ธราธร รัตนนฤมิตศร: อนาคตของงานในยุค AI

ธราธร รัตนนฤมิตศร: อนาคตของงานในยุค AI

ท่ามกลางพัฒนาการอย่างไม่หยุดยั้งของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์ ส่งผลให้เอไอสามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ดีขึ้นในหลายงาน

เราเริ่มเห็นระบบอัตโนมัติในหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ในโรงงาน รถยนต์และรถบรรทุกไร้คนขับ หุ่นยนต์เพื่อให้บริการในโรงแรม ภัตตาคารและโรงพยาบาล ซอฟท์แวร์เอไอที่ช่วยประมวลผลและให้คำแนะนำ แปลภาษา เขียนหนังสือได้อย่างอัตโนมัติและอื่นๆ อีกมากมาย
    คำถามใหญ่ที่ตามมาในวงนโยบายทั่วโลกคือคำถามเกี่ยวกับอาชีพการงานในอนาคตของมนุษย์จะเป็นอย่างไร เมื่องานจำนวนมากถูกทดแทนโดยเอไอ แล้วคนเราจะทำอาชีพอะไร ทักษะอนาคตแบบใดบ้างจะยังเป็นของมนุษย์ และเราจะสอนเด็กให้เติบโตขึ้นมามีอาชีพที่ดีโดยไม่ถูกเอไอทดแทนได้อย่างไร รวมถึงคนที่ทำอาชีพอยู่ในปัจจุบันจะอยู่รอดและปรับตัวในยุคเอไอได้อย่างไร
    ล่าสุด "ไคฟู ลี" ผู้เชี่ยวชาญด้านเอไอระดับโลก ได้เขียนหนังสือเรื่อง “เอไอ 2041” เพื่อฉายภาพอนาคตของเศรษฐกิจและสังคมเอไอในระยะ 20 ปีข้างหน้า รวมถึงได้ให้ข้อแนะนำเกี่ยวกับอนาคตของงานในยุคเอไอได้อย่างน่าสนใจ คุณไคฟู ลีได้เริ่มต้นฉายภาพให้เห็นก่อนว่าอะไรคือสิ่งที่เอไอยังไม่สามารถทำได้ แต่มนุษย์สามารถทำได้ดี ซึ่งจะทำให้งานที่ใช้ทักษะเหล่านี้สามารถต้านทานการทดแทนจากเอไอได้

สิ่งที่เอไอยังทำไม่ได้มี 3 ด้านที่สำคัญ คือ

1. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) สิ่งนี้เป็นสิ่งที่มนุษย์สามารถทำได้ แต่เอไอไม่สามารถทำได้ 
เอไอไม่สามารถที่จะสร้างความคิดใหม่ พัฒนาไอเดียสร้างสรรค์ หรือวางแผนกลยุทธ์ด้วยตัวเองได้ นอกจากนี้เอไอไม่สามารถกำหนดเป้าหมายของตนเอง หรือใช้สามัญสำนึกได้เฉกเช่นมนุษย์ 
    2. ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) เอไอไม่สามารถที่จะรู้สึกได้ ไม่มีทักษะทางสังคม รวมถึงการแสดงความเห็นอกเห็นใจและความเมตตากรุณาได้ เอไอจึงไม่สามารถทำให้คนรู้สึกว่าได้รับความเข้าใจและความห่วงใย แม้ว่าเอไอจะเริ่มพัฒนาขึ้นในด้านนี้ แต่ก็ยังยากมากที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปไว้ในหุ่นยนต์เพื่อตอบโต้กับมนุษย์แล้วทำให้มนุษย์รู้สึกว่าได้รับการดูแลและเอาใจใส่ที่ดีเหมือนได้รับความเห็นอกเห็นใจและความห่วงใยจากมนุษย์ด้วยกัน
    3. ความคล่องแคล่ว (Dexterity) เอไอและหุ่นยนต์ยังไม่สามารถทำงานทางกายภาพที่ซับซ้อน ซึ่งต้องใช้ความคล่องแคล่ว การประสานมือและตาที่แม่นยำ รวมถึงการจัดการกับพื้นที่ที่ไม่รู้จักและไร้โครงสร้างที่ชัดเจนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่เอไอยังไม่ได้เรียนรู้มาก่อนได้ดี
    ดังนั้น มนุษย์ที่มีทักษะสามประการข้างต้นที่ดีจะสามารถปรับตัวในยุคเอไอได้ โดยงานในปัจจุบันหากแบ่งประเภทของงานเป็นงานที่ต้องใช้ทักษะทางสังคมและปฏิสัมพันธ์กับคนหรือไม่ (social vs asocial) และเป็นงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์หรือไม่ (creative vs routine) จะพบงาน 4 กลุ่มใหญ่ๆ 

