รำลึกถึง Roger Hood ปรมาจารย์ทางอาชญาวิทยา

รำลึกถึง Roger Hood ปรมาจารย์ทางอาชญาวิทยา

Roger Hood ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด นักวิชาการทรงคุณค่าที่เพิ่งจากไปเมื่อ 17 พ.ย.2020 และเป็นอาจารย์ของผมเองครับ

Professor Roger Hood เป็นอาจารย์ของผมเองครับ เป็นนักวิชาการทรงคุณค่าที่เพิ่งจากไปเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2020 คนไทยเราเชื่อเรื่อง "ดวงสมพงษ์" คือคนที่ต้องชะตากัน ผมเองสมัครเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด ด้วยใจหวั่นไหวเพราะผมไม่รู้จักใคร ไม่มีเส้นสาย ไม่มีเงินทุนมากมายจะไปบริจาคให้มหาวิทยาลัย แต่อาจโชคดีด้วยความเป็นนักเรียนทุนของจุฬาฯ มีผลการเรียนผลคะแนนภาษาอังกฤษพอรับได้ ใบสมัครผมเลยเวียนมาถึง Professor Roger G. Hood ผมเคยถามท่านว่า อาจารย์ทำไมเลือกผม


ท่านเล่าให้ฟังหลายเรื่อง ตั้งแต่สมัยท่านเรียนที่ LSE (London School of Economics and Political Science) ท่านสนิทสนมกับหญิงสาวชาวไทยท่านหนึ่งทำให้คุ้นเคยกับนิสัยใจคอของคนไทย นอกจากนั้นท่านอาจารย์ของผมยังสนใจประเทศไทยเพราะ ประเทศไทยมีการใช้ "โทษประหารชีวิต" บังเอิญท่านเป็นที่ปรึกษาองค์การสหประชาชาติเกี่ยวกับโครงการยกเลิกโทษประหาร ท่านเลยสนใจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ในบ้านเรา รวมทั้งท่านบอกว่า ท่านกำลังจะเกษียณ เลยอยากได้นักเรียนอีกสักคน ผมเลยโชคดีได้เป็นศิษย์ก้นกุฏิคนสุดท้ายของท่าน

ระหว่างเรียนที่อ๊อกซ์ฟอร์ดเกือบเจ็ดปีเต็ม ผมสนิทคุ้นเคยกับท่านอาจารย์ Hood และ Nancy ภรรยาชาวอเมริกันของท่านมาก วันที่ประทับใจมากสุด นอกจากวันแรกพบกับท่านทั้งสองแล้ว คือ วันที่ผมต้องสอบป้องกันวิทยานิพนธ์ของผม (Viva voce) ท่านรู้ดีว่าผมเป้นคนขวัญอ่อนตื่นสนาม เพราะต้องเจอกับอาจารย์ภายนอกที่มาสอบผมซึ่งผมไม่รู้จักได้ยินแต่กิตติศัพท์อันโด่งดัง ท่านเลยพาผมเดินเล่นที่ Magdalen park (อ่านว่า ม๊ดแล่น พาร์ก) ดูกวางที่วิ่งในสวน สูดอากาศบริสุทธิ์ ท่านให้กำลังใจผมเสมอ เจอกันทุกครั้งท่านสุภาพมากต้องใส่เสื้อแจ๊กเก็ตให้ผมเสมอ (คงทราบดีนะครับว่าอังกฤษอากาศหนาว เจอกันเข้าห้องก็ต้องแขวนแจ๊กเก็ตเพราะอากาศในห้องจะอุ่นจากเครื่องทำความร้อน)


กระทั่งวันรับปริญญาบัตร ผมกับคุณพ่อคุณแม่และน้องๆ ไปร่วมพิธีรับปริญญาบัตรที่อังกฤษ ท่านยังให้เกียรติมาร่วมพิธีในหอประชุม ร่วมรับประทานอาหารกับผมและครอบครัวเมื่อมาเยี่ยมผมที่เมืองไทยในโอกาสต่างๆ แต่ด้วยอายุขัยของมนุษย์ ภรรยาท่านเพิ่งเสียไปเมื่อเพียงหนึ่งปีที่ผ่านมา คนไทยเรามักพูดกันว่า "คู่สร้างคู่สมมักมีอายุขัยไล่เรี่ยกัน" ท่านอยู่กันตามลำพังสองคนตายายแบบครอบครัวฝรั่ง ลูกๆ หลานๆ แยกย้ายไปมีครอบครัวกันคนละทิศทาง และเหมือนผมจะมีความสังหรณ์ใจบางอย่าง เมื่อทราบข่าวภรรยาท่าน

