ลิซ่า กาก้า อันเดรอา...โทนี่

ลิซ่า กาก้า อันเดรอา...โทนี่

คนไทยรอไปกรี๊ดลิซ่า แต่ก็ต้องผิดหวังเสียแล้ว ตามแผนเดิม “ลิซ่า” จะประกบพระเอก “อันเดรอา โบเชลลี” ขึ้นเวทีให้ชาวไทยได้ชื่นชม ที่ภูเก็ต

อันเดรอา โบเชลลี คือนักร้องเสียงดีที่คนทั้งโลกรู้จัก เขาพิการทางสายตามาตั้งแต่อายุ 12 ปี แต่มากด้วยความสามารถ และมีรอยยิ้มที่ใครเห็นก็ชื่นใจ นักเพลงชาวไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี

คู่ “ลิซ่า-อันเดรอา” ที่เรารอ ไม่เกิดเสียแล้ว

แต่ที่ไม่ต้องรอ และเกิดขึ้นแล้ว ก็คือ “กาก้า-โทนี่” ครับ

“เลดี้ กาก้า” เป็นที่รู้จักทั่วโลก แต่ โทนี่ไหนเหรอ? ผมกำลังพูดถึง โทนี่ ซึ่งขึ้นเวทีกับเธอที่ “เรดิโอ ซิตี้ มิวสิค ฮอลล์” เมื่อต้นเดือนสิงหาคมนี้ครับ 

ลิซ่าวัย 24 ปี ไม่ได้ขึ้นเวทีกับหนุ่มใหญ่ อันเดรอา วัย 63 ปี แต่ กาก้า วัย 35 ปี ได้ขึ้นเวทีแล้วกับ โทนี่ เบนเนตต์ วัย 95 ปี เขาร้องเพลงดังมากมาย เช่น “I Left My Heart in San Francisco”

 


ลิซ่า และ กาก้า สวยสดใสทั้งคู่ ในขณะที่ “ผู้สูงวัย” อันเดรอา มีข้อจำกัดใน “การมองเห็น” และ โทนี่ มีข้อจำกัดในเรื่อง “ความทรงจำ”

เมื่อ 5 ปีที่แล้ว โทนี่ ริ่มจำชื่อนักดนตรีไม่ได้ ภรรยาพาไปพบแพทย์ และได้รับการวินิจฉัยว่าเขาเป็น โรคอัลไซเมอร์ หลังจากนั้น ความจำของโทนี่ก็เสื่อมลงอย่างช้าๆ

โชคดีที่วันนี้ในวัย 95 ปี เขายังจำภรรยาและลูกๆได้ แต่ความจำอื่นค่อยๆหายไป โทนี่ ลืมเพื่อนๆ และเมื่อเห็นภาพที่ตนเองเคยวาดไว้ ก็ถามภรรยาว่านี่อะไร

เลดี้ กาก้า ซึ่งเราคุ้นกับเธอในแนว ป๊อบ แดนซ์ ได้เข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตโทนี่ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เธอร้องเพลง แจ๊ส กับโทนี่ ซึ่งเป็นสไตล์ของโทนี่

“เด็กวัยหลาน" ที่โด่งดังไปทั่วโลก กับ “นักร้องวัยคุณปู่” ที่โด่งดังมาก่อน ถูกโยงใยถักทอ จนกลายเป็นความผูกพัน และความเคารพรัก กาก้าบอกว่าเธอเคารพโทนี่ที่สุด และย้ำว่าความเคารพนี้มาจาก “ทุกเซลล์ ในร่างกายของฉันเลยนะ”

 

กาก้า-โทนี่ ออกซิงเกิ้ลด้วยกันครั้งแรกเมื่อปี 2011 “Lady is a Tramp” และออกอัลบัม “Cheek to Cheek” เมื่อปี 2014

เมื่อ 3 สิงหาคม 2564 นี้เอง ทั้งสองได้ขึ้นแสดงร่วมกันที่ “เรดิโอ ซิตี้ มิวสิค ฮอลล์” บัตร 6,000 ที่นั่ง ขายหมดเกลี้ยง 

 

 

เลดี้ กาก้า เปิดการแสดงก่อน ขณะที่หลังเวที ซูซาน ภรรยา ต้องค่อยๆบอกกับโทนี่ว่า “รู้ไหมว่าจะต้องขึ้นเวทีคอนเสิร์ตแล้วนะ” แต่ใบหน้าเขาเหมือนไม่รับรู้อะไรเลย! ต้องลุ้นกันสุดๆ...

