โอกาสไม่ได้มาเหนือเมฆ | พิกุล ศรีมหันต์

โอกาสไม่ได้มาเหนือเมฆ | พิกุล ศรีมหันต์

การเคยล้มเหลวตั้งแต่ก้าวแรก ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่มีวันประสบความสำเร็จ ดังกรณีของ นิธิ สัจจทิพวรรณ ผู้ก่อตั้ง MyCloudFulfillment

ย้อนไปเมื่อปี 2012 คุณเมฆ นิธิ สัจจทิพวรรณ เริ่มต้นธุรกิจแรกด้วยการทำธุรกิจจิวเวลรี่แบบ Customization เพราะดูแนวโน้มแล้วประเทศไทยก็มีชื่อเสียงที่ดีในการผลิตจิวเวลรี่ให้เป็นที่ต้องการในต่างประเทศอยู่แล้ว ประกอบกับยุคนั้นธุรกิจ e-commerce เริ่มมีแสงสว่างในตัวเอง น่าจะไปได้สวยถ้าจะเดินบนเส้นทางนี้

ธุรกิจจิวเวลรี่ของคุณเมฆเป็นไปด้วยดีในช่วงเริ่มต้นก่อนจะเงียบเหงาในเวลาต่อมา เมื่อมองย้อนกลับไป คุณเมฆพบว่า เขาเริ่มต้นจับธุรกิจที่ตัวเองไม่มีความรู้หรือความหลงใหลขนาดนั้น เพียงแต่คิดว่ามันน่าจะขายได้ บวกกับการเป็นผู้ประกอบการที่ต้องลงไปดูทุกอย่างด้วยตัวเอง คุณเมฆจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ในการสร้างระบบ “หลังบ้าน” ให้แข็งแรง แต่ก็แลกมากับการไม่มีเวลาดู “หน้าบ้าน” ในการทำหน้าที่ขาย สุดท้ายธุรกิจจิวเวลรี่ก็ต้องชะงักไป

ความล้มเหลวในครั้งนั้นไม่ได้ปิดฉากชีวิตการทำธุรกิจของคุณเมฆ ตรงกันข้าม มันคือจุดเริ่มต้นที่ไม่สูญเปล่าเลย คุณเมฆพบว่าแม้สินค้าที่เป็นจิวเวลรี่จะไม่แข็งแรงและไปต่อได้ แต่สิ่งที่แข็งแรงและสามารถต่อยอดให้กลายเป็น สินค้าได้จริงๆ คือการเห็นปัญหา supply chain ในการทำธุรกิจ และความแข็งแรงของระบบการจัดการ “หลังบ้าน” ที่คุณเมฆเคยทำตั้งแต่ทำธุรกิจจิวเวลรี่

ลองนึกถึงว่าถ้าขายดีแต่ระบบหลังบ้านไม่ดี สั่งของแล้วลูกค้าไม่ได้ของ ลืมตัดสต็อก ของหมดแต่เราไม่รู้ ฯลฯ เราก็จะเสียลูกค้าไปได้ หรือถ้าจะทำธุรกิจแล้วจะต้องเช่าโกดังเพื่อเก็บสินค้าก็ดูเป็นการลงทุนเรื่องใหญ่มากสำหรับผู้ประกอบการ SME 

    “MyCloudFulfillment” จึงเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาระบบหลังบ้าน เพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจสามารถไปโฟกัสที่หน้าบ้านได้ ธุรกิจFulfillment คือบริการที่ทำทั้งจัดเก็บ แพ็กของ และส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าเรียบร้อย

    ความน่าสนใจของ MyCloudFulfillment คือโปรแกรมจัดการออเดอร์ ไม่ว่าจะขายผ่านแพลตฟอร์มใดก็สามารถจัดการได้ครบจบในที่เดียว พร้อมทั้งบริการที่ยืดหยุ่นปรับแต่งได้ตามใจลูกค้า เพราะใช้โมเดลแบบ sharing economy ซึ่งตอบโจทย์ธุรกิจ e-commerce  อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับความรู้สึกของลูกค้าปลายทางที่สั่งซื้อสินค้า 