ผมเลยตัดสินใจทำเรื่องลาราชการเพื่อเดินทางไปอังกฤษทันทีเมื่อราวหนึ่งปีที่ผ่านมา (ต้องเรียนว่าผมเป็นคนไม่ชอบเดินทางไกล แต่ด้วยแรงแห่งความสำนึกในพระคุณของท่าน ผมจึงไปเยี่ยมท่านที่อ๊อกซ์ฟอร์ดราวๆ สองสัปดาห์) นับเป็นคร้งสุดท้ายที่ผมได้พบได้จับมือ กอดทักทายกันก่อนโควิทจะระบาดรุนแรง ถือว่าคุ้มค่า เสียดายตรงที่ผมพาท่านไปทานอาหารไทยชือ่ดังร้านหนึ่งบน High street ใน Oxford ชื่อ “เชียงใหม่คิทเช่น” แต่เจ้าของเป็นชาวเช็กหรือโปลิช ไม่แน่ใจนักในร้านมีโต๊ะนั่งอยู่ตัวหนึ่งค่อนข้างส่วนตัวมาก เป็นโต๊ะตัวที่ท่านนั่งทานอาหารประจำกับ Professor Radzinowicz ปรมาจารย์ทางอาชญาวิทยาอีกท่านหนึ่งผู้ล่วงลับไปแล้ว


ท่านทั้งหลายไม่ต้องมาเรียกผมว่า "ลุงทอง" นะครับ เพราะผมไม่ใช่คนดัง แต่ด้วยความที่ท่านอาจารย์จากไปโดยไม่ได้บอกกล่าว หลังที่ท่านไปแล้ว แม้จะไม่ทราบข่าว ผมก็นอนหลับฝันถึงเรื่องราวในอ๊อกซ์ฟอร์ดหลายครั้ง (โดยเฉพาะฝันที่ชอบหลอกหลอนผมว่า ยังเรียนไม่จบต้องแก้ไขวิทยานิพนธ์อีกหลายบท แสดงให้เห็นว่าการเรียนที่นั่นไม่สนุกเลย) และในฝันยังได้พบกับผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่านที่ล่วงลับไปแล้ว บังเอิญเดือนธันวาคม เป็นเดือนที่ผมป่วยเข้าโรงพยายาลเกือบเดือนเต็มๆ (จริงๆ เริ่มป่วยตั้งแต่หลังวันคล้ายวันเกิดของผมในเดือนพฤศจิกายน) ผมไม่เอะใจอะไรเลย เพราะปกติผมกับอาจารย์สื่อสารกันทางอีเมล เนื่องจากอาจารย์ฮู้ดของผมไม่เล่นไลน์หรือโซเชียลมีเดียอื่นๆ อาจโทรไปหากันบ้างเฉพาะวาระสำคัญ เช่น อีสเตอร์ คริสต์มาส เป็นต้น ปรากฎว่าเดือนธันวาคมอาการผื่นคันของผมหายดี แต่ผมเหมือนยังต้องฟาดเคราะห์อีกเลยไปล้มหัวเข่าพลิก ทุกวันนี้ยังเดินขากระเผกๆ อยู่ครับ ทำให้ไม่ได้ติดต่อกับท่านอาจารย์อย่างต่อเนื่อง


ถึงเดือนมกราคม ส่งคำอวยพรไปไม่เห็นตอบมาก็เข้าสู่ช่วงเปิดเทอม เวลาของผมก็ทุ่มไปกับการเรียนการสอนแบบออนไลน์ กระทั่งมีเวลาได้ไปค้นหาเรื่องงานของอาจารย์เลยเจอข่าวเศร้าข่าวนี้ ผมจึงขอนำมาแจ้งให้ท่านทั้งหลายได้ทราบเคียงคู่กับข่าวของเมียนมาร์ที่กำลังเป็นที่สนใจ เพราะเมียนมาร์หรือ “พม่า” กับ “อังกฤษ” มีความเกี่ยวพันกันในหลายเรื่องทั้งประวัติศาสตร์ของชาติและความเกี่ยวพันกับตัวผู้นำของเขาที่ยังถูกกักตัวในขณะที่เขียนบทความชิ้นนี้ ถือเป็นการน้อมรำลึกหรือ pay tribute ให้ทุกท่านได้รู้จัก Professor Roger G Hood แห่ง All Souls, University of Oxford อาจารย์ของผมที่เป็นครูแท้ของผมอีกท่านหนึ่ง ภาษาอังกฤษที่เขียนต่อไปนี้ เป็นข้อความที่ผมส่งถึงคนที่อ๊อกซ์ฟอร์ดเพื่อแสงความอาลัยต่อท่านครับ.

"Roger is beyond what people call him " a great teacher" To me he is my guru, my mentor, and a great human being. I was rather startled to hear the news of his untimely demise. My heart felt condolences to his bereaved family. I wish his family immense strength and peace in life.. May his soul rest in peace.”