 

แสงไฟหรี่ลง ซูซานจูงโทนี่ไปยืนกลางเวที พอม่านเปิดและสปอตไลท์ส่องไปที่เขา และผู้ชมกรีดร้อง โทนี่ เบนเนตต์ กลับกลายเป็นคนเดิม ใบหน้าสดใส ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข อ้าแขนทั้งสองออกต้อนรับผู้ชม 6,000 คน พร้อมส่งเสียงมีพลังว่า Wow!

โทนี่ คนเดิมกลับมาทั้งหมดเลยครับ เขาร้องเพลงถึง 12 เพลง และให้ความสุขแก่ผู้ชมเหมือนเดิมทุกประการ นี่แหละครับ พลังแห่งดนตรีและเสียงเพลง ที่สามารถดึงความทรงจำทั้งหมดกลับมาได้จริงๆ

เมื่อถึงเวลาที่ เลดี้ กาก้า ก้าวเดินออกมาอีกครั้ง โทนี่ผายมือไปทางเธอ แล้วประกาศเสียงดังฟังชัดว่า “Lady Gaga!” ฟังแล้วธรรมดาๆนะครับ แต่ไม่ธรรมดาเลย เพราะเธอบอกว่า โทนี่ ไม่เคยเรียกชื่อเธอ เขาเรียกเพียง “Sweetheart” เท่านั้น...

“แต่วันนี้ โทนี่ จำชื่อฉันได้!” กาก้าตื้นตันใจสุดๆ และบอกว่าความรู้สึกในหัวใจ เกือบจะพรั่งพรูออกมา “แต่ฉันต้องคุมอารมณ์ไว้ เพราะต้องร้องต่ออีกหลายเพลง”

คืนนั้น ตรงกับวันครบรอบ 95 ปีของโทนี่ เขาทำได้ประทับใจสุดๆ แต่น่าเศร้าไหมครับ  2 วันต่อมา โทนี่จำเรื่องราวทั้งหมดในคืนนั้น ไม่ได้เลย!

เมื่อต้นเดือนตุลาคมนี้เอง “กาก้า-โทนี่” เปิดตัวอัลบัมใหม่เอี่ยมอ่อง ในชื่อว่า “Love for Sale” เธอใช้เวลาเตรียมตัวถึง 2 ปี เพื่อร้องคู่กับโทนี่ให้ดีที่สุด

ไม่กี่วันมานี้ กินเนส ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า “โทนี่ เบนเนตต์ คือศิลปินอายุมากที่สุด ที่ออกอัลบัมในวัย 95 ปี”

ผมติดตามเรื่องของ กาก้า-โทนี่ ด้วยความซาบซึ้งใจ และประทับใจ ในความสามารถของโทนี่ และผมประทับใจในความเสียสละของซูซาน ที่เอาใจใส่สามีตลอดเวลา

ผมปรบมือให้ “ผู้หญิงยุคใหม่” เลดี้ กาก้า ที่ดูแววตาของเธอก็รู้ว่า ผู้หญิงวัยหลานคนนี้ มอบความรัก ความเคารพ และความเข้าใจ ให้แก่ ผู้อาวุโสโทนี่ อย่างมากมาย

ผมหวังว่าเรื่องนี้ จะเป็นพลังใจต่อ “ผู้อาวุโส” ที่แม้สังขารจะเสื่อมไป แต่ใจต้องไม่ยอมแพ้ และต่อ “คู่สมรส” เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งได้เสื่อมถอยไปก่อน

เรื่องของ “กาก้า-โทนี่” ควรจะเป็นข้อคิด ให้คนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่า เห็นว่า “แม้ต่างวัย เราก็เข้าใจกันได้” กาก้า เป็นฝรั่ง แต่เธอใช้คำว่า “มิตรภาพข้ามวัย” (Inter-generational friendship) ผมเสียดายว่า มิตรภาพแบบนี้ในสังคมไทย กำลังเริ่มหายไป

ความขัดแย้งทางความคิด ของคนต่างวัยในขณะนี้ ทางออกที่ดีคือ หาวิธีสร้างความเข้าใจ และให้ความใส่ใจในความคิดของอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่ใช่ตอบโต้ด้วยถ้อยคำรุนแรงหรือกล่าวหากันไปมา เพราะมีแต่จะทำให้รู้สึกเจ็บใจ และไม่ยอมกันและกัน

ส่วนโทนี่นั้น เขากำลังจะลืมหมดทุกอย่างแล้วครับ และเขาพอแล้วกับการออกอัลบัมและการแสดงบนเวที

ตรงนี้ก็บอกได้เหมือนกันว่า เมื่อถึงเวลาพอ...ก็ควรพอ