พร้อมไหม…เจน Z มาแล้ว

พร้อมไหม…เจน Z มาแล้ว

ช่วงนี้ คุณได้เริ่มสัมภาษณ์ผู้สมัครงาน เจเนอเรชั่น Z กันบ้างหรือยังคะ

ดิฉันได้รับใบสมัครใบหนึ่งจากผู้สมัครตำแหน่ง Human Resources Officer น้องไม่เคยมีประสบการณ์ทำงาน จบปริญญาตรีสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศมาจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง

แปลกจังทำไมจบ IT แต่อยากมาทำงาน HR? เราจึงลองเชิญน้องมาคุย

น้องโดนัทบอกว่า “เรียน IT ในรั้วมหาวิทยาลัยมา 4 ปี แต่รู้สึกว่าสายนี้ยังไม่ใช่!”

เรียนมาตั้ง 4 ปีจนจบ แล้วจะทำอย่างไรต่อกับชีวิต!! (พี่แอบคิดในใจ)

น้องโดนัทตอบชิล ๆ ว่า “ก็จะลองทำงานดูก่อน เผื่อจะหาเจอว่าอะไรคือสิ่งที่ใช่!!”

เจเนอเรชั่น Z เกิดหลังปี 2538 โดยปีนี้เป็นปีแรกที่พวกเขาจะจบการศึกษาจากรั้วมหาวิทยาลัยและเริ่มเข้าสู่การเป็นพนักงานองค์กรอย่างเป็นทางการ บริษัท Bridgework ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและศึกษาด้านเจเนอเรชั่นมามากว่า 20 ปีในประเทศสหรัฐ ทำการศึกษาวิจัยคนเจน Z พบว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับการทำงานกับองค์กรที่มีเจตนารมณ์เดียวกับความเชื่อของพวกเขา เขาอยากทำงานกับองค์กรและผู้นำที่ใส่ใจต่อสังคม แต่มีข้อแม้ว่าผลตอบแทนต้องดีเพราะเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาเช่นกัน

จากการศึกษาพบว่าเจเนอเรชั่น Z มีลักษณะหลายอย่างที่ได้รับถ่ายทอดมาจากพ่อแม่เจเนอเรชั่น X (เกิดช่วงปี 2507-2522) ประกอบกับความเจริญของเทคโนโลยี การพัฒนาของสังคมและโลก ทำให้พวกเขามีลักษณะเฉพาะที่เป็นลักษณะของคนเจน Z ดังนี้

1. ยอมรับความแตกต่างและต้องการอยู่อย่างเท่าเทียม (Diversity & Inclusion) คนเจน Z ให้ความสำคัญกับความแตกต่างความหลากหลายในองค์กรและคาดหวังว่าองค์กรจะสามารถประสานความหลากหลายเหล่านี้ให้เป็นหนึ่งเดียว พวกเขาชอบลงมือปฏิบัติ คติประจำใจของพวกเขาคือ อย่าดีแต่พูด แต่จงลงมือทำ หากเขารู้สึกว่าองค์กรนั้นมีแต่คนพูด มีแต่คนสั่งงาน แต่ไม่มีคนทำงาน พวกเขาก็พร้อมเดินจากองค์กรนั้นไปอย่างทันที

2. ล้มแล้วลุกฟื้นตัวเร็ว (Resilient) คนเจน Z เรียนรู้ที่จะจัดการกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก และพร้อมที่จะหาทุกวิถีทางเพื่อให้ก้าวผ่านเหตุการณ์ที่ยากลำบากนั้นไปได้ พวกเขาเติบโตมาจากยุคที่เขาบริโภคข่าวสารความรุนแรงผ่านทางสื่อออนไลน์ จึงเรียนรู้ว่าความรุนแรงนั้นผ่านเข้ามาแล้วมันก็ผ่านไป เพียงอยู่กับมันให้ได้ ประกอบกับพ่อแม่ที่เป็นคนเจน X ก็มักสอนวิธีการรับมือกับสิ่งเหล่านี้

เมื่อพวกเขาก้าวเข้าสู่องค์กร พวกเขาจึงเป็นกลุ่มที่ไม่กลัวกับงานที่ยากลำบาก อยากทำงานกับองค์กรที่เปิดโอกาสให้ลองทำโครงการที่มีความท้าทาย ได้ทำงานแข่งกับเวลา แข่งกับความต้องการของลูกค้า ไม่กลัวแพ้ ล้มแล้วลุก

3. เชื่อมโยงข้อมูลรอบตัวได้เร็ว (Connected) คนเจน Z อาจจะงงเมื่อเห็นสมุดหน้าเหลือง และไม่รู้ว่าตู้โทรศัพท์สาธารณะคืออะไร พวกเขาเติบโตมากับยุคไวไฟ และสมาร์ทโฟน ข้อดีคือเมื่อเข้ามาในองค์กร หากพี่อยากรู้เรื่องอะไร พวกเขามีคำตอบเสมอ ทำตัวเสมือนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ที่เชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารรอบตัว พร้อมจะช่วยเหลือช่วยหาคำตอบให้กับคนในองค์กร แต่ในขณะเดียวกันจุดอ่อนที่เกิดกับคนเจนนี้คือพวกเขาขาดทักษะการสื่อสารแบบตัวต่อตัว เมื่อเข้ามาสู่องค์กร พี่ๆ อาจงงๆ ว่าทำไมน้องดูมีความมั่นใจแปลกๆ พูดอะไรพี่ฟังไม่รู้เรื่อง

คุณเคยเจอแบบนี้บ้างหรือยังคะ โลกกำลังเปลี่ยนไป คนกลุ่มนี้กำลังเป็นมวลชนกลุ่มใหม่ที่เข้ามาแทนที่ และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าพวกเขาจะกลายเป็นประชากรหมู่มากในองค์กร หากเรายังใช้ความเชื่อประสบการณ์เดิมในการตัดสินพนักงานและหวังให้น้องปรับตัวเข้าหาพี่ เราคงได้แต่เสียใจ เสียเวลาแถมไม่ได้คนทำงานเสียอีก