งานกลุ่มแรก งานกลุ่มที่ไม่ค่อยต้องใช้ทักษะทางสังคมและเป็นงานที่มีแบบแผนชัดเจน เช่น คนที่ทำการตลาดผ่านทางโทรศัพท์ ผู้อนุมัติประกันภัย ผู้อนุมัติเงินกู้ อาชีพเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะถูกทดแทนด้วยเอไอสูง 
    งานกลุ่มที่สอง งานกลุ่มที่ต้องใช้ทักษะทางสังคมสูงแต่เป็นงานที่ค่อนข้างมีแบบแผนชัดเจน จะเป็นงานกลุ่มที่เอไอกับมนุษย์จะทำงานร่วมกัน เช่น ครู ที่ปรึกษาความงาม นักวางแผนการแต่งงาน ผู้นำเที่ยว พนักงานต้อนรับโรงแรม ตัวอย่างเช่นในห้องเรียนในอนาคต เอไอสามารถดูแลการบ้านของนักเรียนและการสอบ การให้คะแนน เสนอบทเรียนมาตรฐานและการฝึกเรียนรู้สำหรับรายบุคคล ในขณะที่ครูที่เป็นมนุษย์ก็จะต้องเน้นไปที่การเป็นพี่เลี้ยงที่เอาใจใส่กับนักเรียน สอนการเรียนรู้ที่ต้องใช้การฝึกการกระทำ การดูแลโครงการกลุ่มของนักเรียน และช่วยนักเรียนพัฒนาด้านความฉลาดทางอารมณ์ เป็นต้น
    งานกลุ่มที่สาม งานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และไม่ต้องใช้ทักษะทางสังคมมากนัก เช่น นักวิจัย นักวิเคราะห์ นักวิทยาศาสตร์ ศิลปิน นักเศรษฐศาสตร์ เอไอจะช่วยเสริมให้ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์นำมาใช้ประโยชน์ในงานได้สูงขึ้น ตัวอย่างเช่น นักวิทยาศาสตร์สามารถใช้เอไอเพื่อเร่งความเร็วของการค้นพบวัคซีนและยา  นักเศรษฐศาสตร์สามารถใช้เอไอเพื่อออกแบบสวัสดิการรายบุคคล นักวิเคราะห์สามารถใช้เอไอประมวลฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องจำนวนมากเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ เป็นต้น  
    งานกลุ่มที่สี่ งานที่ต้องใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์และทักษะทางสังคม เช่น ผู้ประกอบการ ผู้ให้คำปรึกษาด้านอาชีพ นักการตลาดและประชาสัมพันธ์ นักสังคมสงเคราะห์ งานกลุ่มนี้นับเป็นกลุ่มงานที่เหมาะสำหรับมนุษย์สูงสุดโดยเอไอยังไม่สามารถทดแทนได้  นอกจากนี้ หากพิจารณาจากงานที่ใช้ทักษะทางสังคมและงานที่ต้องใช้ความซับซ้อนและความคล่องแคล่วในทางกายภาพ เช่น การช่วยดูแลผู้สูงอายุอาบน้ำ การดูแลเด็ก การให้บริการด้วยความใส่ใจ ซึ่งต้องใช้ทั้งทักษะทางสังคมและความคล่องแคล่ว เอไอก็จะไม่สามารถทำได้ดีเท่ามนุษย์ได้ 
    อนาคตจึงเป็นโลกของการทำงานร่วมกับเอไออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การมาถึงของเอไอช่วยตั้งคำถามกับพวกเราทุกคนอย่างจริงจังว่าอะไรคือแก่นแท้ของความเป็นมนุษย์ ซึ่งสิ่งนั้นจะทำให้มนุษย์อยู่รอด อยู่ได้ดีและอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีในยุคของเอไอที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ.