ปอยเปตรุ่งด้วย “เงินบาป” กาสิโน แต่ไทยเมืองพุทธ | โสภณ พรโชคชัย

ปอยเปตรุ่งด้วย “เงินบาป” กาสิโน แต่ไทยเมืองพุทธ | โสภณ พรโชคชัย

ถ้าเรามีโอกาสข้ามฝั่งไปปอยเปต จะพบเห็นความเจริญรุ่งเรืองของเมืองเป็นอย่างมาก ตึกรามใหญ่โตมากมาย ในขณะที่อรัญประเทศของไทย เป็นเมืองเล็กๆ ที่เทียบไม่ติดกับปอยเปต นี่ล้วนมาจาก “เงินบาป” ในขณะที่ไทยซึ่งเป็น “เมืองพุทธ” มีไม่ได้

ผมได้ข้ามฝั่งไปปอยเปตหลายครั้ง พบเห็นความเจริญที่เติบโตขึ้นเป็นอย่างมากในขณะที่ฝั่งไทยโดยเฉพาะที่อำเภออรัญประเทศ แทบไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อหลังสงครามอินโดจีนเมื่อเกือบ 40 ปีก่อนเลย  ความเจริญไปอยู่ฝั่งปอยเปตกันใหญ่

ในอนาคตปอยเปตยังมีนิคมอุตสาหกรรมหรือที่เรียกว่า “Economic Zone” เกิดขึ้นอีกมาก โรงงานต่างๆ จะผุดมากขึ้นกว่านี้ โดยซื้อไฟฟ้าจากประเทศไทย  นี่คือสัญญาณว่าวันหน้ากัมพูชาอาจจะเจริญกว่าไทยหรือไม่
    ปอยเปตเป็นเมืองชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งอยู่ที่ตำบลปอยเปต อำเภออูร์ชเรา จังหวัดบันทายมีชัยของกัมพูชา ตั้งอยู่ติดกับอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ในเมืองมีกาสิโนเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นผู้ใช้บริการ เนื่องจากการพนันในประเทศไทยผิดกฎหมาย ที่ผ่านมาผู้ถือหนังสือเดินทางไทย สามารถเข้าถึงพนมเปญโดยไม่ต้องใช้วีซ่า โดยเดินทางประทับตราหนังสือเดินทางขาเข้าประเทศกัมพูชาได้  อย่างไรก็ตามในช่วงโควิดยังไม่มีการเปิดชายแดน ยกเว้นการขนส่งสินค้า
    ในปอยเปตมีประชากรประมาณ 100,000 คน  ในขณะที่อำเภออรัญประเทศก็มีประชากรน้อยกว่าเล็กน้อยทั้งที่อรัญประเทศมีมาช้านานโดยเดิมเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดกบินทร์บุรี จนวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2468 อำเภอก็ถูกยุบรวมกับจังหวัดปราจีนบุรี ปัจจุบันเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดสระแก้วซึ่งเป็นจังหวัดที่ตั้งขึ้นมาใหม่เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2536  อันที่จริงปอยเปตควรเทียบกับเทศบาลเมืองอรัญประเทศที่มีประชากรไม่ถึง 20,000 คนเท่านั้น  แสดงว่าการพัฒนาไปอยู่ฝั่งปอยเปตเป็นหลัก

บ่อนการพนันในปอยเปตทำให้เศรษฐกิจเติบโต ในบทความวิจัยของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระบุว่า เงินการพนันตามชายแดนต่างๆ เป็นเงินรวมกันประมาณ 120,000 ล้านบาท โดยเฉพาะตามชายแดนกัมพูชานี้ก็ประมาณ 40,000 ล้านบาทต่อปี กาสิโนเหล่านี้สร้างในช่วงปี 2541-2545 จำนวน 7-8 แห่ง   ถ้าประมาณการการดูดเงินจากประเทศไทยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาปีละ 40,000 ล้านบาท ก็เป็นเงินถึง 800,000 ล้านบาทแล้ว  นี่เองที่ทำให้เศรษฐกิจกัมพูชาเติบโตอย่างรวดเร็ว  ในกัมพูชา กาสิโนเป็นสิ่งผิดกฎหมายสำหรับคนเขมร แต่ถูกกฎหมายสำหรับชาวต่างประทศ
    อย่างไรก็ตามในช่วงโควิดนี้อาจมีข้อยกเว้น เพราะไม่สามารถข้ามแดนได้ เมื่อเร็วๆ นี้มีข่าวเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 ว่า “นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า กระทรวงการต่างประเทศมีความห่วงใยต่อปัญหาที่ยังพบคนไทยเดินทางเข้าไปทำงานในประเทศกัมพูชาอย่างผิดกฎหมาย ทั้งกรณีผู้ถูกหลอกลวงหรือผู้ที่ตั้งใจลักลอบเข้าไปก็ตาม โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา รายงานว่าในช่วงเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา มีคนไทยที่ลักลอบทำงานในบ่อนกาสิโนที่เมืองปอยเปต ของกัมพูชา ประมาณ 400 คน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาจับกุม” 
    กาสิโนชื่อดังที่สุดในฝั่งปอยเปตประกอบด้วย
    1. Poipet Casino Resort โดยเปิดให้บริการมาเป็นเวลานาน มีบริการที่ครบครันไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องของเกมกาสิโนที่มีเกมชั้นนำยอดฮิต มีโรงแรมที่ถูกตกแต่งให้มีความสวยงาม และหรูหรา รวมไปถึงยังมีร้านอาหารที่เต็มไปด้วยอาหารแสนอร่อย ทำให้นักเดิมพันสามารถเข้าไปเลือกรับประทานกันได้ตามความต้องการ  ซึ่งบ่อนคาสิโนแห่งนี้ ถือว่าเป็น แหล่งบริการคาสิโนที่มีครบในทุกๆ ด้าน

