อย่ามองข้าม นายกฯชื่อ “เนวิน”?

นาทีนี้ ไม่มีใครไม่รู้จัก เพจ“ลุงเนวิน” เพราะสเตตัส “วิพากษ์สมาคมลูกหนังไทย” และ “ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน” โดนใจมวลมหาประชาชนเหลือเกิน

“เนวิน ชิดชอบ” ถือฤกษ์เปิดเพจลุงเนวิน วันที่ 14 ก.ค.2561 ซึ่งวันนั้นตรงกับวันที่ “ทักษิณ ชินวัตร” จดทะเบียนก่อตั้งพรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2543

บังเอิญหรือจงใจไม่ทราบ แต่เซียนการตลาดการเมืองอย่างเนวิน ย่อมมิคิดชั้นเดียวเชิงเดียว

ตอนแรก เพจลุงเนวิน คล้ายจะเป็นช่องทางโปรโมทโมโตจีพี 2018ที่ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่าง 5-7 ต.ค.นี้

แต่มาถึงวันที่เพจลุงเนวิน มีคนมากดถูกใจ 1.5 แสนไลค์ ภายใน 2 เดือนเศษ เนวินกลับใช้เพจนี้ เป็นเครื่องมือสื่อสารทางการเมือง

เพจลุงเนวิน เปิดประเด็นความเดือดร้อนของชาวบ้านแบบเราๆ โดยยกการสร้างโมเดลบุรีรัมย์ พร้อมวาทะ “จังหวัดไหนอยากเจริญ ต้องลดอำนาจให้ประชาชนบ้าง”

สเตตัสเรียกร้องให้รัฐลดอำนาจ เพิ่มอำนาจประชาชน ถือว่าเนวินเป็นนักเลือกตั้งจอมเก๋า รู้ว่า ชาวบ้านอึดอัดกับระบบราชการมา 4 ปี เม็ดเงินหดหายไปจากตลาดรากหญ้า ชีวิตพวกเขาลำบากลำบน

จริงๆแล้ว สิบกว่าปีมานี้ เนวินไม่เคยทิ้งการเมือง เขาใช้กลยุทธ์ “ลูกหนังเซาะกราว” อำพรางตัวเองในภาพกว้าง แต่อีกด้านหนึ่งใช้เกมลูกหนัง สร้างฐานการเมือง สร้างเครือข่ายนักเลือกตั้ง

เมื่อฤดูเลือกตั้งใกล้เข้ามา การเปิดเพจลุงเนวิน ย่อมไม่ต่างจากการก้าวเท้าออกจากอาณาจักรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่างมีจังหวะก้าว เรียกคะแนน เรียกความตื่นเต้น ด้วยสเตตัสร้อนๆ

เนวินอ่านเกมเป็น ดูเกมออก จึงเลือกประเด็นร้อนที่โดนใจชาวบ้าน อย่างความปราชัยของทีมชาติไทย เขาพูดประหนึ่งว่า ไม่ใช่ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง “โค่นบังยี ปั้นบิ๊กอ๊อด”

เนวินไม่ต้องออกแรงเดินสายสร้างข่าวแบบกลุ่มสามมิตร เพียงอาศัยเพจลุงเนวิน เก็บแต้มไปเรื่อยๆ ตุนคะแนนเนียนๆ ก็ทำให้วงการเมืองสั่นไหว

คอบอลจึงเรียกร้องให้ลุงเนวินมาเป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ คอการเมืองก็เริ่มส่งเสียงให้กลับมาลงสมัคร ส.ส. แถมเลยเถิดเชียร์ให้เป็นนายกรัฐมนตรี

จอมยุทธ์เซาะกราว ไม่เป็นนายกฯ หรอก...การเลือกเป็น “ผู้บารมีหลังม่าน” นั้น ใหญ่กว่าเยอะ