แผนพัฒนาชาติ คนพัฒนาประเทศ

แผนพัฒนาชาติ คนพัฒนาประเทศ

เจริญพรสาธุชน ผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. เริ่มเข้าสู่ฤดูโยกย้ายข้าราชการ อันเป็นธรรมเนียมที่ต้องมีการวิ่งเต้น

มีการคิดคาดเก็งกันไปว่า ใครจะได้ขึ้นตำแหน่งสำคัญ ใครจะได้ไปทำหน้าที่อะไร ที่ไหน อย่างไร.!?

บ้านเมืองของเรานำบุคคลไปข้องยึดกับตำแหน่งยศศักดิ์ มากกว่าเรื่องบทบาทหน้าที่ ...การวิ่งเต้นในทุกรูปแบบจึงเกิดขึ้น และหนีไม่พ้นการวิ่งเข้าหาผู้มีอำนาจบารมีที่สามารถชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ได้

จึงมีการพูดกันเล่นๆ ในหมู่ข้าราชการว่า ๑ ปีมี ๑๒ เดือน จะได้ทำงานจริงๆ สัก ๖ เดือน ส่วนอีก ๖ เดือนเป็นช่วงเวลาของการซ้อมวิ่ง(เต้น).. จึงได้เห็นระบบการทำงานในราชการเดินๆ หยุดๆ .. ให้ชาวบ้านผู้เป็นเจ้าของประเทศปวดหัวเล่น

หลายประเทศพัฒนาระบบการทำงานในองค์กรของรัฐให้เป็นอิสระ ปลอดจากอำนาจควบคุมจากศูนย์กลาง โดยกระจายไปตามบริบทของสังคม ชุมชน ท้องถิ่น ที่เน้นให้ความสำคัญกับการทำงานตามหน้าที่ มากกว่ายศถาบรรดาศักดิ์ ตำแหน่งที่ติดยึดกันมายาวนาน การมุ่งเน้นเฟ้นหานักบริหาร .. ผู้ดำเนินงาน คนทำงาน ก็ได้ผลจริงๆ เมื่อให้แต่ละหน่วยงานที่สำคัญเป็นอิสระในการบริหารงานบุคคล ไม่ขึ้นตรงต่อศูนย์กลาง ที่เคยรวบ รวมอำนาจชี้เป็นชี้ตายการก้าวหน้าของบุคลากรในองค์กรไว้ในกำมือของผู้บังคับบัญชาระดับสูงสุดเพียงคนเดียว ที่ยากจะเที่ยงตรง มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ ในการเฟ้นหาบุคลากรมืออาชีพ เพื่อตอบสนององค์กรหรือหน่วยงานนั้นๆ ให้สามารถบริหารการจัดการดำเนินงานไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้องตรงตามนโยบายขององค์กรที่ตอบสนองความต้องการของแผ่นดิน

อำนาจชี้เป็นชี้ตายในมือคนๆ เดียว จึงน่ากลัวเป็นอย่างยิ่งต่ออนาคตของประเทศชาติ ที่ต้องการไปสู่จุดหมายเบื้องหน้าอย่างมีระบบแบบแผน เพื่อความทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ

สังคมบ้านเรามักจะปรับเปลี่ยนแผนงานกันไปตามยุคสมัย จนบุคลากรในหน่วยงานแต่ละแห่งโดยเฉพาะภาครัฐ ปวดหัวมึนงงต่อนโยบายที่ถูกปรับเปลี่ยนไปตามเช้า สาย บ่าย เย็น ดังที่ได้พบเห็นการสัมมนาทางวิชาการจัดทำแผนยุทธศาสตร์แบบทันสมัยของแต่ละองค์กรกันอยู่เสมอ เพื่อความก้าวหน้า ... รองรับแผนพัฒนายุทธศาสตร์ของประเทศชาติได้ อย่างล่าสุดมีการจัดทำยุทธศาสตร์พ.ศ.๒๕๖๐ มีกระบวนการจัดการครบทุกเงื่อนไข โดยการรับฟังความคิดเห็นครบ ๔ ภาค เพื่อจัดทำแผนแม่บทในแนวทางการปฏิบัติเป็นกรอบพัฒนาประเทศในอีก ๒๐ ปีข้างหน้า ทั้งในด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ มนุษย์ สังคม สิ่งแวดล้อม และการจัดการภาครัฐ เป็นการวางแผนพัฒนาประเทศชาติกันในระยะยาว เพื่อกำหนดแผนการพัฒนาประเทศในภาพรวมให้เหมาะสมและเท่าทันการเปลี่ยนแปลงทั้ง ๖ ยุทธศาสตร์หลัก เพื่อนำประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน... ซึ่งเขาเขียนว่ากันอย่างนั้น !!

จริงๆ ที่ยกแผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปีมาพูด มิได้ต้องการลงลึกไปในสาระ.. เพราะเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยไม่เคยขาดแผนงาน .. ไม่เคยขาดแผนยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศ ที่ประชุมกัน .. จัดทำกันในทุกสมัย แผนยุทธศาสตร์จึงไม่ใช่ปัญหาหลัก เท่ากับแผนงานการสร้างยุทธวิธี เพื่อลงไปในรายละเอียดของการทำงานของบุคลากรที่ต้องปฏิบัติงานตอบสนองนโยบาย ซึ่งหากปล่อยให้เป็นไปอย่างอิสระ... เป็นธรรมชาติในแต่ละระบบงาน ก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไรในประสิทธิภาพของคน เพื่อคุณภาพของงานที่ประสงค์

แต่ปัญหาจริงๆ ของประเทศ คือ การใช้คนไม่เหมาะสมกับงาน (Put the right man to the right job) … ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ไม่มีคนที่เหมาะสมกับงาน ดังที่กล่าวไปแล้วว่า เรามีบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ มีสมรรถภาพครบองค์ เพื่อการทำงานอย่างมีคุณภาพ... แต่สิ่งที่เป็นปัญหามาโดยตลอดในการบริหารจัดการในองค์กร คือ การขาดความเที่ยงธรรมในการเลือกสรรบุคลากร เพื่อสนองนโยบายในการทำงานตามแบบแผนของยุทธศาสตร์การพัฒนาสังคม ประเทศชาติ

วันนี้ของการก้าวย่างไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และความสุขของประเทศ จึงขึ้นอยู่กับการใช้อำนาจตามหน้าที่ให้เป็นธรรม... อย่าได้ใช้ธรรมเป็นไปเพื่อสร้างอำนาจวาสนาดังที่ผ่านมา ... ถ้าแก้ปมปัญหาดังกล่าวนี้ได้จริงๆ ระฆังสัญญาณแห่งการปฏิรูปประเทศชาติได้ส่งเสียงดังขึ้นแล้วจริง ... และเชื่อมั่นได้ว่า ทุกแผนงานจะถูกขับเคลื่อนไปสู่จุดหมายอย่างมีประสิทธิภาพ

      เจริญพร