'กูรู' รวยด้วยแบรนด์

'กูรูอินเดีย' ที่โด่งดังมีหลายคน แต่ที่มีสไตล์ชีวิตหวือหวาและอื้อฉาวสุดๆ คือ Baba Ramdev ซึ่งสาวกจำนวนมากของเขาก็ยังเหนียวแน่นเหมือนเดิม
'กูรูอินเดีย' ที่โด่งดังมีหลายคน ทุกคนมีสิ่งที่เหมือนกันคือมีสาวกเชื่อถือจำนวนมากและร่ำรวย มีหลายคนที่อื้อฉาวและกระทำสิ่งที่ผิดกฎหมายและศีลธรรม สถานการณ์ของกูรูอินเดียมีบทเรียนให้โลกได้เรียนรู้
คำว่า “กูรู” (guru) เป็นภาษาสันสกฤต หมายถึง “ผู้นำทาง ผู้เชี่ยวชาญ ผู้เป็นต้นแบบ” เป็นที่มาของคำว่า “ครู” ดังนั้น จึงมีความหมายลึกซึ้ง อย่างไรก็ดีกูรูอินเดียหลายคนเอาไตเติ้ลมาปู้ยี่ปู้ยำคนหนึ่งนั้นหลังจากอินเดียผ่านพ้นคลื่นการระบาดที่รุนแรงเมื่อไม่นานมานี้ กูรูคนดังสุดๆ ผู้มีสไตล์ชีวิตหวือหวา Baba Ramdev ได้พูดในวิดีโอคลิปที่มีคนดูนับล้านๆ คนว่า “วิทยาศาสตร์การแพทย์ปัจจุบันนั้นงี่เง่า เป็นวิทยาศาสตร์ที่ล้มเหลว เป็นตัวการที่ทำให้คนตายเป็นแสน ๆ มิใช่โคโรนาไวรัส” เมื่อโดนกระหน่ำในโซเชียลมีเดียอย่างหนักก็จำต้องยอมถอนคำพูด แต่หลายอาทิตย์ต่อมา เขาบอกว่าสาเหตุที่คนตายก็เพราะว่าไม่รู้จักวิธีหายใจ
แค่นี้ยังไม่พอ ในขณะที่กำลังระบาดอย่างหนักในเดือนมิถุนายนของปีนี้ Baba Ramdev ก็ตีฆ้องร้องป่าวโดยมีสาวกและสื่อจำนวนมากสนับสนุนว่าเขามียาดี ชื่อ Coronil สามารถปราบโควิดได้ชะงัดอย่างยิ่ง ยาของเขานั้นผ่านการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ทั้งจากห้องทดลองและการทดลองจริงอย่างเป็นขั้นเป็นตอน พร้อมทั้งมีหลักฐานสนับสนุน ซึ่งแน่นอนเขาไม่ได้แจกฟรี หากขายในราคาที่ไม่ถูก
ภายในอาทิตย์เดียวทางการอินเดียก็เอาจริง มีการพิสูจน์คำพูดและพบว่าเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งเพ แต่แทนที่ Baba Ramdev จะชี้แจง เขากลับเก็บตัวเงียบและสะสมความมั่งคั่งต่อไปผ่านบริษัทของเขาที่ตั้งเมื่อปี 2006 ขายทุกอย่างตั้งแต่ยาสีฟันยันบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยอดขายเฉลี่ยประมาณปีละ 1,000 ล้านเหรียญ (32,000 ล้านบาท) ผ่าน 1,900 ร้าน ถึงจะอื้อฉาวแต่สาวกจำนวนมากของเขาก็ยังเหนียวแน่นเหมือนเดิมซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเพราะ มีกูรูดังหลายคนที่มีพฤติกรรมแย่ ๆ แต่ก็ยังมีผู้คนนับถือ
Nikkei Asia ได้รวบรวมกูรูอินเดียดังๆ ไว้อย่างน่าสนใจดังนี้
