ความสำเร็จ

ความลับ ของ ความสำเร็จ

ทุกๆ คนย่อมอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต อย่างไรก็ตาม คนเรามีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านความคิด การกระทำ การใช้ชีวิต บางคนอาจเจอกับหนทางที่เรียบง่าย

แต่ตรงข้ามกัน บางคนก็ต้องเจอกับหนทางที่ยากลำบากที่มีขวากหนามและอุปสรรคมากมาย เพื่อจะช่วยให้คุณก้าวผ่านอุปสรรคเหล่านั้น หนทางในการนำไปสู่ความสำเร็จของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน แล้วอะไรล่ะ ที่เป็นความลับของความสำเร็จระหว่างคนธรรมดากับคนที่สุดยอด

 ความหลงใหล และความมุ่งมั่น สารตั้งต้นความสำเร็จ

Richard St. John ได้ศึกษาและค้นคว้า และจากการสัมภาษณ์ผู้ประสบความสำเร็จในเวทีของ TED กว่า 500 คน เพื่อค้นหาว่า… สิ่งที่ขับเคลื่อนให้คนเหล่านี้ประสบความสำเร็จก็คือ “ความหลงใหล” พวกเขาหลงไหลในสิ่งที่พวกเขาทำจากขั้วหัวใจ พวกเขาทำมันด้วยความรักไม่ใช่เพื่อเงิน แต่สิ่งที่น่ามหัศจรรย์ก็คือ…เมื่อเขาทำด้วยความรัก เงินก็ตามมาเอง! (“I’m driven by my PASSION.” Freeman Thomas; Car Designer, DaimlerChrysler) และ ความตั้งใจ ไม่มีความสำเร็จใดเกินขึ้นได้หากปราศจากการลงมือทำ คนสำเร็จทุกคนล้วนผ่านการทำงานหนักมาแล้วทั้งสิ้น พวกเขาเคยทุ่มเทแรงกายแรงใจในการลงมือทำงานมาก่อน แต่สิ่งที่สำคัญก็คือพวกเขาสนุกกับการทำงานนั้นด้วย! ( “It’s all head work. Nothing come easily. But I have a lot of FUN.” Repert Murdoch; Big Cheese CEO)

กล่าวโดยสรุป ขนาดของความหลงใหล และปริมาณความมุ่งมั่นในการลงมือทำ การทำอะไรให้ประสบผลสำเร็จ ก่อนอื่นคุณต้องมองถึงภาพรวมของความสำเร็จ ต้องใส่ใจกับรายละเอียดของการดำเนินการเพื่อให้ได้มาถึงความสำเร็จ นั่นเอง

เป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญต่อมาของความสำเร็จ

ทุกคนย่อมมีเป้าหมายในชีวิตที่วางไว้ และมุ่งมั่นที่จะพุ่งชนเป้าหมายนั้นให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายในความก้าวหน้าของงาน เป้าหมายในการดูแลสุขภาพให้มีรูปร่างตามที่ต้องการ หรือเป้าหมายในการเก็บเงินเพื่อซื้อสิ่งของที่อยากได้ ถึงเป้าหมายของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป

การตั้งเป้าหมาย ก็เหมือนเราปักหมุดไว้บนแผนที่ว่าเราจะไปที่ไหน เมื่อไหร่ ที่สำคัญเมื่อเรามองเห็นเป้าหมายที่เรากำหนดเอาไว้ เราจะมองเห็นวิธีการไปให้ถึงเป้าหมายได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ความลับของความสำเร็จจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือ การทนต่อความยั่วยวนที่จะทำให้เบี่ยงเบนไปจากเป้าหมายความสำเร็จที่มุ่งหวังไว้ เราต้องมีสติรู้ตัวตนในยามที่พบกับความยั่วยวนของลาภยศสรรเสริญที่ผ่านมาในระหว่างการเดินทางสู่เป้าหมายไว้เสมอ และเราต้องไม่พอใจกับส่วนเล็กส่วนน้อยของความสำเร็จ ตั้งเป้าจะไปยอดเขาหิมาลัย แต่แค่ขึ้นดอยอินทนนท์ได้ก็บอกว่าพอใจแล้ว และหยุดอยู่แค่นั้น โดยอ้างเหตุสารพัดมาสนับสนุนว่าส่วนเล็กส่วนน้อยของความสำเร็จนั้น คือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของความสำเร็จ ขึ้นดอยได้ก็บอกว่าอีกนิดเดียวก็ถึงยอดหิมาลัยแล้ว ยอดดอยกับยอดหิมาลัยเป็นเทือกเขาเดียวกัน 

จงจำไว้เสมอว่าส่วนเล็กส่วนน้อยของความสำเร็จ มีไว้ช่วยเติมกำลังใจให้เดินหน้าต่อไป ไม่ใช่ให้ใช้ทดแทนความสำเร็จทั้งหมดทั้งปวงที่หวังจะให้เกิดขึ้นได้

“เหตุผล” ชัด “เป้าหมาย” จะชัดตามมา

Simon Sinek นักเขียนชื่อดังจากหนังสือชื่อ Know your why พูดถึงการตั้งเป้าหมายที่ “ทำได้จริง” ว่าให้เริ่มต้นจากการตั้งคำถามให้กับตัวเองว่า “ทำไม” การหาเหตุผลให้ตัวเองก่อนจะช่วยให้เราสามารถหา “เป้าหมาย” และ “วางแผน” ได้ง่ายและชัดเจนมากขึ้น ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ถ้าคุณกำลังอยากตั้งเป้าหมายด้านการทำงาน ลองหา “เหตุผล” ของการทำงานว่า เราเลือกทำงานนี้ เพราะอะไร หรืออะไรคือสาเหตุให้คุณตื่นขึ้นมาทำงานทุกวัน ผู้หญิงหลายคนทำงานเพื่อความสำเร็จในชีวิต 

คำถามง่ายๆ ของซีเน็คจากหนังสือเล่มนี้คือ “ทำไม” คุณถึงอยาก “ประสบความสำเร็จ” ซีเน็คเขียนไว้ในหนังสือว่า ถ้าเหตุผลของคุณชัดเจนพอ คุณจะหาทางเดินสู่เป้าหมายนั้นอย่างมั่นคงด้วยตัวคุณเอง ที่สำคัญ คุณจะนำพาตัวเองไปพบกับคนที่มี “ความเชื่อ” เดียวกันกับคุณ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่คุณทำงานด้วย เจ้านาย หรือลูกน้อง เพื่อนร่วมงานที่เป้าหมายเดียวกัน และนั่นจะทำให้การเดินทางสู่เป้าหมายของคุณชัดเจนยิ่งขึ้น

ความสำเร็จของเรา เราต้องทำเอง

ความสำเร็จจะมาในบุคคลที่รู้และพยายามที่จะมีความปรารถนาในชีวิตตลอดเวลา ถ้าหากคุณแค่อ่านหนังสือจบไปและคุณคิดว่านั่นก็เพียงพอแล้ว คุณจะไม่ได้รับความรู้และทักษะสำหรับตัวเองมากขึ้นเลย ในชีวิตและการทำงานก็เหมือนกัน ชีวิตคือบททดสอบ และคุณจะต้องหาหนทางที่จะก้าวข้ามบททดสอบเหล่านั้นไปให้ได้ หากคุณพึงพอใจในสิ่งที่คุณทำได้อย่างง่ายดาย มันหมายถึงว่าคุณยอมรับความพ่ายแพ้ คุณควรที่จะหาแผนการใหม่ๆในชีวิตและพยายามที่จะทำมันให้สำเร็จให้ได้ ซึ่งนั่นก็หมายถึงว่าคุณเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

ทุกวันนี้ทุกคนต่างไขว่คว้า หาความสำเร็จให้กับชีวิตของตนเอง โดยลืมนึกไปว่า ความสำเร็จของเราต้องมาจากเราเอง เริ่มจาก “ถ้าหากไม่สร้างความฝันของเราเอง ก็ไม่มีใครจะสามารถจ้างเราให้สร้างความฝันให้พวกเราได้” อย่าปล่อยให้ความฝันของเราค่อยๆ หายไป เริ่มทำทันทีเมื่อเรามีเป้าหมายชัดเจน และจำไว้ว่า ตั้งกฏสำหรับตัวเราด้วยความมานะอดทนและการตัดสินใจอย่างดี 

จากนั้นเมื่อเราทำงานเสร็จแล้ว ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว เราก็จะไม่เสียใจกับมันเลย