    ดังนั้น จุดเด่นของ MyCloudFulfillment จึงเป็นเรื่อง Personalization เช่น การใส่การ์ดให้กับลูกค้าไปกับสินค้า การดูแลลูกค้าประเภทต่าง ๆ ในเชิง CRM จึงเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งอื่นๆ ในตลาด และการช่วยให้ลูกค้าเติบโตแบบไม่มีขีดจำกัดด้วย Capacity ของคลังจัดเก็บสินค้าและจำนวนพนักงานที่ยืนหยุ่นตามลักษณะช่วงการขายที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หรือมี SKU ของสินค้าที่เดี๋ยวเพิ่มเดี๋ยวลดตามแนวโน้มของยอดขายได้ตลอด ทำให้ลูกค้าสามารถปรับระบบหลังบ้านให้เหมาะสมตามสถานการณ์ได้เสมอ

    คุณเมฆพูดไว้น่าสนใจมากๆ ว่า ถ้าเขามองธุรกิจของตัวเองเป็น “คลังเก็บสินค้า” เขาจะกลายเป็นธุรกิจขาลง แต่ถ้ามองธุรกิจของตัวเองเป็น “Fulfillment” เขาจะกลายเป็นธุรกิจขาขึ้น

ประเด็นนี้ดีมาก ๆ เพราะความอยู่รอดของธุรกิจเราจะเป็นแบบไหนไม่ใช่ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกอย่างเดียว แต่มาจากวิสัยทัศน์ว่าเรามองธุรกิจของตัวเองเป็นแบบไหนด้วย

ถ้าคิดว่ามีไว้เก็บสินค้าอย่างเดียว เท่ากับว่าถ้าลูกค้าขายของไม่ได้ สินค้าของลูกค้าก็จะมากองอยู่ที่เราอย่างเดียว แต่ถ้าคิดว่ามันคือการบริหารคลังสินค้าและต่อยอดไปสู่บริการแพ็กและจัดส่งสินค้าเพื่อตอบโจทย์ของลูกค้าไปด้วย เท่ากับว่าเรากำลังช่วยให้ลูกค้าทำธุรกิจได้ดียิ่งขึ้นด้วย เมื่อเป็นแบบนี้ ลูกค้าของ MyCloudFulfillment จึงมีทั้งบริษัทใหญ่ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ไปจนถึงลูกค้ามือใหม่หัดขายของออนไลน์ มาแบบไหนก็ตอบโจทย์ได้หมด

โอกาสไม่ได้มาเหนือเมฆ | พิกุล ศรีมหันต์

เมฆ นิธิ สัจจทิพวรรณ  

 เมื่อโควิด-19 เข้ามา กลายเป็นจุดที่ทำให้ e-commerce เติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ความน่าสนใจของ MyCloudFulfillment คือไม่ได้รอให้ “เทรนด์” เกิดก่อนแล้วค่อยปรับธุรกิจ แต่ปรับธุรกิจก่อนที่เทรนด์จะเกิดด้วยซ้ำ คุณเมฆมองเห็นแนวโน้มตั้งแต่ต้นแล้วว่า e-commerce กำลังโต ไม่มีแนวโน้มที่จะตกลง และถ้าการซื้อของออนไลน์ต้องกลายเป็นช่องทางภาคบังคับช่องทางเดียวขึ้นมาจากโควิด-19 แปลว่าธุรกิจ Fulfillment จะยิ่งมีความจำเป็นมากขึ้นกว่าเดิม
    