(1) กูรูนักกอด คือ Mata Amritanandamayi มีชื่อเสียงด้านกอด บางครั้งกอดสาวกต่อเนื่อง 20 ชั่วโมง เขายืนยันว่าใน 30 ปี กอดมาแล้วรวม 33 ล้านคน
(2) กูรูผู้สอนการหายใจ Sri Sri Ravi Shankar ดึงดูดคนจากทั่วโลกมาเรียนโยคะ และวิธีหายใจที่ถูกต้อง เขามีทรัพย์สิน 130 ล้านเหรียญ
(3) กูรูหญิงนักเต้น Radhe Maa ผู้นี้มีดารา Bollywoods เป็นสาวกมีการเต้นรำเป็นแบรนด์ ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอคือสีแดงแจ๋ ไม่ว่าจะเป็นลิปสติก หรือ เสื้อผ้า
(4) กูรูสร้างอัศจรรย์ Sathya Sai Baba มีชื่อเสียงจากการเสกของมีค่าจากอากาศ มีสาวกทั่วโลกจำนวนมากโดยเฉพาะในประเทศไทย สร้างเมือง โรงพยาบาล และมหาวิทยาลัยช่วยชาวบ้าน แต่ก่อนเสียชีวิตในปี 2011 มีคดีฟอกเงิน ฆาตกรรม และทารุณกรรมเด็ก
เป็นเวลากว่าหนึ่งพันปีในดินแดนแห่งความเชื่อที่หลากหลายนี้ กูรูมีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมอินเดีย กูรูสถาปนาตนเองให้เป็นที่ยอมรับโดยการใช้เรื่องราวของจิตวิญญาณ ใช้หลักปรัชญา หลักศาสนาผสมปนเปกับโยคะ การทำสมาธิเพื่อบำบัดความรู้สึกไม่มั่นคงในชีวิตของมนุษย์ โดยเฉพาะในอินเดียที่มีความยากจนสุด ๆ
ผู้เขียนไปตามรอยสังเวชนียสถานครั้งที่สองตอนต้นปี 2020 เมื่อโควิด-19 เริ่มระบาด แต่นึกว่าจากจีนมาอินเดียคงใช้เวลานานพอควรจึงเพลิดเพลินกับประเทศและวัฒนธรรมโดยไม่รู้สึกหวาดหวั่น ผู้เขียนชอบอินเดียและมีความสุขทุกครั้งที่ไปกว่า 10 ครั้ง เพราะ “ดูอินเดียอย่างที่เป็น ไม่ใช่อย่างที่ควรเป็น” จึงไม่รู้สึกเป็นทุกข์ว่าทำไมไม่เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ผู้เขียนนำหลักคิดนี้มาใช้กับมนุษย์โดยพยายามเข้าใจมนุษย์อย่างที่เขาเป็น (ใช้อารมณ์ ขาดเหตุผล มองโลกในแง่ร้าย) ไม่ใช่อย่างที่เขาควรเป็น จึงไม่ค่อยรู้สึกทุกข์ใจกับมนุษย์มากนัก
กูรูและความเชื่อแบบอินเดียเป็นที่รู้จักของชาวโลกอย่างกว้างขวางครั้งแรกในปลายทศวรรษ 1960 เมื่อสมาชิกวงดนตรี The Beatles อันโด่งดังไปเยี่ยมอาศรมของกูรู Maharishi Mahesh Yogi กูรูท่านนี้มีลักษณะพิเศษคือเสียงหัวเราะอันลือลั่น และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กูรูก็มีตลาดให้สร้างความร่ำรวย
ขั้นตอนของกูรูสู่ความมั่งคั่งก็คือการสร้างแบรนด์ส่วนตัวโดยใช้สไตล์การพูดที่น่าฟัง น่าเชื่อถือ มีเหตุมีผล มีอารมณ์ขัน มีไหวพริบ ฯลฯ โดยมีลักษณะเฉพาะตัวให้จดจำ (อื้อฉาว การกอด เสียงหัวเราะ สีแดง เต้นรำ สร้างความอัศจรรย์) และมีเสน่ห์ส่วนตัว เมื่อมีสาวกจำนวนมากแล้วก็อาจเปิดหลักสูตรอบรมราคาแพงให้ชาวโลก (ที่ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง มีความทุกข์ อยากเรียนรู้สิ่งใหม่) รับบริจาค และขายของ กูรูผู้ปรารถนาความรวยใช้เส้นทางนี้ทุกคน กล่าวกันในอินเดียว่าไม่มีกูรูดังที่ยากจนมีแต่มหาเศรษฐีกูรู
ยังมีกูรูดังอีกหลายคนที่โดนข้อหาคดโกง ข่มขืน ล่อลวง ฯลฯ หนีกฎหมายไปอยู่ประเทศอื่น กูรูที่ดังไปตลอดหาได้ยากเพราะความเชื่อถือจากสาวก ความมีชื่อเสียงและความมั่งคั่ง ทำให้กูรู “เสียคน” เมื่อนึกว่าตนเองเป็นซูเปอร์แมนจะทำอะไรก็ได้มันก็จบ เพราะถึงจะเป็นจริงที่ไม่มีใครแตะต้องในหลายกรณี แต่บางกรณีเป็นข้อยกเว้น และข้อนี้แหละที่กลับมาทิ่มแทงในภายหลัง
ในบ้านเราก็มี “กูรู” ในรูปแบบต่าง ๆ อยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นดารา นักประชาสัมพันธ์ คนดัง นักต้มตุ๋นที่ใช้ศาสนาบังหน้า ฯลฯ โดยมีจุดหมายสุดท้ายคือเงิน ที่น่าเฝ้าดูก็คือจะมีจุดจบเหมือนกูรูดังหลายคนหรือไม่
ถ้าไม่อยากเป็นเหยื่อให้ใครหาประโยชน์จาก ความรู้สึกไม่มั่นคง ความอ่อนแอ สถานการณ์ปัญหาที่ตนเองเผชิญ ฯลฯ ก็ต้องระมัดระวัง “กูรู” เหล่านี้ให้จงดี.
คำชี้แจง : “7 วินาที ที่มีความหมาย” เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีผู้แสดงตน (คุณวิศ-วิศรุต-สินพงศพร แห่ง “เพจวิเคราะห์บอลจริงจัง”) ว่าเป็นเจ้าของข้อเขียนซึ่งผมนำมาสื่อสารต่อและเพิ่มข้อคิดดังที่ทำอยู่เนือง ๆ ผมรู้สึกยินดีเนื่องจากผมได้ระบุไว้ชัดเจนแต่แรกว่าได้นำเอาข้อเขียนที่น่าสนใจจากอินเตอร์เน็ตมาโดยไม่ทราบเจ้าของ ผมต้องการเชิดชูข้อเขียนที่ดี ๆ มาให้ท่านผู้อ่านได้รู้จัก หากมีชื่อผู้เขียนผมก็ระบุไว้ หากได้มาโดยไม่มีชื่อเจ้าของก็จะบอกไว้เช่นกัน ผมถูกต่อว่าถึงไม่มีชื่อก็ควรตรวจสอบโดยพิมพ์ข้อความบางประโยคลงใน Google ก็จะปรากฏชื่อเจ้าของ ผมขอสารภาพด้วยทักษะด้านไอทีอันจำกัดของคนวัยผมว่าผมไม่เคยรู้วิธีนี้มาก่อน ผมรู้สึกเสียใจที่ไม่รอบคอบในการตรวจสอบหาชื่อเจ้าของ ผมต้องขอโทษเป็นอย่างยิ่งหากทำให้ท่านเจ้าของเสียความรู้สึกและต้องขออภัยท่านผู้อ่านด้วยที่มิได้พยายามหาข้อมูลให้ครบถ้วน ผมเขียนบทความมาต่อเนื่องเกือบ 30 ปีโดยไม่เคยมีเหตุการณ์ใด ๆ ผมจึงรู้สึกเสียใจเป็นพิเศษและได้โทรศัพท์ไปขอโทษคุณวิศรุตเป็นการส่วนตัวแล้วครับ.




