ใครมีข้อมูลปลดทรัมป์ได้ เอาไปเลย $10 ล้าน!
ขนาดคนใกล้ชิดกับโดนัลด์ ทรัมป์อย่างสตีฟ เบนนอนซึ่งเคยเป็นมือขวา ช่วยรณรงค์หาเสียงและสร้างฐาน
ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงขวาจัดยังกระซิบว่าโอกาสที่ทรัมป์จะอยู่ครบเทอม 4 ปีมีเพียง 30%
นับประสาอะไรกับคนที่ไม่ชอบทรัมป์ที่พยายามหาทางจัดการให้เขาต้องหลุดออกจากตำแหน่งด้วยวิถีทางที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญซึ่งมีอยู่สองทาง
หนึ่งคือการไต่สวนเพื่อถอดถอนโดยรัฐสภาที่เรียกว่า impeachment
สองคือการใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 หรือ 25th Amendment ซึ่งหมายถึงการที่รองประธานาธิบดีและเสียงส่วนใหญ่ของคณะรัฐมนตรีเห็นพ้องต้องกันว่าประธานาธิบดีไม่อาจทำหน้าที่ได้ด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง รองประธานาธิบดีจะแจ้งให้รัฐสภาทราบ รัฐสภาจะลงมติ หากรัฐสภาอนุมัติ ประธานาธิบดีก็หลุดจากตำแหน่ง
ข่าวบอกว่าสตีฟ เบนนอนเห็นว่าทรัมป์อาจจะเจอมาตรา 25 มากกว่า impeachment
แต่ความพยายามที่จะให้รัฐสภาไต่สวนทรัมป์เพื่อถอดถอนนอกจากที่ ส.ส. และ ส.ว. บางคนพยายามจะเคลื่อนไหวเรื่องนี้แล้ว ก็ยังมีกิจกรรมนอกสภาที่สร้างความฮือฮาไม่น้อย
ล่าสุดนายแลร์รี ฟลินท์ เจ้าพ่อนิตยสาร“ฮัสเลอร์”(Hustler) นิตยสารโป๊ชื่อดังของอเมริกาเสนอให้เงิน 10 ล้านดอลลาร์ (กว่า 340 ล้านบาท) กับใครก็ตามที่สามารถให้ข้อมูลที่มีน้ำหนักมากพอจะทำให้ปลดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งได้
นายฟลินท์ไม่ใช่เพียงแค่แสดงความเห็นผ่านการให้สัมภาษณ์สื่อเฉย ๆ แต่ควักสตางค์ลงโฆษณาเรื่องนี้เต็มหน้าหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ที่ถือเป็นหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ
เขาบอกว่ามั่นใจว่าจะมีชาวอเมริกันจำนวนมากที่น่าจะรู้ว่าเงินจำนวน 10 ล้านดอลลาร์นั้นมีค่ามากแค่ไหน และควรจะดึงดูดให้ผู้คนพยายามจะร่วมกันหาข้อมูลมาคว่ำทรัมป์ให้ได้
โฆษณาชิ้นนี้ยังให้หมายเลขติดต่อแจ้งข้อมูล ทั้งทางโทรศัพท์สายด่วนและอีเมล ในวันทำการระหว่างเวลา 8.30 น. - 18.00 น. เป็นระยะ 2 สัปดาห์ข้างหน้าด้วย
ในโฆษณาเต็มหน้าที่โดดเด่นมากชิ้นนี้ นายฟลินท์ ได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายในการเลือกตั้งของนายทรัมป์ และความเหลวไหลในการทำหน้าที่มากมายหลายประการ
ว่ากันตั้งแต่ข้อกล่าวหาว่านายทรัมป์ สมคบคิดกับรัสเซียเพื่อแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2559 จนถึงที่ทรัมป์ฉีกข้อตกลงปารีส ที่มีเป้าหมายเพื่อลดโลกร้อน
ไม่แต่เท่านั้นเขายังกล่าวหาว่าทรัมป์กำลังจุดชนวนสงครามนิวเคลียร์ ด้วยการเผชิญหน้ากับเกาหลีเหนือโดยไม่ให้ความสำคัญต่อการเจรจาทางการเมืองและการทูตเท่าที่ควร
พร้อมทั้งปิดท้ายยอมรับว่าการถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่งบริหารสูงสุดของประเทศเป็นเรื่อง”ยุ่งยากและท้าทาย” แต่เป็นทางเลือกหนึ่งที่คนอเมริกันจะต้องร่วมกันทำให้เกิดโดยเขาพร้อมจะใช้เงินส่วนตัวเพื่อสร้างกระแสในระดับชาติให้ได้
เหตุผลก็เพราะหากปล่อยให้ทำงานผิดพลาดอย่างน่าหวาดหวั่นเช่นนี้ทรัมป์จะทำลายความมั่นคงของประเทศต่อไปอีก 3 ปีก่อนจะหมดเทอมและนั่นจะเป็นสิ่งเลวร้ายยิ่งกว่าที่เห็นกันอยู่วันนี้
เขาจึงยอมเสนอเงิน 10 ล้านเหรียญเพื่อให้คนอเมริกันทั่วประเทศช่วยกันค้นหาข้อมูลที่จะเป็น smoking gun อันหมายถึงหลักฐานที่มัดทรัมป์อย่างปฏิเสธไม่ได้เพื่อรัฐสภาจะได้ดำเนินการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายฟลินท์เสนอเงินเพื่อกดดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงระดับสูงทางการเมือง
เมื่อปี 2007 เขาเสนอรางวัล 1 ล้านเหรียญผ่านโฆษณาเต็มหน้าอย่างนี้ให้ใครก็ได้ที่มีข้อมูลว่ามีใครมีความสัมพันธ์ทางเพศที่ผิดกฎหมายกับนักการเมืองหรือเจ้าพนักงานรัฐ
ก่อนหน้านี้เมื่อปี 1998 เขาก็ลงโฆษณาด้วยเนื้อหาทำนองเดียวกัน จนเชื่อกันว่าทำให้ได้ข้อมูลที่มีผลทำให้สมาชิกรัฐสภาบ๊อบ ลิฟวิ่งสตันต้องลาออกขณะที่เป็นตัวเต็งประธานสภาผู้แทนราษฎร
ปี 2012 เขาเสนอเงินรางวัล 1 ล้านดอลลาร์เพื่อให้มีการเปิดเผยข้อมูลการเสียภาษีของรายมิทท์ รอมนีย์ในฐานะที่เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีของพรรครีพับบลิกัน
และต้องไม่ลืมว่านายฟลินท์เคยประกาศเชียร์ฮิลลารี คลินตันให้เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯมาก่อนเช่นกัน!