    ถามว่าตรงนี้คุณเมฆรู้ได้อย่างไร คำตอบคือคุณเมฆมองว่า MyCloudFulfillment คือธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วย Data โดย Data ที่ผ่านเข้ามาในระบบ MyCloudFulfillment บอกหมดเลยว่า e-commerce เติบโตอย่างไร สินค้าอะไรขายดีหรือไม่ดีในช่วงไหน เทรนด์การบริโภคเป็นอย่างไร ฯลฯ เพราะฉะนั้น คุณเมฆจึงรู้ว่าอะไรคือโอกาสที่ต้องคว้าไว้

    โอกาสสำหรับคุณเมฆจึงไม่ใช่สิ่งที่จู่ๆ จะลอยลงมาใส่มือเรา แต่โอกาสคือสิ่งที่ Data บอกอยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้น เพียงแต่เราจะมองเห็นมันหรือไม่ MyCloudFulfillment จึงเติบโตอย่างก้าวกระโดดไม่ใช่เพราะแค่เป็นธุรกิจที่รับกับเทรนด์ที่มาพร้อมกับโควิด-19 แต่เป็นเพราะใช้ Data ให้เป็นประโยชน์

 ความน่าตื่นเต้นกว่านั้นคือ เมื่อ Data ในมือของคุณเมฆบอกหมดว่า สินค้าอะไรขายดีบ้างในช่วงไหน เท่ากับว่าคุณเมฆมีข้อมูลในมือพร้อมถ้าจะต่อยอดธุรกิจใหม่ รอบนี้ไม่ได้ตัดสินใจด้วยสัญชาตญาณ แบบเดียวกับตอนที่ทำจิวเวลรี่เพราะคิดว่ามันน่าจะไปได้ แต่รอบนี้มี Data ในมือที่เป็นตัวบอกว่าอะไรจะไปได้ ซึ่งแม้ว่าจะกลายเป็นธุรกิจขาขึ้นแบบข้ามคืนเพราะโควิด 19 แต่ก็มีเรื่องที่ต้องปรับตัวเช่นกัน 

ลองมาดูกันว่าการปรับตัวธุรกิจโดยใช้ Data ในมือของ MyCloudFulfillment นั้นมีอะไรบ้าง

-    เตรียมการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจในการรองรับเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยดูจาก data ในเชิง behavior ของลูกค้าที่เข้ามาเรื่อยๆ รวมถึงปริมาณการสั่งซื้อสินค้าที่มากขึ้นในช่วงระยะเวลาก่อนหน้าและที่ผ่านมา
-    การขยายคลังสินค้าแบบเร่งด่วน โดยใช้คลังสินค้าที่ว่างจากคู่ค้าอื่นๆ 
-    การใช้ Data จากคลังสินค้าเพื่อดูประสิทธิภาพผ่านการดูฐานข้อมูลต่างๆ ประกอบกันเป็นแพทเทิร์นเพื่อคงประสิทธิภาพในการทำงานของส่วนต่าง ๆ 
-    การแบ่งประเภทของกลุ่มพนักงานเพื่อรองรับในการทำงานช่วงโปรโมชั่น และในกรณีหากมีพนักงานติดเชื้อโควิด – 19
-    การสร้างระบบและการปรับระบบเพื่อรักษาคุณภาพและลดความผิดพลาดในการทำงานของพนักงานทุกๆ กลุ่มทั้งพนักงานประจำและพาร์ทไทม์

    บทเรียนที่เราได้จาก MyCloudFulfillmet คือ 1.อย่าเชื่อว่าการล้มเหลวปิดฉากชีวิตเรา แต่ให้เรียนรู้จากความล้มเหลว 2. มองหาจุดที่ทำให้ธุรกิจของเราเป็นธุรกิจขาขึ้นด้วยการหาปัญหาที่ลูกค้ายังแก้ไขไม่ได้ และเอาธุรกิจของเราไปแก้ไขปัญหานั้นให้ได้ และ3.โอกาสไม่ได้มาเหนือเมฆ แต่มีอยู่แล้วใน Data ที่เราเห็นทุกวัน.