2. Princess Crown Casino Princess Crown Casino มีเกมเดิมพันให้ได้เข้าไปเล่นหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสล็อต บาคาร่า ไฮโล รูเล็ต และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้นักเดินทางที่ชื่นชอบการเล่นเกมหลากหลาย เลือกที่จะเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก และยังมีที่พักโรงแรมครบครัน
    3. Grand Diamond City เป็นกาสิโนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด นอกจากจะมีเกมให้เล่นมากมายแล้ว ก็ยังมีที่พักหลายโซนเอาไว้ให้ได้เลือกเข้าไปพักกันอีกด้วย
    4. Star Vegas Casino สำหรับกาสิโนแห่งนี้ มีเกมที่มีวิธีการเล่นง่าย มีตัวเลือกหลากหลาย รวมถึงยังมีการจ่ายเงินที่คุ้มค่า และยังมีร้านอาหารกับที่พักคอยให้บริการด้วย
    5. Holiday Palace กาสิโนแห่งนี้มีดีที่เกมเดิมพัน และยังมีดีในเรื่องของที่พัก ร้านอาหาร และสวนสนุกที่จะทำให้นักเดิมพันนั้นสามารถเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจ ได้ตามความต้องการ 

    อย่างไรก็ตามด้วยปัญหาการระบาดของโควิด-19 ทำให้ “วัฒนา อัศวเหม ประกาศขายทิ้ง 2 บ่อนกาสิโนที่ปอยเปต ราคา 1.2 หมื่นล้าน ไปต่อไม่ไหว”  กรณีนี้คงเป็นกรณียกเว้น  อันที่จริงการก่อสร้างในปอยเปตคึกคักมาก เพิ่งมาหยุดในช่วงโควิดนี้เอง ทำให้มีอาคารสร้างค้างเติ่งไว้หลายแห่ง  แต่ภาพรวมการก่อสร้างอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่ในปอยเปตมีมากกว่าในอรัญประเทศเป็นอย่างมาก และน่าจะมีจำนวนตึกสูงมากกว่าในเขตเมืองของจังหวัดสระแก้วด้วยซ้ำไป

ในอนาคตปอยเปตจะเติบโตมากขึ้นกว่านี้ในลักษณะ “พยัคฆ์ติดปีก” เพราะมีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ (นิคมอุตสาหกรรม แต่ในกรณีประเทศไทย เขตเศรษฐกิจพิเศษใหญ่ขนาดภาคหรือจังหวัดไปเลย) ทำให้มีโรงงานต่างๆ เข้าไปตั้งเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะญี่ปุ่น เนื่องจากค่าแรงของคนเขมรถูกกว่าไทยถึงเกือบเท่าตัว  

ส่วนไฟฟ้าในกัมพูชาที่ไม่ค่อยเสถียร ก็ซื้อไฟจากประเทศไทย และในอนาคตกัมพูชาจะใช้ถ่านหินเพื่อความมั่นคงทางพลังงานของกัมพูชาต่อไป   นี่จึงอาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นว่าถ้าไทยยังมะงุมมะงาหราอยู่ ต่อไปแม้แต่กัมพูชาก็อาจนำหน้าไทยไปได้
    อย่างไรก็ตามข้อคิดสำคัญที่พึงตระหนักร่วมกันก็คือ วันนี้ของปอยเปตล้วนมาจากเงินของนักการพนันของไทยแทบทั้งสิ้น นิคมอุตสาหกรรมมาในภายหลังเท่านั้น  อันที่จริงไทยควรมีกาสิโนเช่นเดียวกับต่างประเทศ และมีข้อกำหนดในการเล่น เช่นที่สิงคโปร์ก็มีถึง 2 แห่งแล้ว  การควบคุมที่ดีจะทำให้เงินไม่ไหลออกต่างประเทศ เงินไม่ไหลเข้าแหล่งนอกระบบ เงินที่ได้เป็นภาษีก็นำมาพัฒนาประเทศดีกว่าที่จะปล่อยให้ประเทศชาติตกต่ำไปเรื่อยๆ โดยข้ออ้างเดียวว่า “ไทยเป็นเมืองพุทธ”
    เราต้องคิดใหม่ ทำใหม่ก่อนที่จะสายไปกว่านี้สำหรับประเทศไทย.