เด็ดปีกวิหคหาดใหญ่

เด็ดปีกวิหคหาดใหญ่

ผมยังติดตามคดี “อารีด หมัดอะดั้ม” ผู้เผยแผ่ศาสนาอิสลาม ตกเป็นผู้ต้องหา กรณีตำรวจสายตรวจชุดวิหค สภ.หาดใหญ่ จับกุมเมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา

 โดยยัดข้อหาเสพยาเสพติด แต่จากผลตรวจปัสสาวะของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12 สงขลา ยืนยันว่า “อารีด” ไม่มีสารเสพติด ส่อว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เพราะทำให้ อารีด” ต้องถูกดำเนินคดีเสพยา และถูกคุมขังรวม 5 วัน ถูกชุมชนมุสลิมรังเกียจ 

ผมคุยกับ อารีด และคนใกล้ชิด บอกว่า ไม่อยากให้เอาศาสนามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ถึงกระนั้น ยังมีความพยายามของฝ่ายตำรวจบางคน โจมตีกล่าวหาว่า อารีด ไม่ได้เป็นผู้เผยแผ่ศาสนาจริงๆ แต่เป็นแค่การกล่าวอ้างเพื่อดึงศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องในคดี เพื่อให้เป็นไปในลักษณะกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่รัฐ ได้กระทำการล่วงเกินศาสนา

เพื่อให้หายสงสัยปมปัญหานี้ ศักดิ์กรียา บิลสาและ” ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา และกะเดช เบญอะหลี โต๊ะอิหม่าม ประจำมัสยิดนูรุลอิสลาม (หนองจูด) หมู่13 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ให้การรับรองว่า อารีด หมัดอะดั้ม” เป็นผู้อบรมสั่งสอนกลุ่มดะวะฮฺ เพื่อให้การปฏิบัติศาสนกิจตามบัญญัติศาสนาอิสลามจริง

นอกจากสร้างความสับสนในตัว อารีด ยังพบว่าตำรวจบางคนวิ่งเต้นขอจบคดีไม่ให้เอาเรื่อง ซึ่งก็น่าแปลก เวลาจะยัดความผิดให้คนอื่นไม่ยอมคิดหน้าคิดหลัง พอโดนกับตัวเองกลับส่งคนมาวิ่งขอเคลียร์ แต่ อารีด ไม่ยอมใจอ่อน

ล่าสุด ผู้อำนวยการสำนักจุฬาราชมนตรี คัมภีร์ ดิษฐากรณ์” บอกกับผมว่า กรณีนี้สำนักจุฬาราชมนตรี จะสอบถามข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา ซึ่งมีหน้าที่ดูแลพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ ถ้า อารีด ร้องเรียนเข้ามาก็พร้อมเข้าไปช่วยเหลือในทุกทาง รวมถึงทำหนังสือขอให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องชี้แจง กลับมาที่สำนักจุฬาราชมนตรีได้

อาอีฉ๊ะ หมัดอะดั้ม ภรรยาอารีด บอกว่า เป็นเรื่องดีที่สำนักจุฬาราชมนตรี จะให้ความสนใจกรณีสามี โดยจะขอปรึกษาทนายความ ว่าที่ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ และร.ต.อ.วัชรินทร์ เบญจทศวรรษ ผู้ช่วยเหลือเหยื่อทางคดีอาญาก่อน ส่วนเงินทองที่จะใช้สู้คดี เด็ดปีกวิหคหาดใหญ่ เมื่อวันอาทิตย์ ครอบครัว “อารีด จัดเลี้ยงน้ำชา วันนั้นจึงได้ทั้งเงิน ทั้งกำลังแรงใจให้ อารีด ลุกขึ้นมาทวงคืนศักดิ์ศรี และความเชื่อมั่นกลับคืนมา