“หมาหยอกไก่”

“หมาหยอกไก่”

ผมยกเอาสำนวนโบราณมาเปรียบเปรยกรณีสหรัฐอเมริกา กับไทย ที่เพิ่งมีข่าวว่า ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ ประกาศ ตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(จีเอสพี)

แก่สินค้าของไทย 573 รายการ ในอีก 6 เดือนข้างหน้า หรือประมาณเดือน เม.ย. 2563 โน่น

ทำไมผมถึงเปรียบเรื่องนี้ ว่า “หมาหยอกไก่” คือ ธรรมชาติของสัตว์ 2 ชนิดถ้าหมาจะกินไก่กินเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ไม่กิน แกล้งขู่แยกเขี้ยวเคี้ยวฟัน ไปอย่างนั้น

ตอนที่อเมริกา บอกจะตัดสิทธิ์จีเอสพี สินค้าไทย โหตอนนั้น รัฐบาล “ลุงตู่” แทบจะถูกเหยียบย้ำจมดิน เพราะมีพวกไปเหมาเอาตัวเลขรวม 40,000 ล้านบาท

สื่อเมืองนอกหัวไทย อย่าง “บีบีซีไทย” ได้ทีโปรยข่าวเสียน่ากลัว “การประกาศระงับข้อตกลงตามมาตรการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ของสหรัฐฯ แก่ประเทศไทยในสินค้า 573 รายการ ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมเกือบ 40,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ต.ค. กลายเป็นปัญหาใหม่ของรัฐบาลที่เกี่ยวโยงกับทั้งเศรษฐกิจ และด้านสิทธิแรงงาน” bbb.com,29 ตุลาคม 2019

จากนั้นก็ตามมาด้วยพรรคฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้นถล่มแยกเขี้ยวเคี้ยวฟันกันเซ็งแซ่

ขณะที่รัฐบาลบอกว่ามีเวลาที่จะเจรจากับสหรัฐ และมูลค่าตัวเลขจีเอสพีที่ถ้าตัดจริง ก็หลักพันล้านบาท

และในคราวไทยเราเป็นเจ้าภาพประชุมอาเซียน ครั้งที่ 35 การหารือทวิภาคี ระหว่าง นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ นายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์สหรัฐอเมริกา ครอบคลุมหลายประเด็น โดยกรณีที่ทางการสหรัฐฯ สั่งระงับจีเอสพี สินค้าไทย นายกรัฐมนตรี ก็บอกกับรมว.พาณิชย์มะกัน ว่า รัฐบาลไทยเข้าใจดีว่าเป็นสิทธิที่ฝ่ายสหรัฐเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม เพียงแต่กระแสสังคมของไทยยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ ซึ่งรัฐบาลไทยพยายามชี้แจง เพราะไม่ต้องการให้บานปลายจนเป็นความขัดแย้ง

นายกฯ ได้ฝากกับรมว.พาณิชย์สหรัฐ ในฐานะที่ไทยและสหรัฐมีความสัมพันธ์มาอย่างยาวนาน หวังว่าสหรัฐจะพิจารณาในประเด็นนี้โดยเฉพาะมุมที่จะเกิดประโยชน์กับผู้ประกอบการไทย และความสัมพันธ์ที่มีระหว่างกัน

รมว.พาณิชย์ สหรัฐ บอกด้วยไมตรีว่า ที่จริงมูลค่าในส่วนดังกล่าวเป็นจำนวนไม่มากนัก อีกทั้งยังมีเวลาอีก 6 เดือน ก่อนที่จะมีผลบังคับและสามารถทบทวนแก้ไขได้ โดยฝ่ายสหรัฐพร้อมจะสนับสนุนให้มีการหารือกับ รมว.พาณิชย์ของไทย ในการหาทางออกหรืออุทธรณ์สินค้าของไทยบางรายการ เพื่อให้ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีกลับคืนมา และบางรายการก็ได้รับคืนสิทธิกลับมาแล้วรวมถึงยินดีรับฟังข้อมูลและข้อเสนอจากกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการต่างประเทศของไทย เพื่อนำไปใช้ในการพิจารณาคืนสิทธิให้สินค้าของไทย

เอ้า ถ้ายังไม่เชื่อว่า ท่าทีอ้ายกันนั้นเปลี่ยนไปจริงๆ อีกคนที่ยืนยันเรื่องนี้ก็คือ ตัวแทนของทรัมป์

โดยการหารือระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับ “โรเบิร์ต ซี โอไบรอัน” ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัล ทรัมป์ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนสหรัฐอเมริกา ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง

นายกฯตู่ ก็ยกเอาเรื่องจีเอสพีขึ้นมาหารือ

ซึ่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสหรัฐฯ บอกว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ฝากหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อย้ำว่า สหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับการกระชับความสัมพันธ์กับไทยในฐานะมิตรประเทศอันใกล้ชิด ชื่นชมการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทยในปีนี้

ส่วนประเด็นการประกาศพักสิทธิจีเอสพี สหรัฐฯ รับไปพิจารณาอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาคเอกชนไทย

เห็นไหมครับ ว่า เรื่องตัดสิทธิจีเอสพีไทย แค่เรื่อง “หมาหยอกไก่” แค่นั้นแหละ